ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม

ขงจื้อ

ผลงานของขงจื้อ
ลัทธิขงจื้อ
การสืบทอดขนบขงจื้อ
ปรัชญาขงจื้อ

ปรัชญาขงจื้อ

  • ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นห่วงว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น
  • การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว
  • บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้
  • คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ขอตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึง ถึงคุณธรรม
  • บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่องที่ขอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึง ถึงคุณธรรม
  • ผู้มีคุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา
  • ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย
  • จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล
  • บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น
  • คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอยู่เวลา
  • ยังปรนนิบัติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า
  • ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้
  • ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้องตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน
  • เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขา จะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ
  • ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย
  • ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น
  • บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น
  • บัณฑิตมีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน
  • พูดไพเราะตลบแตลง ทำให้สูญเสียคุณธรรม
  • เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย
  • ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา
  • เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา
  • เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็นภัยแก่เรา
  • บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล
  • อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์
  • ทบทวนเรื่องเก่า และรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้
  • นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา
  • ชอบเอาสองคนมาเทียบกันว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น
  • ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ
  • ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตาชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน
  • เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน
  • สิ่งที่แข็งที่สุด เอาชนะได้ด้วยสิ่งที่อ่อนที่สุด
  • เมื่อประตูบานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งก้อเปิดแต่บ่อยครั้งที่เรามัวแต่จ้องประตูบานที่ปิดจนไม่ทันเห็นว่ามีอีกบานที่เปิดอยู่
  • อย่ามัวค้นหาความผิดพลาด จงมองหาหนทางแก้ไข
  • อารมณ์ขันเป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดที่ช่วยรักษาสิ่งอื่นได้ เพราะทันทีที่เกิดอารมณ์ขันความรำคาญและความขุ่นข้องหมองใจจะมลายไปกลับกลายเป็นความเบิกบานแจ่มใสของจิตใจเข้ามาแทนที่
  • อย่ากลัวที่จะนั่งหยุดพักเพื่อคิด
  • 1 นาทีที่คุณโกรธเท่ากับคุณได้สูญเสีย 60 วินาทีแห่งความสงบในจิตใจไปแล้ว
  • หนทางเดียวที่จะรักษาภาพพจน์ได้คือการซื่อสัตย์ตลอดเวลา
  • ผู้ชนะไม่เคยลาออก และผู้ลาออกก็ไม่เคยชนะ
  • ออกซิเจนสำคัญต่อปอดเช่นไร ความหวังก็เป็นเช่นนั้นต่อความหมายของชีวิต
  • การมีชีวิตอยู่นานเท่าใดมิใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือ มีชีวิตอยู่อย่างไร
  • เราเข้าใจชีวิตเมื่อมองย้อนหลังเท่านั้น แต่เราต้องดำเนินชีวิตไปข้างหน้า
  • เราไม่อาจล้างมือที่แปดเปื้อนซ้ำได้เป็นครั้งที่ 2 ในสายน้ำไหล(สุภาษิต ทิเบต)
  • ไม่มีสิ่งใดช่วยให้คุณได้เปรียบคนอื่นมากเท่ากับการควบคุมอารมณ์ให้สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาในทุกสถานการณ์
  • ความอดทนคือเพื่อนสนิทของสติปัญญา
  • พรสวรรค์ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ คือ การที่เราสามารถเอาใจเขามาใส่ใจเราได้
  • ในธรรมชาติไม่มีสิ่งใดดีพร้อม แต่ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง ต้นไม้อาจบิดเบี้ยวโค้งงออย่างประหลาด แต่ก็ยังคงความงดงาม
  • มักพูดกันว่ากาลเวลาเปลี่ยนทุกสิ่ง แต่จริงๆแล้ว คุณต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตนเอง

     ลัทธิขงจื้อเป็นลักธิที่มีทั้งปรัชญาทางการเมือง มีทั้งการดำลงชีวิตตลอดจนการอยู่ร่วมกันและอื่น ๆ อีก ซึ่งสอนให้ผู้ศึกษาได้ทำความเข้าใจกับสังคม ทำความเข้าใจกับโลกด้วยการศึกษาและความรู้จักกับตัวเองให้มีคุณค่า เมื่อคนในสังคมแต่ละคนได้ปรับปรุงตนเองโดยสมบูรณ์แล้วก็จะได้ช่วยกันปรับปรุงแก้ไขสังคม แก้ข้อบกพร่องของสังคม และพยายามปรับตัวและปรับสังคมให้เข้ากันได้ เมื่อนั้นแหละสังคมก็จะมีแต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นผลทำให้โลกนี้มีแต่ความสงบและสัติสุขดังเช่นที่มนุษย์เราปรารถนา

ถ้าสังคมวุ่นวาย คนในสังคมก็จะไม่มีอะไรเป็นหลักที่จะยึดเหนี่ยวได้ดีไปกว่าลักธิและความเชื่อถือหรือความความมีศรัทธาในศาสนา ดังเช่นประเทศจีนที่มีลัทธิขงจื้อเป็นหลักในการบริหารประเทศ ชาวจีนส่วนใหญ่ยึดมั่นในลัทธินี้และก็ได้ถือปฏบัติต่อ ๆ กันมาเป็นเวลานานไม่ว่าบ้านเมืองจะมีความสงบสุขหรือมีความระส่ำระสาย จนอาจจะกล่าวได้ว่า ประเทศจีนสามารถดำลงอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้ก็เพราะประชาชนมีความศรัทธาในตัวผู้ปกครองประเทศ และตัวผู้ปกครองประเทศก็ให้ความสนับสนุนลัทธิขงจื้อนี้ด้วยบรรณานุกรม

  1. เขียน ธีระวิทย์, ดร., วิวัฒนาการการปกครองของจีน, กรุงเทพ : ไทยวัฒนาพานิช, 2517
  2. คณิน บุญสุวรรณ, จีนสามยุค., กรุงเทพ : กรุงสยาม, 2519
  3. พิทักษ์ อยู่ดี, “ประเพณีขงจื้อ” วารสารธรรมศาสตร์ ปีที่ 2 เล่มที่ 3 (เมษายน – มิถุนายน), 2515
  4. เพ็ชรี สุมิตร, อารยธรรมตะวันออก เล่ม 2 กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2515
  5. ไพโรจน์ โพธิ์ไทร, ภูมิหลังของจีน. กรุงเทพฯ : บรรณากิจเทรดดิ้ง, 2517

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย