สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
มะรุม
ชื่อสามัญ : horseradish tree, drumstick tree, Ben oil tree Also call
mothers best friend
ชื่อพื้นเมือง : ผักอีฮึม ผักอีฮุม มะค้อนก้อม
ชื่อวิทยาศาตร์ : Moringa olifera Lamk.
วงศ์ : MORINGACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะรุมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางเรือนยอดกลมและโปร่ง เจริญเติบโตเร็ว
อาจจะเติบโตมีความสูงถึง 4 เมตรและออกดอกภายในปีแรกที่ปลูก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก
ชนิดที่แตกใบย่อย 3 ชั้น ยาว 20 40 ซม. ออกเรียงแบบสลับ ใบย่อยยาว 1 3 ซม.
รูปไข่ ปลายใบและฐานใบมน ผิวใบด้านล่างสีอ่อนกว่าและมีขนเล็กน้อยขณะที่ใบยังอ่อน
ใบมีรสหวานมัน ออกดอกในฤดูหนาว บางพันธุ์ออกดอกหลายครั้งในรอบปี ดอกเป็นดอกช่อ
สีขาว กลีบเรียง มี 5 กลีบ กลีบดอกมี 5 กลีบแยกกัน ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย
ผลเป็นฝักยาว เปลือกสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมน เป็นระยะ ๆ ตามยาวของฝัก ฝักยาว 20
50 ซม. ฝักมีรสหวาน เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม 3 ปีก
เส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ดประมาณ 1 ซม.
การปลูก : มะรุมเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น
อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น และยังมีในเขตเอเชียไมเนอร์และแอฟริกา เป็นไม้ปลูกง่าย
เจริญได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง งอกเร็ว ใช้เวลา
2สัปดาห์ต้นกล้าสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร
ประโยชน์ทางยา :
- ใบ - ใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
- ยอดอ่อน ใช้ถอนพิษไข้
- ดอก ใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง
- ฝัก - แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
- เมล็ด เมล็ดปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดตามข้อ ป้องกันมะเร็ง
- ราก - รสเผ็ด หวาน ขม สรรพคุณ แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ รักษาโรคไขข้อ (rheumatism)
- เปลือกลำต้น - รสร้อน สรรพคุณขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อน ๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร
- ยาง (gum)ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส (syphilis) แก้ปวดฟัน earache, asthma
คุณค่าทางอาหาร
- ใบใบสด ใช้กินเป็นอาหาร ใบแห้งที่ทำเป็นผงเก็บไว้ได้นานโดยยังมีคุณค่าทางอาหารสูง ใบมะรุมมีวิตามิน เอ สูงกว่าแครอท มีแคลเซียมสูงกว่านม มีเหล็กสูงกว่าผักขม มีวิตามี ซี สูงกว่าส้มและมีโปแตสเซียมสูงกว่ากล้วย
- ดอก ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้หวัด Helminths ป้องกันมะเร็ง
- ฝัก ฝักมะรุม 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 32 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย เส้นใย 1.2 กรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม เหล็ก 1.5 มิลลิกรัม วิตามินเอ 532 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.05 มิลลิกรัม ไนอาซิน 0.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 262 มิลลิกรัม
- เมล็ด น้ำมันที่ได้จากการคั้นเมล็ดสดใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหาร
การปรุงอาหาร
ในประเทศไทย ฤดูหนาวจะมีมะรุมจำหน่ายทั่วไป
ทั้งตลาดในเมืองและในท้องถิ่น คนไทยทุกภาครับประทานมะรุมเป็นผัก
ชาวภาคกลางนิยมนักมะรุมอ่อนไปปรุงเป็นแกงส้ม
และนำดอกมะรุมลวกให้สุกหรือดองรับประทานกับน้ำพริก สำหรับชาวอีสาน ยอดอ่อน ใบอ่อน
ช่อดอกอ่อนนำไปลวกให้สุกหรือต้มให้สุก รับประทานเป็นผักร่วมกับป่นแจ่ว ลาบ ก้อย
หรือนำไปปรุงเป็นแกงอ่อม ส่วนฝักอ่อนหรือฝักที่ยังไม่แก่เต็มที่นำมาปอกเปลือก
หั่นเป็นท่อนและนำไปปรุงเป็นแกงส้ม หรือแกงลาวได้ นอกจากนี้ ที่จังหวัดชัยภูมิ
ยังรับประทานฝักมะรุมอ่อนสด
เป็นผักแกล้มร่วมกับส้มตำโดยรับประทานคล้ายกับรับประทานถั่วฝักยาว
และชาวบ้านเล่าว่าฝักมะรุมอ่อนนำไปแกงส้มได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก ชาวเหนือนำดอกอ่อน
ฝักอ่อนไปแกงกับปลา ในต่างประเทศ เช่น อินเดีย มีการทำผงใบมะรุมไว้เป็นอาหาร
น้ำใบมะรุมอัดกระป๋อง
ประโยชน์อื่น ๆ
- เมล็ด เมล็ดคั้นได้น้ำมันคุณภาพสูงใช้เป็นอาหารและใช้ถนอมผิว กากที่เหลือใช้แทนสารส้มในการทำให้น้ำให้ใสและสะอาด
- ใบและกิ่ง เป็นอาหารสัตว์
- ทั้งต้น เป็นพืชบำรุงดิน ใช้ฟื้นฟูสภาพดิน ใช้เป็นพืชบังลม รั้วไม้เป็น (รั้วกินได้)
เอกสารอ้างอิง
Fahey,Jed W. Sc.D. Moringa oleifera: A Review of the Medical Evidence
for Its Nutritional, Therapeutic, and Prophylactic Properties. Part 1.
» กานพลู
» สมุนไพรรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
» ประโยชน์และโทษ สรรพคุณสมุนไพรจีน
» ชะคราม วัชพืชสมุนไพรต้านอนุมูลอิสระในป่าชายเลน
» มะรุม
» สะระแหน่