ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>

ตานก๋วยสลาก

ประเพณีการสู่ขวัญ
ประเภทของการสู่ขวัญ
การสู่ขวัญสัตว์
การสู่ขวัญสิ่งของ
การประกอบพิธีสู่ขวัญ
ขั้นตอนการประกอบพิธีสู่ขวัญ
ตุง
ประเภทของตุง
พิธีทอดผ้าป่า

ประเพณีการสู่ขวัญ

พิธีสู่ขวัญ หรือที่เรียกว่าการบาศรีสู่ขวัญ เป็นประเพณีดั้งเดิมเก่าแก่ที่ชาวร้อยเอ็ดนิยมกระทำสืบเนื่องติดต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน ถือว่าเมื่อจัดพิธีนี้แล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เป็นกำลังใจในการที่ประกอบคุณงามความดีต่อไปและจะทำให้มีความสุขความเจริญในชีวิตต่อไป

จากการศึกษาพบว่า เดิมนั้นการจัดพิธีบาศรีสู่ขวัญเป็นพิธีที่จัดในหมู่ของเจ้านายผู้ใหญ่จึงเรียกว่า " บาศรี " เพราะคำว่า "บา" ได้แก่ เจ้าขุนมูลนาย เช่น ชาวอีสานมักเรียกเจ้านายว่า บาคาน บาท้าว บาไทท้าว หรือบาบ่าวท้าว เป็นต้น ดังจะเห็นได้จากหนังสือวรรณกรรมอีสานเรื่องการะเกด สินไช หรือแม้แต่ในหนังสือ "เชตพน" ที่ไปสืบศาสนาในกรุงสาวัตถี ก็มีการเรียกขุนไทว่า "บา" เหมือนกัน ศัพท์คำว่า "บาศรี" ก็คือ การทำสิริหรือความดีให้กับชนชั้นผู้ดีหรือสิริแบบอย่างที่ทำให้กับ ผู้ดี ในสมัยต่อมาจึงนิยมแพร่หลายไปยังกลุ่มชาวบ้านที่เป็นสามัญชน ดังนั้นการประกอบพิธีอันก่อให้เกิดสิริมงคลนี้จึงเรียกว่า "การบาศรีสูตรขวัญ" ซึ่งเป็นศัพท์ดั้งเดิม (มนัส สุขสาย.ม.ป.ป. :1) สูตร เป็นคำเก่าแก่ของคนอีสาน ที่นิยมเรียกการสวดว่า "สูตร" เช่น สวดมนต์ คนอีสานเรียกว่า "สูตรมนต์" พิธีสวดเหมือนกับการสวดมนต์ ดังนั้นการสวดขวัญคนอีสานจึงเรียก "สูตรขวัญ" ซึ่งการสูตรขวัญเป็นพิธีกรรมดั้งเดิมของศาสนาพราหมณ์

 

ขวัญ ชาวอีสานถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่สามารถเห็นหรือจับต้องได้ เชื่อว่าขวัญมีลักษณะคล้ายกับจิตหรือวิญญาณ ซึ่งแฝงอยู่ในตัวตนของคนและสัตว์ตั้งแต่เกิดและจะต้องอยู่ประจำตนตลอดเวลา ถ้าตกใจ เสียใจ ป่วยไข้ ขวัญจะหนี อาจจะทำให้เจ้าของร่างถึงแก่ความตายได้ ฉะนั้นจึงต้องทำการเรียกขวัญ เพื่อให้ขวัญกลับมาอยู่กับตัวจะได้มีความสุขสบาย

การสู่ขวัญ เกิดจากความเชื่อว่า ถ้าขวัญออกจากร่างผู้เป็นเจ้าของขวัญผู้นั้นจะ ประสบกับผลร้ายต่าง ๆ ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวไว้ว่า ประเพณีการสู่ขวัญ จากความเชื่อที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ ที่ว่าคนเราเกิดมาย่อมมีธรรมชาติอันหนึ่งที่ เรียกว่า "ขวัญ" ประจำปกป้องรักษาตัวผู้เป็นเจ้าของขวัญเพื่อให้มีความสุข ไม่เจ็บป่วย แต่ถ้าขวัญ ของคนใดคนหนึ่งหายไปจากตัวจะทำให้คนนั้นเกิดความเจ็บป่วย มีความทุกข์ จนอาจสิ้นชีวิตได้ เพื่อให้ขวัญได้อยู่กับเนื้อกับตัวตามเดิมจึงได้มี "พิธีสู่ขวัญ" หรือเรียกว่า "พิธีเรียกขวัญ" ขึ้น

การสู่ขวัญเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวร้อยเอ็ด ที่กระทำสืบต่อกันมา ช้านานตั้งแต่บรรพบุรุษ เป็นประเพณีที่มีความเกี่ยวพันอย่างแน่นแฟ้นกับวิถีการดำรงชีวิต ของชาวร้อยเอ็ด ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เป็นประเพณีที่ชาวร้อยเอ็ดทำกันแทบทุกโอกาส

การจัดพิธีสู่ขวัญมีสาเหตุมาจากความดี คือ ทำขึ้นเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิต ให้ความร่มเย็นเป็นสุข เป็นต้นว่า สู่ขวัญแต่งงาน สู่ขวัญบวชนาค สู่ขวัญขึ้นบ้านใหม่ สู่ขวัญคนป่วย แม้ในเรื่องการประกอบอาชีพหรือการทำมาหากินของชาวร้อยเอ็ดจะมีพิธีกรรมนี้แทรกอยู่ เช่น

การสู่ขวัญข้าว สู่ขวัญลาน สู่ขวัญควายและวัว หรือในบางครั้งในโอกาสพิเศษ เช่น ได้ลูกใหม่ ไปค้าขายได้เงินมามาก ได้เลื่อนขั้นเลื่อนยศ นอกจากนี้การจัดพิธีสู่ขวัญในบางครั้งก็มีสาเหตุมาจาก สิ่งไม่ดี กล่าวคือเป็นการจัดให้มีขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดี หรือสิ่งที่เป็นอัปมงคล ให้หนีหายไป เช่น เมื่อหายจากเจ็บป่วย ลูกเสีย เมียตาย ก็จะทำการสู่ขวัญ การกระทำในที่นี้ก็ เพื่อทะนุถนอมน้ำใจ ปลุกปลอบส่งเสริมจิตใจให้ดี มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตในโอกาสต่อไป

คำว่า "ขวัญ" อย่างหนึ่งหมายถึง ผม หรือ ขน ที่ขึ้นเวียนเป็นก้นหอยบนศีรษะ อีกความหมายหนึ่ง หมายถึงสิ่งไม่มีตัวตนแต่จะมีประจำชีวิตของคนและสัตว์ ซึ่งได้แก่ จิตใจ ในบางครั้งขวัญจะมีความหมายรวมไปถึงสิ่งอันเป็นที่รัก เช่น เรียกเมียรักว่าเมียขวัญ จอมขวัญ ลูกรักว่า ลูกแก้ว ลูกขวัญ หรือ นาขวัญ บางที่จะเรียกสิ่งของที่ผู้รักใคร่นับถือนำมามอบให้เพื่อการทะนุถนอม น้ำใจว่า "ของขวัญ" ความหมายของขวัญที่ชาวร้อยเอ็ดให้ความหมายไว้มากที่สุดว่า ขวัญ คือ จิต หรือ วิญญาณที่ไม่มีตัวตน ที่มีอยู่กับชีวิตของคนเราทุกคน มีอยู่กับสิ่งของทรัพย์สินของคนเราทุกชนิด จิตหรือขวัญจะต้องอยู่กับร่างของคน สัตว์ สิ่งของ ตลอดเวลา ถ้าหากเมื่อใดขวัญออกห่างไปจาก ร่างกายคน ก็จะส่งผลให้คนนั้นมีอาการอ่อนแอ เจ็บป่วยและอาจเสียชีวิตไปในที่สุด คนที่มีขวัญอ่อน (อ่อนแอ) มักเจ็บป่วยอยู่เสมอ สาเหตุที่ทำให้ขวัญอ่อนนั้น เชื่อว่าสืบเนื่องมาจากการประสบอุบัติภัย สำหรับสัตว์และสิ่งของอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน เมื่อขวัญออกห่างไป ความหายนะก็เข้ามาแทนที่ นอกจากนี้ชาวร้อยเอ็ดยังมีความเชื่อว่า การที่ร่างย้ายจากสถานะหนึ่งไปอยู่อีกสถานะหนึ่งหรือย้ายจากที่หนึ่ง (ที่อยู่อาศัย) ไปอยู่อีกที่หนึ่งโดยกะทันหัน เช่น การไปทำงานในต่างถิ่น การไปเที่ยวสนุกสนาน จนลืมตัว เหล่านี้ก็ทำให้ขวัญเหินห่างจากร่างได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ขวัญออกจากร่างกาย หรือให้ขวัญกลับเข้าร่างเดิม จึงได้มีการเรียกขวัญขึ้นโดยมีขั้นตอนและพิธีกรรมต่าง ๆ ตามแบบอย่าง ที่เคยปฏิบัติกันมา

กล่าวได้ว่าการสู่ขวัญชาวร้อยเอ็ดเกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องขวัญที่ว่าในร่างคน สัตว์และสิ่งของ จะมีส่วนประกอบที่สำคัญคือขวัญ การจัดพิธีสู่ขวัญจัดทำขึ้นเพื่อให้ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัว เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล และเป็นการเสริมสร้างพลังทางใจ ให้กับผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีมา จึงจัดให้มีการสู่ขวัญหรือสูตรขวัญขึ้น เพื่อเรียกขวัญนั่นเอง การจัดพิธีบาศรีสู่ขวัญมีมูลเหตุสำคัญอยู่ 2 ประการดังนี้

  1. เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคล จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีที่ได้ประสบผลสำเร็จหรือได้รับชัยชนะ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการรับขวัญ บำรุงขวัญให้กำลังใจและถือเป็นการอวยพรให้ประสบความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป โอกาสดังกล่าว ได้แก่ การแต่งงาน การขึ้นบ้านใหม่ การต้อนรับแขกคนสำคัญ การบวชนาค เป็นต้น
  2. นิยมจัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่รอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ เป็นการทำพิธีโดย มีวัตถุประสงค์ เพื่อขับไล่ความอัปมงคลต่าง ๆ ให้ออกไป เมื่อสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายออกไปแล้วก็จะเกิดความเป็นสิริมงคลเข้ามาแทนที่ เช่น การสู่ขวัญเนื่องในโอกาสที่หายจากการเจ็บป่วย หรือหลังจากประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย