ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ

เทคนิคการทำภาพ

เป็นเทคนิคที่จะทำให้เกิดภาพที่น่าสนใจได้เช่นเดียวกัน มีวิธีการ ดังนี้

1. การทำโฟโตแกรม (Photogram) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้สนใจ ได้เรียนรู้กระบวนการทำภาพได้โดยมิต้องใช้ฟิล์มแต่สามารถทำภาพได้ โดยการวาง วัตถุลงบนกระดาษอัดขยายภาพที่มีความเร็วต่อแสง เมื่อปล่อยแสงผ่านลงบนกระดาษ ในห้องมืดแสงสีขาวจะทำปฏิกิริยากับกระดาษทำให้ส่วนที่ได้รับแสงมีสีคล้ำ แต่ส่วนใด ที่วัตถุบังแสงอยู่ก็จะมีสีขาว แต่ถ้าหากส่วนใดที่ถูกแสงบ้างเล็กน้อยก็จะมีลักษณะเป็น สีเทา ดังนั้นสามารถจินตนาการมาทำเป็นภาพสีให้มีความแปลกตา และมีสีสรรสวย งามได้

2. การทำภาพกึ่งเนกาติฟกึ่งโฟสิติฟ (Solarization) เป็นเทคนิค การทำภาพให้เกิดความสวยงามแปลกตาอีกชนิดหนึ่ง โดยการนำฟิล์มเนกาติฟที่ถ่าย ภาพแล้วไปล้างในน้ำยาสร้างภาพใช้เวลา 2 ใน 3 หรือ 3 ใน 4 ของเวลาทั้ง หมด เสร็จแล้วนำฟิล์มไปล้างน้ำและนำไปถูกแสงอีกครั้งหนึ่ง อาจใช้หลอดไฟ ทังสเตน 25 วัตถ์ ห่างจากฟิล์ม 2-3 ฟุตหรืออาจติดหลอดไฟในโคมไฟนิรภัยก็ได้ แต่ไม่ใส่ฟิลเตอร์เพื่อให้ฟิล์มได้รับแสงสะท้อนที่ไม่จ้าเกินไป จากนั้นนำฟิล์มไปล้างใน น้ำยาล้างภาพ จนครบเวลาและกระบวนการของการล้างฟิล์มจะสังเกตเห็นว่า ภาพ ตรงบริเวณที่สูงแสงมากผิดปกติแทนที่จะมีความดำเพิ่มมากขึ้น แต่มีความดำลดลง แทนที่จะได้ภาพเนกาติฟแต่กลับได้ภาพกึ่งโฟสิติฟ เมื่อนำฟิล์มไปอัดขยายจะได้ภาพที่ แปลกตาสวยงามมาก

3. การขยายภาพหลายครั้ง (Photomontage Multiple Printing) เป็นเทคนิคที่สามารถอัดขยายภาพจากฟิล์มเนกาติฟหลาย ๆ ภาพลงใน กระดาษอัดแผ่นเดียวกัน เพื่อช่วยเพิ่มเติมส่วนที่หายไปหรือตัดบางส่วนออกแล้วแทนที่ ด้วยสิ่งที่น่าสนใจกว่าได้การอัดขยายนี้จะเป็นต้องกะทดลองวางแผน เพื่อแก้ไขในข้อ บกพร่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่ออัดหลาย ๆ ภาพลงไปต้องต้องกะดูว่า ภาพอะไร จะให้เกิดตรงใหน หรือเพิ่มเติมอะไรลงในแผ่นกระดาษนั้น วิธีทำคือขยายภาพจาก เนกาติฟแรก และใช้กระดาษแข็งบังส่วนที่จะเกิดภาพจากเนกาติฟแผ่นต่อ ๆ ไป เมื่อครบตามที่วางแผนเอาไว้ในกระดาษไปล้างตามกรรมวิธีก็จะได้ภาพตามต้องการ

4. การทำภาพสลักหิน (Bas - Relief) เป็นเทคนิคการอัดขยาย ภาพจากเนกาติฟลงบันแผ่นฟิล์ม โดยทั่วไปนิยมใช้ฟิล์มที่มีความตัดกันของสีสูง เช่น High Contrast Ortho Kodalith Film) แล้วนำฟิล์ม High Contrast ไป ล้างในน้ำยาตามกรรมวิธีจะได้ภาพโฟสิติฟบนฟิล์ม High Contrast นั้น นำฟิล์มต้น ฉบับ และ High Contrast ซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย แล้วนำไปอัดขยายลงบนแผ่น กระดาษอัด ก็จะได้ภาพที่มีลักษณะเหมือนการสลักหินอย่างไรก็ตามอาจนำฟิล์ม High Contrast ไปอัดลงบนฟิล์ม High Contrastอีกแผ่นหนึ่งให้ได้ภาพเนกาติฟ แล้วนำภาพโฟสิติฟ และเนกาติฟของฟิล์ม High Contrastซ้อนเหลื่อมกันนำไปอัด ขยายอีกก็ได้ ซึ่งจะได้ภาพสลักหินสวยงาม

5. การขยายภาพลอย (Vignetting) เป็นเทคนิคที่นำมาใช้เพื่อลบ พื้นหลังของภาพ หรือทำให้ภาพเกิดการลอยเด่นอยู่บนกระดาษอัดสีขาว วิธีการทำ ภาพลอยนี้ เหมือนการอัดขยายภาพปกติทุกประการ เพียงให้แสงลอดผ่าน ช่องรู รูปวงกลม วงรี รูปไข่สี่เหลี่ยม หรือรูปต่าง ๆ ของกระดาษสีดำที่เจาะเป็นรู รูป ต่าง ๆ ดังกล่าวนั้น ขอบ ๆ ของรูที่เจาะบนกระดาษควรตัดริมให้เป็นหยักเพื่อเกลี่ย แสงให้จางลง บริเวณขอบในขณะที่ปล่อยแสงลงบนกระดาษอัดขยายควรเลื่อน กระดาษดำขึ้นลงด้วยเพื่อไม่ให้เกิดเงาเข็งบนขอบของรูลักษณะต่าง ๆ นั้น เมื่อ กระดาษถูกแสงจนครบเวลากำหนดแล้วนำไปล้างตามกรรมวิธี ก็จะได้ภาพลอยตาม ต้องการ

6. การเผาและการบังแสง (Burning-in and Dodging-out) เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่นิยมนำมาใช้เพื่อการปรับปรุงภาพให้มีความสวยงาม มีราย ละเอียด มีสีสันที่กลมกลืนตามต้องการบริเวณพื้นที่ ที่มีสีขาวมากบนกระดาษอัดขยาย เกิดความหนา หรือความดำของฟิล์มซึ่งแสงผ่านได้น้อย ดังนั้นเราสามารถเผาแสง (Burning-in) เพิ่มเติมลงเฉพาะบริเวณนี้ได้ และในขณะเดียวกันบังเกิดแสง (Dodging-out) บริเวณอื่น ๆ ที่ได้รับแสงพอแล้วออกไป การบังแสงบางส่วน อาจใช้กระดาษแข็งตัดเป็นรูปวงกลมติดด้วยลวด เล็ก ๆ เป็นที่จับหรืออาจใช้มือบังแสงเลยก็ได้ มีข้อควรรำลึกก็คือในขณะที่ปล่อย แสงลงบนกระดาษอัดขยาย ต้องเคลื่อนวัตถุที่ใช้บังนั้นขึ้นลง เพื่อเกลี่ยแสงไม่ให้เกิด เงาแข็งที่ขอบรอยต่อของการบังและการเผาแสง ซึ่งจะทำให้ภาพไม่น่าดูได้ ส่วน การเผาแสงบางส่วน อาจใช้กระดาษเจาะเป็นรูเพื่อให้แสงลอดรูนั้นไปบนกระดาษ เฉพาะบริเวณที่ต้องการเท่านั้น

7. การทำภาพที่มีโทนของสีต่างกัน (Tone Seperation) เป็น เทคนิคที่นำเอาฟิล์มที่มีโทนสีต่างกันมาขยายรวมกันจากเนกาติฟต้นฉบับเดียวกัน แต่ ให้แสงในการขยายแตกต่างแล้วอัดจากเนกาติฟเดียวกัน 3 ครั้งที่ให้แสงต่างกัน จะ ได้ภาพโฟสิติฟที่โทนสีแตกต่างกัน 3 ชนิด อาจเป็น Normal, over และUnder เสร็จแล้วนำภาพโฟสิติฟไปอัดลงบนแผ่นฟิล์มออร์โธโครเมติคทีละแผ่นอีกครั้งหนึ่งเพื่อ ให้ได้ภาพเนกาติฟที่มีโทนสีต่างกัน 3 ชนิดเช่นเคย หลังจากนั้นนำเอาฟิล์มเนกาติฟ ที่ได้ไปอัดลงบนกระดาษอัดทีละแผ่นให้ภาพทับเหลื่อมกันเล็กน้อย และนำกระดาษไป ล้างตามกรรมวิธีจะได้ภาพที่มีโทนสีแตกต่างกันถึง 3 สี ตามต้องการ

» การเก็บข้อมูลทางมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ด้วยภาพถ่าย

» พยานอันซื่อสัตย์

» บทบาทของภาพถ่าย

» ภาพที่ควรบันทึกเป็นหลักฐาน

» ข้อเสนอแนะการบันทึกข้อมูลด้วยภาพถ่าย

» คุณลักษณะของภาพถ่ายที่ดี ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

» ชนิดของกล้องถ่ายรูป

» ส่วนประกอบที่สำคัญของกล้องถ่ายรูป

» อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับกล้อง

» การใช้และการเก็บรักษากล้องถ่ายรูป

» การพิจารณาเลือกกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์เดี่ยว

» การบรรจุฟิล์มเข้ากล้อง

» ลักษณะของเลนส์ของกล้องถ่ายรูป

» ชนิดของเลนส์

» การใช้และการระมัดระวังรักษาเลนส์

» ฟิล์ม (Film)

» โครงสร้างของฟิล์ม

» ชนิดของฟิล์ม

» ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อฟิล์ม

» ประเภทของแฟลช

» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้องSLR

» การคำนวนหาแฟลชไกด์นัมเบอร์

» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์

» เทคนิคการถ่ายภาพด้วยแฟลช

» ฟิลเตอร์ (Filter)

» ทฤษฎีสีของแสง

» แสงสีและฟิลเตอร์

» ฟิลเตอร์หรือแว่นกรองแสง

» ชนิดของฟิลเตอร์

» วิธีระมัดระวังรักษาฟิลเตอร์

» ประเภทของชัตเตอร์

» ความเร็วของชัตเตอร์

» การปรับความเร็วชัตเตอร์

» ความสัมพันธ์ของชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง

» การหาค่าของแสง

» เซลล์วัดแสงชนิดต่าง ๆ

» ประเภทของวิธีการวัดแสง

» การใช้อุปกรณ์อื่นวัดแสงแทนเครื่องวัดแสง

» การจัดองค์ประกอบภาพ

» การเลือกองค์ประกอบพื้นฐานของการจัดภาพ

» หลักการวิจารณ์ภาพถ่าย

» การล้างฟิล์ม

» เทคนิคพิเศษทางการถ่ายภาพและทำภาพ

» เทคนิคการทำภาพ

» เทคนิคการทำโฟโต้สเก๊ตชิ่ง

» การสำเนาภาพ

» วิธีใช้แท่นถ่ายสำเนา

» การนำภาพออกแสดง

» หลักการถ่ายภาพให้ได้ภาพสีที่ดี

» วิธีการถ่ายภาพให้ได้ภาพที่คมชัด

» หลักในการถ่ายภาพกลางแจ้ง

» เสนอแนะงานถ่ายภาพ

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย