สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทย

» อาชญากรคอมพิวเตอร์

» วิธีการที่ใช้ในการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

» ตัวอย่างพฤติกรรมที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.นี้

» ความผิดของผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บ

» วิธีการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและคอมพิวเตอร์

» พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์

» การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์

» อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์

» การละเมิดลิขสิทธิ์

» ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

» การใช้อินเตอร์เน็ต ที่เสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเทคโนโลยีและสารสนเทศ

การใช้อินเตอร์เน็ต ที่เสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเทคโนโลยีและสารสนเทศ

จะกล่าวถึงข้อกฎหมายที่พบว่า การใช้อินเตอร์เน็ต รูปแบบไหนเป็นการที่เสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดั่งเช่นที่จะกล่าวต่อไปนี้

-การใช้ "ชื่อ" และ "นามแฝง" ในโลกสังคมออนไลน์

โลกอินเตอร์เน็ตนั้นจะเปิดช่องทางให้ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อปลอม นามแฝง และสามารถ โกหกถึงสถานภาพและอายุได้อย่างง่ายดาย ในกรณีที่ใช้ "นามแฝง" ที่ตั้งขึ้นมาเองหรือไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดและไม่ได้เข้าไปเขียนข้อความให้ร้ายบุคคลอื่นนั้น คงจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ถ้าได้มีการนำชื่อของบุคคลอื่นมาใช้โดยเจ้าตัวไม่ได้รับรู้รับทราบ จนทำให้เกิดความเสียหายนั้นจะต้องมีการรับผิด ซึ่งอาจมีการถูกฟ้องร้องต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำดังกล่าวได้

-การพนันออนไลน์

ตามกฎหมายแบ่งแยกการพนันออกเป็น 2 ประเภท โดยแยกออกเป็น "บัญชี ก." และ "บัญชี ข." กลุ่มที่อยู่ในบัญชี ก. กฎหมายห้ามเล่นโดยเด็ดขาด อาทิ พวกหวย ก.ข. ไฮโล ไพ่ต่างๆ ส่วนประเภทสอง ที่อยู่ในบัญชี ข. เล่นได้แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนเว็บไซต์เกี่ยวกับการพนันออนไลน์มีนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่จะเป็นไพ่ต่างๆ และสล็อตแมชชีน ซึ่งถือเป็นการพนันตามบัญชี ก. ผู้ฝ่าฝืนก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 3 ปี อย่างไรก็ตาม การเล่นพนันออนไลน์ในขณะนี้ติดตามจับกุมยากและไม่คุ้มกับทรัพยากรของภาครัฐ จึงยังไม่ค่อยเห็นการดำเนินคดีอย่างจริงจัง

-ความผิดของ"เว็บมาสเตอร์"

"เว็บมาสเตอร์" คือคำเรียกขานผู้ดูแลเว็บไซต์ต่างๆ ในกรณีมีนักท่องเน็ตเข้ามาเขียนกระทู้ โพสต์ ข้อความหรือโพสต์รูปที่ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย รวมทั้งโพสต์ภาพอนาจาร หรือเขียนเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ตัวนักท่องเน็ต คนนั้นถือว่ากำลังทำความผิดทางอาญา ส่วนเว็บมาสเตอร์ ถ้าสืบสวนพบว่าเห็นข้อมูล ที่สร้างปัญหา แต่ปล่อยปละละเลยไม่สนใจลบข้อความทิ้งหรือแก้ไขข้อความก็อาจถูกฟ้องร้องฐานร่วมกระทำความผิดด้วย เช่น เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในเว็บไซต์ดังกล่าวไม่มีมาตรการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โอกาสต้องรับโทษจะยิ่งสูงขึ้น

"ลิงก์-ไฮเปอร์ลิงก์" ละเมิดลิขสิทธิ์

โลกอินเตอร์เน็ตเปิดโอกาสให้แต่ละเว็บไซต์เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้อย่างสะดวกง่ายดาย ผ่านระบบ ที่เรียกว่า"ไฮเปอร์ลิงก์" หรือ "ลิงก์" ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไปเอาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเผย แม้จะทำลิงก์เชื่อมโยงที่มาเอาไว้ แต่ถ้าไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของเว็บปลายทางโดยตรงก็อาจมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ หรือทำซ้ำงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นในสหรัฐอเมริกามีก็ได้ข้อถกเถียงกันในประเด็นดังกล่าวอย่างหลายถ้าจะเอาเว็บไซต์ของคนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บไซต์ของเราจะต้องไปขออนุญาตหรือไม่ ในประเทศไทยปัญหานี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่อนาคตอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนจะนำเว็บของคนอื่นมาลิงก์เข้ากับเว็บของเราก็ควรจะขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน

เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาในภายหลังอีกด้วย

-การดาวน์โหลดเพลง

"เพลง" ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ใครจะไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของไม่ได้ การอัพโหลดไฟล์เพลงขึ้นไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกัน ยิ่งถ้าทำเพื่อการค้าโดยเก็บเงินจากคนที่ดาวน์โหลดเพลงนับเป็นความผิดคดีอาญา สำหรับคนที่ดาวน์โหลดมาฟังเฉยๆ ถือเป็นการทำซ้ำแต่พอมีช่องทางทางกฎหมายที่จะอ้างได้ว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะถือเป็นการทำซ้ำมาเพื่อใช้ประโยชน์เอง และการดาวน์โหลดมาฟังยังพอมีช่องทางต่อสู้คดีได้ว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการใช้ประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะไม่ได้เอาไปขาย

-การซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์และนำมาก๊อบปี้แจกผู้อื่น

เนื่องจากโปรแกรมลิขสิทธิ์ หรือโปรแกรมถูกกฎหมายมีราคาแพงมาก ทำให้ธุรกิจโปรแกรมเถื่อน ละเมิดลิขสิทธิ์เฟื่องฟูยิ่งกว่าดอกเห็ด อย่างไรก็ตาม แม้เราจะซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มาใช้ แต่ถ้า นำโปรแกรมนั้นไปแจกให้เพื่อนฝูงก๊อบปี้ หรือทำสำเนาไปใช้ต่อ ถือว่ามีความผิดฐาน "ทำซ้ำ" ซึ่งเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นให้การทำสำเนาโดยเจ้าของโปรแกรมมีลิขสิทธิ์ ทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่การยกเว้นโดยไม่มีขอบเขต เพราะกฎหมายจำกัดจำนวนสำเนาว่า ให้มีจำนวนตามสมควร เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย

 

-อีเมล์ขยะ (สแปมมิ่ง)

ใครที่ใช้ "อีเมล์" ทุกวันร้อยทั้งร้อยคงรู้สึกเบื่อหน่ายกับ "อีเมล์โฆษณาขยะ" ทั้งหลายที่ส่งมาได้ทุกวัน วันละหลายๆ ฉบับ ทั้งน่าเบื่อ น่ารำคาญ และเสียเวลาอ่าน เจ้าของสินค้าหรือผู้ส่งอีเมล์ขยะเหล่านี้ได้ ข้อมูลที่อยู่อีเมล์ของเราผ่านวิธีการหลากหลายรูปแบบ เช่น ฝังโปรแกรม "คุกกี้" เอาไว้ตามเว็บไซต์ที่เราเข้าไปดู จากนั้นก็ส่งคุกกี้เข้ามาคอยสอดส่องเก็บข้อมูลการใช้คอมพิวเตอร์และอีเมล์ของเรา เพื่อส่งอีเมล์ขยะมาหา ในสหรัฐ ปัญหาอีเมล์ขยะทำให้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไปร้องเรียนกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เร่งออกมาตรการควบคุม และเคยเกิดคดีดังขึ้นคดีหนึ่ง หลังจากบริษัท "เอโอแอล" ไอเอสพีหรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ลงมือฟ้องร้องบริษัทไซเบอร์โปรโมชั่น ฐานส่งอีเมล์โฆษณาขยะไปยังอีเมล์ของลูกค้าเอโอแอล นอกจากนั้น ยังมีอีกคดีที่ไอเอสพีฟ้องผู้ส่งอีเมล์ขยะฐานะ "บุกรุก" คอมพิวเตอร์ลูกค้า

สาระสำคัญของกฎหมายที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ถูกใช้เป็นข้อมูลในกระบวนการการจัดทำกฎหมาย ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือ เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ หรือ ยุบรวมกันในระหว่างกระบวนการจัดทำกฎหมายได้ ดังจะเห็นได้จากกฎหมายที่มีผลใช้บังคับ คือ พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้รวมเอากรอบสาระของกฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ไว้ด้วยกัน พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2545 กฎหมายดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์อย่างมาก ทั้งต่อผู้กระทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เพราะกฎหมายดังกล่าวได้ระบุเรื่องการรับฟังพยานหลักฐานที่อยู่ในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้าไว้ด้วย ซึ่งเมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ จะต้องปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย การบังคับใช้กฎหมายจึงจะบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายสำคัญอีกฉบับคือ พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พศ. 2550 ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหลายต้องรับทราบและเข้าใจ เพราะนอกจากคำว่า กฎหมายจะเป็นเหมือนข้อบังคับสำหรับทุกบุคคล ที่อยู่ใต้บังคับของ กฎหมายต้อง รับรู้รับทราบแล้ว รายละเอียดในฉบับนี้ยังเกี่ยวข้องกับสิทธิที่ควรทราบ และบทลงโทษ ที่คนทั่วไปที่ใช้ระบบเครือข่ายสารสนเทศทั่วๆไปอาจละเมิดได้

และกฎหมายจะต้องมีพัฒนาการต่าง ๆ ไปตามสังคมในแต่ละยุคแต่ละสมัยดังที่เราจะเห็นได้ว่าในสมัยก่อนนั้นจะไม่มีกฎหมายว่าด้วยเรื่องของไอทีต่าง ๆ เช่นในปัจจุบัน เนื่องจากคนในสมัยก่อนนั้นยังมีการเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ยากจึงยังไม่มีการเห็นความสำคัญที่จะมีการตรากฎหมายว่าด้วยเรื่องดังกล่าวขึ้นมา แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ชัดว่า จะมีการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ได้ง่าย และมีผลเสียหายต่าง ๆ ที่ตามมาเป็นอย่างมากอีกด้วย จึงมีการตรากฎหมายว่าด้วยเรื่องดังกล่าวออกมาบังคับใช้ และก็จะมีการพัฒนาไปในทิศทางต่าง ๆ เพื่อให้มีผลใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่ใช่เฉพาะแต่ในเรื่องเกี่ยวกับไอทีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย ที่จะมีการพัฒนาตัวบทกฎหมายไปให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ตามยุคสมัยของสังคมที่มีการพัฒนาตัวเองอยู่แทบจะตลอดเวลาอีกด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย