ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ความเป็นมาของอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต
ประเภทของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้การสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์
การทำงานแบบบัฟเฟอร์ (Buffering)
ระบบสพูลลิ่ง (Spooling System)
ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming)
ระบบแบ่งเวลา (Time-Sharing System)
ระบบเรียลไทม์ (Real-Time System)
ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือพีซี (Personal Computer Systems)
ระบบมัลติโปรเซสเซอร์ (Multipocessor System)
ระบบแบบกระจาย (Distributer System)
โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ
เน็ตเวิร์ค (Networking)
ระบบสพูลลิ่ง (Spooling System)
เมื่อมีการคิดค้นเทคโนโลยีเทปแม่เหล็กมาใช้งานร่วมกับเครื่องอ่านบัตรทำให้มีการ
ประสิทธิภาพของซีพียูมากขึ้น
แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้นโดยจะจำลองข้อมูลจากบัตรลงบนเทป
เมื่อโปรแกรมต้องการอ่านบัตร ระบบปฏิบัติการจะเปลี่ยนไปอ่านที่เทปแทน
หรือแม้แต่การพิมพ์ก็โหลดข้อมูลลงบนเทปก่อนแล้วจึงพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์เรียกว่าทุกขั้นตอนจะต้องทำผ่านเทปแม่เหล็กนี้ก่อนทุกงาน
ถึงแม้จะทำให้เพิ่มความเร็วของงานได้บ้างแต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่โปรแกรมจะต้องทำงานผ่านขั้นตอนต่าง
ๆ มากขึ้น จนเมื่อมีการคิดค้นดิสก์ หรือจานแม่เหล็กขึ้นมาช่วยงาน
ทำให้หันมาให้งานดิสก์กันมากขึ้นเนื่องจากเหตุผลดังนี้
- ถ้าใช้เทปเมื่อทำการประมวลผลข้อมูลในเทปจะทำการโหลดข้อมูลจากเครื่อง
อ่านบัตร ลงเทปม้วนเดียวกันไม่ได้
- การแอ็กเซสข้อมูลในดิสก์จะทำโดยตรง ในขณะที่การแอ็กเซสข้อมูลในเทป
จะเป็นแบบซีเควนเชียล (sequential) หรือเรียงลำดับ
- เนื่องจากในดิสก์จะแอ็กเซสข้อมูลโดยตรงและทำงานได้ทันที (โดยมี
โปรแกรมพิเศษที่โหลดข้อมูลจากอุปกรณ์พร้อมกับการทำงานของโปรแกรมจากผู้ใช้)
แต่สำหรับเทปการโหลดข้อมูลจะต้องทำคนละเวลากับการประมวลผล
ลักษณะของทำงานของดิสก์กับอุปกรณ์รับ -
แสดงข้อมูลที่ต้องคู่ขนานกันไปนี้จะเป็นพื้นฐานของมัลติโปรแกรมมิ่งนั่นเอง
ซึ่งอาจจะเรียกว่า สพูลลิ่ง (Spooling) ซึ่งมาจากคำว่า Simultaneous Peripheral
Operation On Line ซึ่งหลักการทำงานแบบสพูลลิ่งนี้มีข้อดีที่เห็นได้ชัดเจน 2
ข้อคือ
- สพูลลิ่งเป็นระบบสำหรับงานมัลติโปรแกรมมิ่งพื้นฐาน
ทำให้มีการใช้ซีพียได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะทำงานพร้อมกันของงาน 2 งาน
โดนงานแรกจะประมวลผล ส่วนงานที่สองเป็นการรับ แสดงผลข้อมูลของอีกงานหนึ่ง
(ต่างกับบัฟเฟอร์ตรงที่บัฟเฟอร์จะทำงานพร้อมกันระหว่างประมวลผลกับการรับ
แสดงข้อมูลในงานเดียวกัน)
- เนื่องจากมีการแอ็กเซสข้อมูลของดิสก์เป็นแบบโดยตรง
ดังนั้นเมื่อมีงานส่งเข้ามาจะถูกจัดเป็น jobpool
ทำให้ระบบสามารถเลือกได้ว่าจะประมวลผลงานใดก่อนหลังตามลำดับความสำคัญ (Priority)
ดังนั้นงานใดที่มีความสำคัญ เช่น งานของผู้บริหารระบบก็จะทำงานนั้นก่อน
หรือเลือกอุปกรณ์ใดสนับสนุนงานนั้นก่อน เป็นต้น