ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ท่านศาสดามูฮัมหมัด
โดย ดร.ไมเคิล เอ็ช ฮารท์
แปลและเรียบเรียงโดย มุสลิมมะห์ออสเตรเลีย
2
ชนเผ่าเบดูอิน ( Bedouin ) ของประเทศอาราเบียนั้น
มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นนักรบ ซึ่ง มีความเหี้ยมโหดเป็นยิ่งนัก
เป็นชนเผ่าที่มีจำนวนน้อย ประจวบกับการมีเรื่องของการ แตกแยก
และการสู้รบทำลายล้างกันเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีความเท่าเทียมกันกับอีกฝ่าย
ที่มีทหารที่มีจำนวนมากกว่า โดยพวกเขาต่างมาจากราชอาณาจักร ในเขตที่มีพื้นที่
เกษตรกรรมอย่างอุดมสมบูรณ์ จากทางตอนเหนือ
อย่างไรก็ดี
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาหลายนั้นได้มารวมตัวกันเป็นปรึกแผ่น
ภายใต้การนำของท่านมูฮัมหมัด ผนวกกันเข้ากับการที่พวกเขาเหล่านั้น
มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง ซึ่งมีเพียงองค์เดียว
และกองทัพชาวอาหรับจำนวนน้อยนิดเหล่านี้ ได้กลายเป็นหนึ่งของความประหลาดใจที่สุด
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ ที่พวกเขาสามารถได้รับชัยชนะจากการรบ
หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน
ชัยชนะของพวกเขานั้น ได้กินพื้นที่ไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอาระเบีย
ซึ่งเป็น ที่ตั้งของจักรวรรดิเปอร์เซียนของซาซานิท
ส่วนในด้านทางตะวันตกเฉียงเหนือคือที่ตั้ง ของไบเซนไทน์ หรือจักรวรรดิโรมันตะวันออก
ซึ่งมีศูนย์กลางจักรวรรดิอยู่ที่ กรุงคอนสแตนติโนเปิล
เมื่อกล่าวถึงจำนวนนักรบแล้วนั้น
ชาวอาหรับไม่สามารถที่จะเท่าเทียมกันได้กับคู่ต่อสู้
แต่เมื่อเอ่ยถึงสมรภูมิรบแล้วล่ะก็
นักรบชาวอาหรับเหล่านี้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ได้รับชัยชนะ
ซึ่งได้ยึดอาณาจักรเมโสโปเตเมีย, ซีเรียและปาเลสไตน์ ในระยะเวลาอันสั้นๆ
ส่วนประเทศอียิปห์ได้ยึดมาได้จากจักรวรรดิไบเซนไทน์เมื่อปีค.ศ. 642 ในปีค.ศ.637
นักรบชาวเปอร์เซียนได้ถูกบดขยี้ลงในสงครามที่มีความสำคัญที่ กอฎีสิยะฮ์ (Qadisiya)
และสงครามที่นีฮาเวนด์ (Nehavend) ในปีค.ศ. 642
แม้กระทั่งชัยชนะที่ได้มาอย่างมากมายนั้น โดยมาจากภายใต้การนำของท่านอบู
บักรและท่านอุมัร อิบนุลคอฏฏอบ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของท่านมูฮัมหมัด ท่านอบู
บักรเป็นผู้รับตำแหน่งผู้นำ อย่างกระทันหัน หลังจากการเสียชีวิตของท่านมูฮัมหมัด
ส่วนท่าน อุมัร อิบนุลคอฏฏอบ ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำทันที หลังจากที่ท่านอบู
บักรเสียชีวิตลง
ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรอิสลาม
นั้นมิได้สิ้นสุดลงพร้อมไปกับการเสียชีวิติของ ผู้นำทั้งสองท่าน
(ท่านอบูบักรและท่านอุมัร อิบนุลคอฏฏอบ (ขอความพึงพระทัยจาก
พระองค์อัลเลาะห์ทรงมีแด่ท่านทั้งสอง)) ในปีค.ศ.711 กองทัพชาวอาหรับเหล่านี้ได้ทำ
สงคราม และได้ยึดดินแดนมาได้อย่างมากมายตั้งแต่ฝั่งทางด้าน แอฟริกาเหนือไปยัง
มหาสมุทรแอตแลนติก แล้วพวกเขาก็หันทัพไปตีทางเหนือข้ามช่องช่องแคบยิบรอลตาร์ (the
Strait of Gibraltar) และปกคลุมไปจนถึงอาณาจักรวิสิโกธิค (Visigothic Kingdom)
ในประเทศสเปน
เป็นชั่วระยะเวลาหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าชาวมุสลิมได้ครอบครองปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของชาว
คริสต์ในแถบยุโรป อย่างไรก็ตามในสงครามที่มีความล่ำลือชื่อ สงครามที่เมืองตูร์
(Battle of Tours) ในปีค.ศ.732 กองทัพชาวมุสลิมได้รุกเข้าไปในศูนย์กลางของฝรั่งเศส
และได้พ่ายแพ้ต่อชาวแฟรงค์ (Franks)
แม้กระนั้น ท่ามกลางการสู้รบมานับหลายศตวรรษ ชาวเผ่าเบดูอินเหล่านี้ได้รับ
แรงบันดาลใจจากท่านศาสดามูฮัมหมัด ด้วยการก่อตั้งและขยายอาณาจักรอิสลาม
ด้วยความอุตสาหะ โดยแพร่กระจายอาณาจักร ไปถึงพรมแดนของอินเดีย สู่มหาสมุทรแอตแลนติก
นับเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ในโลกของเรา
และไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามที่กองทัพมุสลิมได้รับชัยชนะจากการสู้รบ
ปรากฏว่าในที่สุดแล้ว มีผู้คนจำนวนมากมายที่ค่อยๆ เข้ามารับนับถือศาสนาอิสลาม
ชัยชนะทั้งหมดที่ได้มานั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน
ชาวเปอร์เซียก็ยังคงศรัทธา ในศาสนาของท่านศาสดา
แม้กระทั่งตอนที่ได้กลับไปสู่ความเป็นอิสระจากชาวอาหรับ แล้วก็ตาม
และในประเทศสเปนเองนั้น ได้มีศึกสงครามด้วยกันถึง 5 ครั้งซึ่งกินเวลามากกว่า
เจ็ดศตวรรษ ซึ่งในที่สุดชาวคริสต์ก็ได้ยึดสเปนกลับคืนมาได้ทั้งหมด