ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

บทวิเคราะห์เรื่องพุทธปรัชญา

ต้นกำเนิดความรู้ของมนุษย์

ชีวประวัติของพระพุทธองค์ได้แสดงถึงการได้มาซึ่งความรู้จากการศึกษาอบรมก่อน และพระองค์ก็ได้ทรงนำความรู้เหล่านี้ไปทดสอบดูผล จนกระทั่งทรงคิดหลักได้ใหม่อันนำไปยังผลคือความหลุดพ้นที่ทรงแสวงอยู่ ในการนี้พระองค์ทรงใช้วิธีไตร่ตรองทบทวนดู ความชัดเจนในชีวิตที่ผ่านมาแล้ว เป็นความจัดเจนในข้อเท็จจริงอันทรงประสพทางประสาทสัมผัสมาตั้งแต่ต้นกล่าวคือตั้งแต่ทรงเห็นคนแก่ คนชรา คนป่วย คนตาย และนักพรตเพื่อให้เข้าใจข้อนี้ดี เราควรพิจารณาเป็นข้อ ๆ ไปว่า นอกจากความรู้ที่เราได้จากการศึกษาแล้ว เราได้ความรู้จากทางใดบ้าง

  1. ความรู้คนเราอาจได้จากทางสัญชาตญานแต่ความรู้อย่างนี้มีวงศ์จำกัด ความรู้แบบได้จากสัญชาตญาณเช่นนี้ มนุษย์เราย่อมมีเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เหตุการณ์เกี่ยวกับเพศอาจทำให้มนุษย์วัยต่าง ๆ กันสำนึกรู้ในเรื่องเพศ ช้าเร็วผิดกันได้
  2. มีการเชื่อถือว่าความรู้ของคนเรา แต่ชาติก่อนอาจถูกระลึกขึ้นมาได้ในชาตินี้ กล่าวคือมีการทอดต่อกันทางจิตต์ใจของคนชาตินี้ที่เป็นคน ๆ เดียวกัน
  3. ปราชญ์โบราณและผู้รู้ “ ชั้นสูง ” บางคนในสมัยนี้สอนว่าความรู้เกิดจากการบันดาลให้มีขึ้นในจิตต์ใจของคนเราโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางทีก็สอนว่าความร็เป็นของมีอยู่โดยตัวของมันเอง และเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือพระเวทของพวกพราหมณ์ในอินเดีย เมื่อมีพระผู้เป็นเจ้าคอยดลใจ จิตต์ของพระองค์รวมกับจิตต์ด้อย ๆ ของคนเราอยู่ เราก็ได้ความรู้ตรงจากพระผู้เป็นเจ้านั้น หรือเมื่อเราบำเพ็ญโยคกรรมจนกระทั่งขึ้นสูงถึง “ ชั้นสำเร็จ ” แล้วพระเวทที่มีอยู่ชั่วนิรันดรก็เคลื่อนมาอยู่ในจิตต์ใจ หรือมาดลใจเรา
  4. มีความรู้ดั้งเดิมติดมากับตัวคนเรา บางอย่างมันคือความรู้ในการกำหนดหมายที่คนเรามีร่วมกันอยู่ นักปรัชญเอกของเยอรมันชื่อ Kant เรียกความรู้ประเภทนี้ว่า ความรู้ในความเกี่ยวข้องระหว่างสรรพสิ่งเช่นรู้ว่า “ปลาย” เกี่ยวกับ “ ต้น” รู้ว่าชะลอมคือประมวญแห่งไม้ไผ่สานเป็นต้น ความรู้ดั้งเดิมหรือ Apriori knowledge เช่นนี้ ค๊านท์อ้างว่าเรามีติดตัวมาแต่กำเนิด มิใช่ได้มาจากการศึกษาแต่อย่างไร แต่เราคิดว่าความรู้ดั้งเดิมได้จากความรู้ทางประสาทสัมผัสนั่นเอง และฉะนั้นจึงหาใช่ความรู้ดั้งเดิมที่มีมาในจิตต์ใจแต่เดิมทางเดียวจริงๆ ไม่
  5. ความรู้มนุษย์นั้นย่อมได้จากการสัมผัสโลกภายนอกเป็นปฐม กล่าวคือได้มาทางประสาทสัมผัสนั่นเอง แต่มิใช่ได้จากความคิดล้วน ๆ แม้ความคิดของเราเองก็หาใช่อื่นไกลไม่ หากเป็นการสะท้อนของสิ่งที่เห็นนอกกายเราขึ้นในสมองของเรานั่นเอง เรามีอำนาจพิเศษอยู่อย่างเดียวคืออำนาจความทรงจำ
  6. ความรู้ได้จากการคิดตามตรรก มีนักคิดสมัยใหม่ผหลายท่านทีเดียวเชื่อว่าประสาทสัมผัสทำให้เรารู้อะไรลึกซึ้งไม่ได้ จึงสอนว่าเหตุผลจะนำเราไปสู่ความแท้จริงที่อยู่ซ่อนเร้นลึกซึ้ง การเชื่อมั่นนี้ทำให้เกิดการเก็งความจริงทางปรัชญาด้วยเหตุผลทางตรรกวิทยา และทำให้เกิดวิทยาการ “สูง” ที่เรียกกันว่าอภิปรัชญาขึ้น

การพบความทุกข์ยากของประชาชนทางประสาทสัมผัสแล้วทรงเก็บไปคิดจนกระทั่งทรงค้นพบพุทธธรรมนั้น แสดงว่าความรู้อันทำให้เกิดความคิดย่อมมีรากฐานมาจากข้อเท็จจริงทางประสาทสัมผัสก่อน หลักกาลามสูตรของพระองค์ย่อมแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงใช้วิธีคิดจากสิ่งที่แน่นอนอย่างหนึ่งไปสู่สิ่งที่แน่นอนอีกอย่างหนึ่ง เป็นการคิดจากข้อเท็จจริง จากสัจธรรมไปสู่สัจธรรม วิธีการกหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาของพระองค์ได้ถูกค้นพบ แต่ไม่ใช่ถูกคิดขึ้นมาด้วยประการฉะนี้ ความรู้ในพุทธปรัชญาจึงเป็นความรู้ที่หามาได้ตามวิธีการของวิทยาศาสตร์ และพุทธธรรมก็หาใช่อื่นไกลไม่ หากเป็นวิทยาศาสตร์ว่าด้วยความประพฤติและความเป็นไปของมนุษย์เท่านั้นเอง ความรู้ที่เราได้มาทางประสาทสัมผัสนั้น อาจมีได้หลายทางด้วยกันเช่นทางวิทยาศาสตร์ ทางวิศวกรรม ทางอุตสาหกรรม แต่ความรู้เหล่านี้ ยังไม่ใช่ความรอบรู้ เพราะมันเป็นความรู้โดยเฉพาะในวงแคบสำหรับสิ่งที่เรา “ ติดข้อง ” อยู่ ปัญญาหรือความรอบรู้คือความรู้ในหลักอันกว้างที่สุดเพื่อประโยชน์แห่งกรเข้าใจโลก และเพื่อประโยชน์แห่งการหลุดพ้นไปเสียจากความคิดข้องขอบเขตของความรู้ทางพระพุทธศาสนาคือ การหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาไปได้ เขาย่อมจะหมดความสงสัยทุกประการและนั่นย่อมหมายความว่าเขามีปัญญาขั้นสูงถึงขีดสุดแล้วความรู้เดิมของคนเราย่อมได้ทางประสาทสัมผัส

ค๊านท์ นักปรัชญาเอกของศตวรรษที่ 18 ได้สอนไว้ว่า ความรู้เดิมของมนุษย์นั้นได้ทางประสาทสัมผัส ความรู้เดิมที่ติดตัวมากับเชื้อชาติมนุษย์ ก็มีเหมือนกัน เช่นความรู้ในกาลและอวกาศและความรู้ในความเกี่ยวข้องอันอยู่เหนือสัมผัสของคน ในทางพระพุทธศาสนาไม่ปรากฏมีคำสอนตรงไปตรงมาอย่างนี้แต่จากการ โต้ตอบระหว่างพระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสนในตำรับมิลินทปัญหา ซึ่งเป็นตำหรับปรัชญาเถรวาทอย่างแท้ที่สุด ปรัชญาเถรวาทรับคำสอนที่ว่าความรู้นั้นได้รับมาทางประสาทสัมผัสก่อน กล่าวคือในมิลินทปัญหา พระนาคเสนปฏิเสธการคิดความรู้ขึ้นมาเองของจิตต์ใจ ความรู้ในสิ่งข้างนอกเกิดจากประสาทสัมผัสนั่นเอง อีกประการหนึ่งพระนาคเสนปฏิเสธการมี “ เจตภูต” หรือจิตต์โดยตัวของมันเอง นักปราชญ์และนักคิดจำนวนมากมายไม่ให้เราเชื่อประสาทสัมผัส ทั้งนี้โดยอ้างว่าอาจลวงเราได้ ความประจักษ์ทางประสาทสัมผัสเป็นเครื่องทดสอบว่าสิ่งหนึ่งมีอยู่จริง แต่มันมีอยู่อย่างไร นานช้าเท่าไรเป็นสิ่งที่ต้องศึกษากันต่อไป เมื่อเราได้รับข้อเท็จจริงจากความประจักษ์มาอย่างหนึ่ง เรากลับนำข้อเท็จจริงอันได้จากความประจักษ์ทางประสาทสัมผัสไปบอกแก่มนุษย์โดยใช้ภาษาเป็นสิ่งแทน มนุษย์ใช้เสียงต่าง ๆ ซึ่งผันแปรไปตามการระคนกันของเสียงพยัญชนะ เสียงสระและเสียงวรรณยุกต์เป็นสิ่งแทนข้อเท็จ ต่อมาเมื่อมีข้อคิดทางนามธรรมเกิดขึ้นก็ใช้เสียงแทนสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ปัญญาชนที่สร้างคำนามธรรมเกิดขึ้นก็ใช้เสียงแทนสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ปัญญาชนที่สร้างคำนามธรรมขึ้น ได้กรทำตามความเข้าใจของตน การศึกษาสิ่งที่ปัญญาชนเสนอมา จึงอาจเป็นอย่างที่ Lewis Carral กล่าวไว้ว่า “ คนเราเรียนวิชาตามที่ครูสอน

ความรู้ของมนุษย์พวกนี้ “ แบ่งชนชั้นวรรณะ ” โดยให้ความเข้าใจว่าความรู้สูงมาจากปัญญาชน ส่วนความรู้ต่ำมีอยู่ในหมู่ประชาชนการไม่กล่าวเท็จเป็นเบื้องต้นของปรัชญาเถรวาท

ความรู้ซึ่งคนเราได้มาทางความประจักษ์ผ่านประสาทสัมผัสนั้นย่อมเป็นความรู้เฉพาะตัวเราแท้ ๆ แต่เมื่อเรานำความรู้นี้ไปบอกให้บุรุษที่สองฟังตรงตามที่เราประจักษ์ โดยใช้ภาษาแทนเราย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้กล่าวความสัตย์ แต่ถ้าเราประสพข้อเท็จจริงและเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่กลับไปบอกเล่าให้คนที่สองฟังด้วยถ้อยคำที่ไม่ตรงกัน เราย่อมอยู่ในลักษณะเสนอข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน ศาสนาหรือปรัชญาใด ๆ ก็ตาม ต้องเสนอแต่สัจจธรรม ปรัชญาเถรวาทมีวัตถุประสงค์จะสั่งสอนให้คนเรามีศีลธรรมอันสมบูรณ์

» ศาสนวิทยาและจริยสังคมวิทยา

» ประวัติศาสตร์ของศาสนา

» ศาสนาแต่เบื้องบุพกาล

» วิญญาณนิยม และเทวนิยม

» ศาสนาแห่งความกลัว

» ศาสนาแห่งความสำนึกคุณ

» ศาสนาแห่งกลียุค

» แนวทางของจริยสังคมวิทยา

» กำเนิดและการแผ่พุทธศาสนา

» อารยธรรมดึกดำบรรพ์

» การแบ่งชนชั้นวรรณะในอินเดีย

» การค้นพบพุทธปรัชญา

» พระพุทธศาสนาในประเทศไทย

» การเสื่อมของพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย

» ญาณวิทยาของพระพุทธศาสนา

» ปรัชญาเถรวาทให้ข้อแนะนำไว้ในกาลามสูตร

» ก่อนที่จะยอมรับหลักคิดหรือความรู้ใด ๆ เป็นสรณะ

» ต้นกำเนิดความรู้ของมนุษย์

» หลักแห่งการทดสอบข้อเท็จจริง

» พุทธภววิทยา

» วิทยาอักซิโอในพุทธปรัชญาพุทธจริยศาสตร์

» พุทธปรัชญาเป็นลัทธิมัชฌิมาปฏิปทา

» ปรัชญาเถรวาทและสุนทรศาสตร์

» ปรัชญาเถรวาทและปฏิมากรรมวิทยา

» พุทธจริยศาสตร์ (BUDDHIST ETHICS )

» ความจำเป็นของจริยศาสตร์

» พุทธจริยศาสตร์ว่าด้วย “ กรรม ”

» ผลสนองของกรรม

» คำสอนว่าด้วยปรุงจิตต์แต่งกรรม

» ภารกิจของพระพุทธศาสนาต่อประเทศไทยและพุทธศิลปะในประเทศไทย

» ผลทางจิตใจ

» ผลทางวัตถุ

» สิ่งเคารพอันเป็นพระพุทธรูป

» สถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนา

» ภาพศิลปะทางพระพุทธศาสนา

» วรรณคดีทางพระพุทธศาสนา

» ภาระกิจของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย

» พระสงฆ์

» นักศาสนา

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย