วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา

E M (อี เอ็ม) คืออะไร

      ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิหงะ แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องส้ม แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาโรคระบาดในสวนส้มได้ แม้จะพยายามใช้ความรู้ความสามารถเพียงใดก็ไม่ได้ผล ในโอกาสนั้น ท่านได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะของท่านโมกิจิ โอกาดะ (เมซุซามะ) เกิดความสนใจ หนังสือเล่มหนึ่งของท่านโมกิจิ โอกาดะ เขียนไว้เกี่ยวกับการเกษตรธรรมชาติ มีข้อความที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น

• การเกษตรที่ปลอดสารเคมี
• ภัยพิบัติของมนุษย์ชาติและธรรมชาติของโลก
• ความรักของธรรมชาติต่อสรรพสิ่งในธรรมชาติของโลก
• สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในดินมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวล

ท่าน ศ.ดร.ทารูโอะ ฮิหงะ แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มการค้นคว้า เมื่อ พ.ศ. 2510 และได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตในดินที่เรียกว่าจุลินทรีย์ เมื่อ พ.ศ.2525 เป็นการค้นพบเทคนิคการใช้ E.M. (Effective Microorganisms) กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ความสำคัญ ณ จุดนี้คือ ได้ค้นพบการทำงานของจุลินทรีย์ในธรรมชาติ แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ

  1. ทำงานแบบสร้างสรรค์ เรียกว่า กลุ่มจุลินทรีย์สร้างสรรค์ มีประมาณ10 %
  2. ทำงานแบบเป็นกลาง เรียกว่า กลุ่มเป็นกลางคอยเกื้อหนุน 2 ฝ่ายแรก ทีมีจำนวนมาก ถึงประมาณ 80 %
  3. ทำงานแบบทำลาย หรือ กลุ่มจุลินทรีย์โรค มีประมาณ 10 %

“กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ” มีจุลินทรีย์รวมอยู่ 5 แฟมิลี่ 10 จีนัส 80 สปีชีส์ ในที่นี้จะมีทั้งจุลินทรีย์ที่ต้องการอากาศ คือ แอโรบิค แบคทีเรีย (Aerobic Bacteria) และจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ คือ อนาโรบิค แบคทีเรีย (Anaerobic bacteria)

E M (อี เอ็ม)

เป็นการรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาบรรจุในภาชนะเดียวกัน มีจุลินทรีย์รวมอยู่ 5 แฟมิลี่10 จีนัส 80 สปีชีส์ เพื่อนำไปใช้งานแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มคือ

1. กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic bacteria)
2. กลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติก (Lactic acid bacteria)
3. กลุ่มจุลินทรีย์ตรึงไนโตเจน (Nitrogen fixing bacteria)
4. กลุ่มจุลินทรีย์แอคทิโนมัยซีทส์ (Actenomycetes)
5. กลุ่มจุลินทรีย์ยีสต์ (Yeasts)

ลักษณะทั่วไปของ EM

  1. เป็นของเหลวมีสีน้ำตาลแก่ กลิ่นอมเปรี้ยว อมหวาน
  2. เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมี ยาปฏิชีวนะ และยาฆ่าเชื้อต่างๆได้
  3. ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งที่มีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืชและแมลงที่เป็นประโยชน์
  4. ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
  5. เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ทุกคนสามารถนำไปเพาะขยาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้ด้วยตนเอง
  6. หัวเชื้อ EM สามารถเก็บรักษาไว้ได้ประมาณ 6 เดือนที่อุณหภูมิปกติที่ 25-45 องศาเซลเซียส โดยปิดฝาให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าและอย่าเก็บไว้ในตู้เย็น ทุกครั้งที่นำออกมาใช้จะต้องรีบปิดฝาให้สนิท การขยาย EM ควรใช้ภาชนะและน้ำที่สะอาดและใช้ให้หมดในเวลาที่เหมาะสม
  7. ในกรณีที่เก็บไว้หลายวันโดยไม่มีการเคลื่อนไหว ในภาชนะจะมีฝ้าขาวๆเหนือ ผิวน้ำเป็นการพักตัวของเชื้อ เมื่อเขย่าทิ้งไว้ฝ้าสีขาวก็จะหายเป็นปกติ

ประโยชน์ของ EM ในด้านปศุสัตว์

  • ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นจากฟาร์มปศุสัตว์ภายใน 24 ชม.
  • ช่วยบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มได้ใน 1-2 สัปดาห์
  • ช่วยป้องกันโรคระบาดต่างๆในสัตว์แทนยาปฏิชีวนะและอื่นๆได้
  • ช่วยกำจัดแมลงวันด้ายการตัดวงจรชีวิตของหนอนแมลงวันไม่ให้เข้า ดักแด้เกิดเป็นแมลงวัน
  • ช่วยเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์แข็งแรง มีความต้านทานต่อโรค ให้ผลผลิตสูง และอัตราการตายต่ำ

EM สด

EM สด หมายถึง EM จากโรงงาน หรือ เอเย่นต์ หรือ ผู้จำหน่ายรายย่อย ที่ไม่ได้ทำการแปรสภาพ การใช้ EM แบบน้ำ มี 2 วิธี

  1. EM สด ราคาละ 90 บาท ซื้อมาใช้ได้เลย ใช้ผสมเท่าไรก็ได้ 1: 1;100 ; 200 ; 500 ; 1,000
  2. EM แบบขยาย คือ การทำให้จุลินทรีย์มีความแข็งแรง และเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยการจัดสภาพแวดล้อมให้ เหมาะสมและให้อาหาร ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้
    EM 1 ลิตร ราคา 90 บาท
    กากน้ำตาล 1 ก.ก. ราคา 5 บาท
    น้ำสะอาด 20 ลิตร ราคา - บาท
    รวม 22 ลิตร รวมราคา 95 บาท

ใช้เวลาในการหมัก 7 วัน จะได้ EM ที่สูตรขยายนี้ราคา 4.31 บาท/ลิตร (95 ÷ 22) และให้ใช้ให้หมดภายใน 7 วัน ถ้าหลังจาก 14 วันไปแล้วประสิทธิภาพของอีเอ็ม จะลดน้อยถอยลง จาก 100% เหลือ 90%....80%.....70%.....60%.....ตามลำดับ

EM ขับไล่แมลง

เป็นสารหมักเพื่อป้องกันและขับไล่แมลงศัตรูพืช/สัตว์ ไม่ใช่สารฆ่าแมลง เวลาใช้จึงจะเห็นผลช้า ไม่เหมือนสารเคมี ฉีดปุ๊บตายปั๊บ ดังนั้น จึงต้องรอเวลา หรือ ใช้บ่อยๆ เสมอๆ และใช้เป็นการป้องกัน มี 2 สูตร คือ

  1. สุโตจู (EM 5 ) แบบธรรมดา (ใช้เวลาหมัก 15 วัน)
  2. ซุปเปอร์สุโตจู (ซุปเปอร์ EM 5) (ใช้เวลาหมัก 1 วัน)

สารขับไล่แมลง /สุโตจู (EM 5) แบบธรรมดา

1. EM 1 ลิตร ราคา 90 บาท
2. กากน้ำตาล 1 ก.ก. ราคา 5 บาท
3. น้ำส้มสายชูแท้ 5% 1 ขวด ราคา 20 บาท
4. เหล้าขาว 40 ดีกรี 1 ขวด ราคา 100 บาท
5. น้ำสะอาด 6 ลิตร ราคา - บาท
รวม 10 ลิตร รวมราคา 215 บาท

วิธีทำ

  1. ผสมกากน้ำตาลกับน้ำจนเข้ากันดีแล้ว จึงนำเหล้า,น้ำส้ม,และ EM ผสม เขย่าหรือ คนให้เข้ากัน
  2. นำบรรจุในภาชนะหมักที่มีความจุพอดี ๆ คือ ให้มีช่องอากาศบ้างเล็กน้อย ประมาณ 10 % แล้ว ปิดฝาให้สนิท
  3. หมักไว้ 15 วัน ระหว่างการหมัก ให้เขย่าขวด เช้า – เย็น แล้วเปิดฝาระบายแก๊สออก แล้วปิดไว้
  4. เมื่อครบกำหนด สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 3 เดือน ระยะการเก็บ ควรเปิดระบายแก๊สบ้างเป็น บางครั้ง

วิธีใช้

  1. ใช้ทาแผลต่าง ๆ ทั้งแผลสด/แผลเปื่อย รวมถึงโรคผิวหนังเรื้อรังต่าง ๆ ยิ่งทาบ่อย ยิ่งหาย เร็ววัน
  2. ใช้ สุโตจู 1 ลิตร ร่วมกับ EM สูตรขยาย ถ้าสูตรขยายไม่ได้ผล หรือเห็นผลช้า จะบังเกิดผลดี

แบบธรรมดานี้ ต้องหมักถึง 15 วัน ราคาจะตกลิตรละ 21.50 บาท (210 ÷ 10) การใช้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเป็นสารพิษ เพราะว่าส่วนผสมเป็นของธรรมชาติทั้งนั้น ยาบางชนิดต้องใช้เวลา 1 เดือน ถึงจะนำมารับประทานได้

ซุปเปอร์สุโตจู (ซุปเปอร์ EM5)

ไม่ต้องหมักนาน และเก็บไว้ได้ 3 เดือน สูตรนี้ไม่มีน้ำผสม ราคาจะแพงกว่าสูตรธรรมดา ทำเป็นสารไล่แมลงที่จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพราะว่า ผสมไว้ 24 ชั่วโมง ก็มาสามารถ นำไปใช้ได้เลย มีส่วนผสมดังนี้

1. EM 1 ลิตร ราคา 90 บาท
2. กากน้ำตาล 1 ก.ก. ราคา 5 บาท
3. น้ำส้มสายชูแท้ 5% 1 ขวด ราคา 20 บาท
4. เหล้าขาว 40 ดีกรี 2 ขวด ราคา 200 บาท
รวม 5 ลิตร รวมราคา 315 บาท

วิธีทำ ผสมเหมือนกับสูตรสุโตจู(EM 5) แต่ไม่มีน้ำ คือ ผสมน้ำส้มสายชูแท้5%, เหล้าขาวและ กากน้ำตาล ให้เข้ากันดีแล้ว จึงใส่ อี เอ็ม คนให้เข้ากัน บรรจุใส่ในภาชนะพลาสติก โดยให้เหลือพื้นที่ว่าง ห่างจากปากขวด 2 นิ้วปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 24 ชั่วโมง (1 วัน) จะมีราคา 63 บาท (315 ÷ 5) นำไปใช้ได้เลย เก็บไว้ใช้ได้นาน 3 เดือน ถ้าเกินกำหนดประสิทธิภาพจะได้ผลน้อย

สารสกัดพืชหมัก (EM F.P.E.)

สารสกัดพืชหมัก EM (EM Fermented Plant Extract) เป็นสารที่มีการทดลองและนิยมใช้กันในต่างประเทศ เป็นการสกัดสารจากการหมักพืชสดด้วย EM โดยมีส่วนประกอบของกรดอินทรีย์ (Organic Acids) สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ แร่ธาตุ และสารที่มีประโยชน์จากวัชพืช ซึ่งมีต้นทุนในการผลิตต่ำ เพราะได้นำเอาวัชพืชมาเป็นองค์ประกอบในการผลิต โดยเก็บรวบรวมมาในตอนเช้า ก่อนพืชถูกแสงแดด คือก่อนพืชจะสังเคราะห์แสง มีส่วนผสมดังต่อไปนี้

พืชสมุนไพรสับชิ้นเล็ก ๆ 5 ก.ก. ราคา - บาท
น้ำ (สะอาด) 10 ลิตร ราคา - บาท
กากน้ำตาล 300 ซี.ซี. ราคา 1.5 บาท
E.M. 300 ซี.ซี. ราคา 27 บาท
รวม 10.65 ลิตร รวมราคา 28.50 บาท

วิธีทำ

  1. สับพืชสมุนไพรให้มีขนาด 2-5 เซนติเมตร บรรจุในภาชนะสำหรับหมัก
  2. ผสมกากน้ำตาลและน้ำละลายดีแล้วเติม E.M.คนให้เข้ากัน เทใส่ภาชนะสมุนไพรที่หมัก
  3. วางไม้หรือของหนักทับบนพืชสมุนไพร(กันไม่ให้สมุนไพรลอย) ปิดฝาให้สนิท
  4. หมักไว้ 7 วัน เทน้ำหมักในถังใส่ขวดหรือแกลลอนไว้ใช้ โดยใช้ผ้ากรองเศษพืชสมุนไพร
  5. เก็บถังหมักไว้ในที่ร่มและมีลมพัดผ่าน หมักไว้ 3 วัน คนพืชสมุนไพรในถัง

EM.F.P.E (สารสกัดพืชสมุนไพรหมัก EM.) ราคาลิตรละ 2.68 บาท (28.50 ÷ 10.65) ควรเก็บรักษาไว้ในที่มืดและเย็นในที่อุณหภูมิสม่ำเสมอ อย่าเก็บไว้ในตู้เย็นหรือถูกแสงแดด ควรนำออกใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน หลังจากการสกัดหรือหมักไว้

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย