วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
วรรณคดีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลจากวรรณคดีต่างประเทศ
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ พระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ พระนิพนธ์สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
สามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง (หน) อำนวยการแปล
พระอภัยมณี ของ สุนทรภู่
บรรณานุกรม
กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ พระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
หนังสือเรื่องกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ มี 3 สำนวน คือ
1. ฉบับพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์
เป็นสมุดไทยดำ เส้นรงค์ เลขที่ 79 แต่งเป็นคำกาพย์
ตอนท้ายระบุเขียนเสร็จเมื่อวันแรมค่ำหนึ่ง เดือน 5 จุลศักราช 1115 ตรงกับพุทธศักราช
2296 ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ข้อความดังกล่าวมีดังนี้
เถลิงสารสำฤทแทวาจก ปีมเมียฉ้อศกเสรจถอย
วันสะสิเดอินหกแรมคำนึงนาจลศักราชพันรอยสืบหาปีปลาย
เมื่อนำมาจัดวางรูปแบบเสียใหม่ก็คือโคลงสี่สุภาพนั่นเอง
เถลิงสารสำฤทแท วาจก
ปีมเมียฉ้อศก เสรจถอย
วันสะสิเดอินหก แรมคำ นึงนา
จลศักราชพันรอย สืบหาปีปลาย
มีประวัติของหนังสือสมุดไทยนี้ว่าหอสมุดแห่งชาติได้ต้นฉบับตัวเขียนกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ฉบับพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์
มาจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. 2484 และยังไม่ได้พิมพ์เผยแพร่
เมื่อหอสมุดแห่งชาติได้ชำระกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ฉบับภิกษุอินท์และพระยาราชสุภาวดีใหม่จากต้นฉบับสมุดไทย
6 เล่ม และพิมพ์เผยแพร่ พ.ศ. 2539 หลังจากมีการตีพิมพ์ครั้งแรกไปแล้วเมื่อ พ.ศ.
2489 ได้กล่าวถึงฉบับบรมโกษฐ์นี้ไว้ด้วยว่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ดูแล้ว อาจไม่ใช่ฉบับกรุงศรีอยุธยา
เพราะตัวหนังสือมิได้แตกต่างจากฉบับกรุงธนบุรี
หากไม่ปรากฏข้อความในส่วนท้ายดังกล่าวก็มิสามารถระบุได้ว่าเป็นฉบับในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ข้อสันนิษฐานดังกล่าวยังไม่ถือเป็นข้อยุติ
เพราะหากฉบับบรมโกษฐ์เขียนขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ผู้เขียนจะต้อง
โกหก ว่าเขียนเมื่อ จ.ศ. 1115 ดังนั้น
ประเด็นนี้น่าจะได้มีการศึกษาในเชิงประวัติวรรณคดีกันต่อไป
2. ฉบับภิกษุอินท์และ พระยาราชสุภาวดี
เป็นสมุดไทย 6 เล่ม เลขที่ 73 75 เป็นฉบับที่เขียนในสมัยกรุงธนบุรี
สันนิษฐานจากเนื้อความที่ระบุไว้ท้ายเรื่องว่า
เริ่มกลอนบพิตรท่าน พระยาราชสุภา-
วดีลิขิตตรา แสดงนามโดยมี
ผู้ช่วยบริรักษ์ นราโลกพราหมณ์ชี
ในกรุงนครศรี ธรรมราชบุรินทร์
ทุกกาลผดุงการ ประกอบชอบ บ เว้นถวิล
ซึ่งเป็นฉบับจิน- ตนาท่าน บ ให้สูญ
นางกฤษณานาถ ก็มีเรื่องบริบูรณ์
สมุดเดิมก็เศร้าสูญ สลายลบ บ เป็นผล
เชิญเราชิโนรส พระนามอินทนิพนธ์
พจนารถอนุสนธิ์ จำหลักฉันทจองกลอน
เนื้อความฉบับธนบุรีเหมือนกันฉบับอยุธยาทุกประการ
ต่างกันเพียงชื่อน้องสาวนางกฤษณา ใช้ว่านางจรับประภา หรือจันทรประพา
แทนนางจิรัประภา ต่างที่ตัวสะกดและการใช้คำบางคำ
นอกจากนี้ยังพบว่าฉบับพระภิกษุอินท์และพระยาราชสุภาวดีมีตอนหนึ่งที่คัดลอกกาพย์ฉบังจากฉบับเดิมตกไปบทหนึ่ง
แต่แก้ไขโดยเติมคำเพื่อให้สัมผัสระหว่างบท ทำให้วรรคนั้นมีคำถึง 7 คำ แทน 6 คำ
ดังนี้
(ฉบับบรมโกศ)
แมนอยูตามคำสังษร ทวยเทพนิกวร
จอวยวระมิงมงคน
กระษัตรอัถะทิ่ศทุกหน นรโลกยเลงผล
ยอมลอนจะยอยศไกรย
เทพอยูกำภูฉัตไชย ชมชื่นพระไทย
จะโอนศริสะษาทุกการ
(ฉบับภิกษุอินท์)
แม้นอยู่ตามคำสั่งสอน ทั่วเทพนิกร
จะอวยยอมิ่งมงคลไป
เทพอยู่กับภูฉัตรชัย ชมชื่นพระทัย
จะโอนศิรสาธุการ
ดังนั้น กล่าวได้ว่า
กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ฉบับสมัยพระเจ้าอยู่บรมโกศเป็นสำนวนเก่าที่แต่งสมัยอยุธยา
อาจมีผู้คัดลอกไว้หลายฉบับ แต่ก็ชำรุดเสียหาย ดังที่ฉบับภิกษุอินท์กล่าวไว้ว่า
ฉบับเดิมก็สูญหาย สลายลบ บ เป็นผล ทำให้ในสมัยกรุงธนบุรี
จึงมีผู้สร้างขึ้นใหม่ตามประเพณีนิยมในสมัยโบราณ
เพื่อสืบทอดและรักษาวรรณคดีไว้ไม่ให้สาบสูญ
เมื่อเทียบฉบับธนบุรีกับฉบับพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
จึงพบว่าเนื้อความในทั้งสองฉบับเหมือนกันแทบทุกคำ
ยกเว้นกาพย์ฉบังตอนที่ยกมาเทียบข้างต้น ดังนั้น
ฉบับภิกษุอินท์จึงไม่ใช่ฉบับที่แต่งขึ้นใหม่โดยพระยาราชสุภาวดีแต่งตอนต้นและภิกษุอินท์แต่งต่อจนจบอย่างที่เข้าใจกัน
แต่เป็นการ เขียน ขึ้นใหม่แทนสมุดไทยฉบับเดิมที่ชำรุดเสียหาย โดยพระยาราชสุภาวดี
ผู้ช่วยราชการเมืองนครศรีธรรมราช เป็นผู้ประสงค์จะรักษา ฉบับจินตนาท่าน บ ให้สูญ
จึงขอให้พระภิกษุอินท์เขียนขึ้นใหม่
และด้วยความเป็นผู้รู้หนังสือและการแต่งคำประพันธ์ ภิกษุอินท์จึงไม่เพียงทำหน้าที่
จาร หรือ คัดลอก เท่านั้น แต่ยังแต่งอินทรวิเชียรฉันท์เพิ่ม 9 บท
เพื่อบอกเล่าประวัติหนังสือ ยกย่องคุณค่า
และบันทึกชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างกฤษณาสอนน้องคำฉันท์ขึ้นใหม่และแต่งวสันตดิลกฉันท์อีก
7 บทเพื่อชี้แจงความรู้ในการแต่งฉันท์จากคัมภีร์วุตโตทัยด้วย
ดังนั้น การเพิ่มคำก็ดี การเปลี่ยนคำก็ดี การลอกกาพย์ฉบังตก 1 บทก็ดี
รวมทั้งการเพิ่มบทฉันท์ รวมอีก 16 บทในฉบับพระภิกษุอินทร์และพระยาราชสุภาวดี
น่าจะแสดงให้เห็นว่าเป็นฉบับที่สร้างขึ้นในภายหลังฉบับบรมโกศ
มีประวัติว่าหอพระสมุดซื้อต้นฉบับกฤษณาสอนน้องสำนวนนี้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.
2450