ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

เอตทัคคะ

พระโกณฑธานเถระ เอตทัคคะ : ในทางถือสลากเป็นปฐม

นามเดิมชื่อว่า“ธานะ”เพราะเหตุที่ท่านมี ภาพลวงตาเป็นสตรีติดตามท่านด้วยผลกรรมในชาติก่อนของท่าน ภิกษุและสามเณรทั้งหลายจึงตั้งชื่อเพิ่มให้ท่านว่า “โกณฑธานหรือกุณฑธาน”บิดาและมารดาของท่านไม่ปรากฎนามท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์เมืองสาวัตถี ท่านได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีและได้รับการศึกษาในเพศฆราวาสจนจบไตรเพทแต่ก็ไม่ได้ตั้งตนเป็นอาจารย์สอนใคร ๆ

พอท่านมีอายุย่างเข้าปัจฉิมวัยได้ฟังธรรมของพระศาสดาเป็นประจำจนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงขออุปสมบท และได้บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่ที่ท่านบวชด้วยอกุศลกรรมที่ท่านทำในอดีตชาติ เวลาที่ท่านจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ภายในวัดหรือนอกวัดก็ตาม โดยเฉพาะในเวลาที่ท่านเที่ยวบิณฑบาต จะมีคนเห็นภาพสตรีตนหนึ่งติดตามหลังท่านไปเสมอ แต่ตัวท่านเองไม่ทราบเลย พอคนใส่บาตรก็จะบอกว่าส่วนนี้ของท่านส่วนนี้สำหรับหญิงสหายของท่าน

ในอดีตชาติ ท่านเป็นภุมมเทวดาเห็นพระเถระสองรูปรักใคร่สามัคคีกันฉันพี่น้องจึงคิดร้ายประสงค์ให้แตกสามัคคีกัน คราวหนึ่งพระรูปหนึ่งปวดท้องขอไปปลดทุกข์ อีกรูปหนึ่งคอยอยู่เมื่อสบโอกาสเช่นนี้ เทวดาจึงจำแลงเป็นหญิงแก้ผ้าตรงพุ่มไม้บริเวณที่ไปปลดทุกข์รูปที่คอยอยู่เห็นดังนั้นจึงเข้าใจผิดว่า พระเพื่อนเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์แล้ว ทั้งสองเกิดเหตุทะเลาะแตกสามัคคีกัน เพราะเหตุนี้ ผลวิบากกรรมที่ท่านทำในปางก่อนนั้น ด้านหลังของท่านปรากฏว่าเป็นรูปผู้หญิงเป็นเงาเหมือนจริงติดตามตลอดเวลา รูปเงานี้คนอื่นมองเห็น แต่ตนเองมองไม่เห็น

  • ท่านมีภาพเงาผู้หญิงติดตามหลังตลอด
  • เมื่อท่านถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท่านเป็นคนเลี้ยงหญิงมีผู้หญิงติดตามตลอด ท่านมักโกรธและด่าทออย่างแรง แต่พระศาสดาทรงห้ามปรามมิให้กระทำการด่าตอบ
  • ท่านมีความยากลำบากเรื่องอาหารบิณฑบาตเนื่องจากคนอื่นเข้าใจท่านผิดเรื่องผู้หญิง ต่อมาพระเจ้าปเสนทิโกศลทราบความจริงจึงทรงอุปถัมภ์ท่านด้วยอาหาร ทำให้ท่านสามารถบำเพ็ญสมณธรรมได้อย่างสัปปายะจนบรรลุพระอรหันต์ แล้วภาพผู้หญิงก็หายไป
  • เวลารับสลากกิจนิมนต์ท่านมักจับได้สลากได้ก่อนเสมอ ดังนั้น ท่านจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จับสลากเป็นปฐม

พระอัญญาโกณฑัญญเถระ : รัตตัญญู คือ ผู้รู้ราตรีนาน
พระอุรุเวลกัสสปเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีบริวารมาก
พระสารีบุตรเถระ : เป็นเลิศในทางมีปัญญามาก อัครสาวกเบื้องขวา
พระมหาโมคคัลลานเถระ : เป็นผู้เลิศในทางเป็นผู้มีฤทธิ์มาก
พระมหากัสสปเถระ : ผู้ทรงธุดงค์คุณ
พระมหากัจจายนเถระ : อธิบายความย่อให้พิศดาร
พระโมฆราชเถระ : ทรงจีวรเศร้าหมอง
พระราธเถระ : มีปฏิภาณ(ไหวพริบดี)
พระปุณณมันตานีบุตรเถระ : เป็นผู้เลิศในด้านการแสดงธรรมเทศนา
พระกาฬุทายีเถระ : ทำสกุลที่ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส
พระนันทเถระ : เป็นผู้เลิศฝ่ายข้างสำรวมระวังอินทรีย์ 6
พระราหุลเถระ : เป็นเอตทัคคะทางผู้ใคร่ต่อการศึกษา
พระอุบาลีเถระ : ผู้ทรงพระวินัย (วินัยธร)
พระภัททิยเถระ : ในทางเป็นผู้เกิดในตระกูลสูง หรือสุขุมาลชาติ
พระอนุรุทธเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีทิพยจักษุ (ตาทิพย์)
พระอานนทเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร
พระโสณโกฬิวิสเถระ : เป็นเลิศในทางปรารภความเพียร
พระรัฐบาลเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บวชด้วยศรัทธา
พระปิณโฑลภารทวาชเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บันลือสีหนาท
พระมหาปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางเจริญวิปัสสนา
พระจูฬปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางมโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)
พระโสณกุฏิกัณณเถระ : ผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
พระลกุณฎกภัททิยเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีเสียงไพเราะ
พระสุภูติเถระ : เป็นผู้มีปกติอยู่อย่างไม่มีกิเลส และเป็นทักขิไณยบุคคล
พระกังขาเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ยินดีในการเข้าฌาน
พระโกณฑธานเถระ : เป็นเลิศในทางถือสลากเป็นปฐม
พระวังคีสเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ
พระปิลินทวัจฉเถระ : เป็นเลิศในทางเป็นที่รักใคร่ของเหล่าเทพยดา
พระกุมารกัสสปเถระ: เป็นเลิศในการแสดงธรรมได้อย่างวิจิตร
พระมหาโกฏฐิตเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4
พระโสภิตเถระ : เป็นเลิศในทางระลึกชาติก่อนได้
พระนันทกเถระ : เป็นเลิศในทางสอนนางภิกษุณี
พระมหากัปปินเถระ : เป็นเลิศในทางการสอนภิกษุ
พระสาคตเถระ : ผู้ฉลาด (ชำนาญ) ในทางเตโชสมาบัติ
พระอุปเสนเถระ : เป็นผู้นำมาซึ่งความเลื่อมใสโดยรอบด้าน
พระขทิรวนิยเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
พระสีวลีเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภมาก
พระวักกลิเถระ : เป็นเลิศแห่งภิกษุผู้เป็นสัทธาวิมุตติ
พระพาหิยทารุจีริยเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายตรัสรู้เร็วพลัน
พระพากุลเถระ : เป็นผู้มีโรคภัยไข้เจ็บน้อยที่สุดด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย