ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>

ภาวะวิทยา ญาณวิทยา และวิธีวิทยา

แนวพินิจทางรัฐศาสตร์
ภาวะวิทยา ญาณวิทยา และวิธีวิทยา

ผศ. เชิญ ชวิณณ์ ศรีสุวรรณ

พัฒนาการของรัฐศาสตร์ในแง่สาขาวิชา
ลักษณะเด่นของ “พฤติกรรมศาสตร์”
สาระสำคัญของวิชารัฐศาสตร์ช่วงหลังทศวรรษ 1970
ความหมายทั่วไปของ Approach
แนวพินิจการแจกแจงอำนาจ (Power Distribution Approach)
ลักษณะสำคัญของพหุนิยม
วิพากษ์ “พหุนิยม”
แนวพินิจชนชั้นนำ (Elite Approach)
วิเคราะห์ Classical Elitists
พื้นฐานคุณลักษณะทางจิตฯ 6 ชั้น
จุดเน้นของแนวพินิจชนชั้นนำแบบคลาสสิก
แนวพินิจชนชั้นนำแบบใหม่

วิพากษ์ “พหุนิยม”

ลักษณะของ “สังคม” หลายสังคม, โดยเฉพาะสังคมของประเทศ “ด้อยพัฒนา” หรือ “พัฒนาน้อย” (ซึ่ง ประเทศไทย ก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้), ไม่ได้เกิด “กลุ่มหลากหลาย” ที่มี “ความเป็นอิสระ”, หรือ สามารถแข่งขันกับ “กลุ่มผลประโยชน์”, โดยเฉพาะ กลุ่มบรรษัทขนาดใหญ่ ที่มีอำนาจ “ครอบงำตลาด” (อย่าง กลุ่มโทรคมนาคม, กลุ่ม Logistic หรือ ธุรกิจขนส่งสินค้า, กลุ่มก่อสร้าง) ซึ่งให้การสนับสนุนด้าน “เงินทุน” แก่ พรรคการเมือง ที่มี “ตัวแทน” ของกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้ อยู่ในพรรคดังกล่าว.

ในระบบประชาธิปไตย ของประเทศพัฒนาน้อย, “เงิน” และ “ทุน” (เช่น การแจกหุ้นที่มีราคาสูงในตลาดฯ ให้แก่พวกพ้องในพรรค) กลายเป็น “เครื่องมือ” ชี้ขาด ว่าพรรคใด จะได้ชัยชนะทางการเมือง. “การซื้อเสียง” หรือ “การข่มขู่” เกิดขึ้นทั่วไป และกลไกที่ “ไร้ประสิทธิภาพ” ของรัฐ, เช่น กกต. ซึ่งมีนัยถึง กรรมการก็กลัวตาย, จึงไม่ได้ทำหน้าที่ “กำกับ, ดูแล, และ ควบคุม” การแข่งขันทางการเมืองให้เป็นธรรม, ตามนัยของประชาธิปไตยแบบอเมริกา ได้เลย.



ในความเป็นจริงแล้ว, “รัฐ” ไม่ได้มีความ “เป็นกลาง” ทางการเมืองแต่อย่างใด. กลุ่มผลประโยชน์ที่มี “อำนาจครอบงำตลาด” สามารถ โน้มน้าว, หรือ กดดัน, ให้รัฐบาล เปลี่ยน “กฎ”, และ “สร้างวาระของสังคม” ขึ้นใหม่ได้ โดยเฉพาะถ้า “ผลประโยชน์ของกลุ่ม” ได้รับผลกระทบจากนโยบาย หรือ การดำเนินงานของรัฐบาล. (อดีตรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ, คือ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี, ได้เขียนหนังสือชื่อ เดินกลางฝน เพื่อแฉให้เห็นความจริงทางการเมืองว่า เพียงแค่รัฐมนตรีท่านนี้ จะ “ปรับราคาน้ำตาลทราย” ให้ลอยตัวขึ้น, ตามกลไกตลาด, ท่านรัฐมนตรีก็ถูก “ปลดออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่าตอนกลางวัน”, ทั้งที่ ตอนที่ไป “เชิญ” มาร่วมรัฐบาล แทบจะกราบกรานกันเลย ก็ว่าได้).

แนวพินิจพหุนิยม มุ่งวิเคราะห์ “การเมืองเชิงสถาบัน” (คือ กลุ่มผลประโยชน์ และพรรคการเมือง) มากเกินไป, จนสับสนในความเป็นจริงที่ว่า “การเมือง” มีความหมายมากกว่า การแข่งขันของกลุ่มและพรรค. ข้อเท็จจริงก็คือ การเมือง หรือ ประชาธิปไตยแบบอเมริกานั้น เกิดขึ้นใน “บริบทของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม”. เพราะฉะนั้น, แม้จะมี “ความหลากหลาย” ของกลุ่มต่างๆ, แต่ในทางปฏิบัติ กลุ่มบรรษัทขนาดใหญ่ (บรรษัทน้ำมัน อย่าง Exxon หรือ Esso, บรรษัทโทรคมนาคม อย่าง Bell, Lucent, บรรษัทค้าปลีก อย่าง Seven-11, Tesco-Lotus, etc.) ล้วนมี “เส้นสาย” และ อิทธิพลในการเมืองระดับชาติสูงกว่ากลุ่มอื่นๆมาก. ทั้งนี้เพราะมีการใช้ตัวแทน ที่เรียกว่า Lobbyists คอยประสานกับผู้มีอำนาจทางการเมือง ตลอดเวลา. ถ้านโยบายของรัฐบาล ไม่สนองตอบต่อ ผลประโยชน์ของกลุ่มบรรษัทขนาดใหญ่เหล่านี้, บรรดา CEO (Chief Executive Officers) ของบรรษัท ก็จะเปิดประชุม “ระดับโลก” เรียกว่า World Economic Forum, ที่เมือง Davos, Switzerland, เพื่อ “กำหนดวาระของโลก (หรือ ระบบทุนนิยมโลก)” กดดันทุกรัฐบาลในโลก.

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย