ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
พระสีวลีเถระ เอตทัคคะ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภมาก
บิดาไม่ปรากฎนาม ส่วนมารดาชื่อว่า พระนางสุปปวาสา
ซึ่งเป็นพระธิดาเจ้าเมืองโกลิยะท่านอยู่ในครรภ์มารดาถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน
ในขณะที่อยู่ในพระครรภ์ทำให้พระมารดามีลาภสักการะเกิดขึ้นมากมาย
และเมื่อถึงเวลาคลอด พระนางก็ คลอดง่ายที่สุด
หลังจากที่ท่านประสูติแล้ว พระมารดาก็ได้ทำบุญมหาทานฉลองตลอด 7 วัน
ในวันที่ 7
พระสารีบุตรจึงชวนเธอบวชเธอดีใจมากและได้รับอนุญาตจากพระมารดาเป็นอย่างดี
ซึ่งชีวิตท่านถือว่าแปลกที่สุด คือเมื่อคลอดแล้วได้เพียง 7 วัน มารดาก็ทำงานได้เลย
ด้วยการนิมนต์พระพุทธเจ้ามาทำบุญ หลังจากนั้น ท่านได้บวชเป็นสามเณรทันที
ซึ่งท่านได้ใช้ชีวิตฆราวาสจริงๆ เพียง 7 วันเท่านั้น เมื่อบวชแล้ว
ลาภสักการะทั้งหลายก็เกิดขึ้นมากมายแก่ภิกษุทั้งหลาย
ไม่ได้กล่าวถึงบทบาทไว้ชัดเจน เพียงแต่ท่านเป็นพระที่มีลาภสักการะมาก
และเป็นที่เคารพนับถือเป็นอย่างมากสำหรับเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
แต่มักจะถูกกล่าวว่าเป็นเพราะบุญเก่า แต่ก็ถือว่าท่านนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญ
เพราะว่าสามารถยังความเลื่อมใสศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่ชนทั้งหลายที่ยังไม่ศรัทธา
และมีความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาอยู่แล้วก็เพราะอาศัยบุญญาธิการของท่านนั้นเอง
เพราะเหตุที่ท่านเป็นผู้มีลาภมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
หรือจะไปที่ไหนช่วยให้ภิกษุทั้งหลาย ไม่ขัดสนปัจจัยลาภไปด้วย
พระศาสดาจึงทรงตั้งท่านไว้ในเอตทัคคะว่าเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภมาก
- ท่านอยู่ในครรภ์ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แต่เวลาคลอดกับคลอดง่ายที่สุด
- ท่านบรรลุพระอรหัตน์ในขณะปลงผมเสร็จ
- ท่านเป็นผู้มีบุญญาธิการในปางก่อนไว้มาก จึงมีลาภเกิดขึ้นมากมาย 4. ท่านได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เลิศในด้านมีลาภมาก
พระอัญญาโกณฑัญญเถระ : รัตตัญญู คือ ผู้รู้ราตรีนาน
พระอุรุเวลกัสสปเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีบริวารมาก
พระสารีบุตรเถระ : เป็นเลิศในทางมีปัญญามาก อัครสาวกเบื้องขวา
พระมหาโมคคัลลานเถระ : เป็นผู้เลิศในทางเป็นผู้มีฤทธิ์มาก
พระมหากัสสปเถระ : ผู้ทรงธุดงค์คุณ
พระมหากัจจายนเถระ : อธิบายความย่อให้พิศดาร
พระโมฆราชเถระ : ทรงจีวรเศร้าหมอง
พระราธเถระ : มีปฏิภาณ(ไหวพริบดี)
พระปุณณมันตานีบุตรเถระ : เป็นผู้เลิศในด้านการแสดงธรรมเทศนา
พระกาฬุทายีเถระ : ทำสกุลที่ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส
พระนันทเถระ : เป็นผู้เลิศฝ่ายข้างสำรวมระวังอินทรีย์ 6
พระราหุลเถระ : เป็นเอตทัคคะทางผู้ใคร่ต่อการศึกษา
พระอุบาลีเถระ : ผู้ทรงพระวินัย (วินัยธร)
พระภัททิยเถระ : ในทางเป็นผู้เกิดในตระกูลสูง หรือสุขุมาลชาติ
พระอนุรุทธเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีทิพยจักษุ (ตาทิพย์)
พระอานนทเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร
พระโสณโกฬิวิสเถระ : เป็นเลิศในทางปรารภความเพียร
พระรัฐบาลเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บวชด้วยศรัทธา
พระปิณโฑลภารทวาชเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บันลือสีหนาท
พระมหาปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางเจริญวิปัสสนา
พระจูฬปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางมโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)
พระโสณกุฏิกัณณเถระ : ผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
พระลกุณฎกภัททิยเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีเสียงไพเราะ
พระสุภูติเถระ : เป็นผู้มีปกติอยู่อย่างไม่มีกิเลส และเป็นทักขิไณยบุคคล
พระกังขาเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ยินดีในการเข้าฌาน
พระโกณฑธานเถระ : เป็นเลิศในทางถือสลากเป็นปฐม
พระวังคีสเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ
พระปิลินทวัจฉเถระ : เป็นเลิศในทางเป็นที่รักใคร่ของเหล่าเทพยดา
พระกุมารกัสสปเถระ: เป็นเลิศในการแสดงธรรมได้อย่างวิจิตร
พระมหาโกฏฐิตเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4
พระโสภิตเถระ : เป็นเลิศในทางระลึกชาติก่อนได้
พระนันทกเถระ : เป็นเลิศในทางสอนนางภิกษุณี
พระมหากัปปินเถระ : เป็นเลิศในทางการสอนภิกษุ
พระสาคตเถระ : ผู้ฉลาด (ชำนาญ) ในทางเตโชสมาบัติ
พระอุปเสนเถระ : เป็นผู้นำมาซึ่งความเลื่อมใสโดยรอบด้าน
พระขทิรวนิยเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
พระสีวลีเถระ :
เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภมาก
พระวักกลิเถระ : เป็นเลิศแห่งภิกษุผู้เป็นสัทธาวิมุตติ
พระพาหิยทารุจีริยเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายตรัสรู้เร็วพลัน
พระพากุลเถระ : เป็นผู้มีโรคภัยไข้เจ็บน้อยที่สุดด้วย