สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
การมีงานทำ
- ช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาการว่างงานจะเกิดขึ้น
ในการปฏิบัติการวัดการมีงานทำจะยุ่งยากตรงที่
การพยายามจำแนกประเภทของการมีงานทำ
ส่วนผลกระทบของการว่างงานที่มีต่อประชาชนกลุ่มต่างๆ จะมีความแตกต่างกัน
- มูลเหตุเกี่ยวกับการว่างงานมักจะอธิบายด้วย 3 แนวคิดสำคัญดังนี้คือ
การอธิบายการว่างงานด้วยปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางประชากร
พฤติกรรมของผู้ว่างงานและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
- การวิเคราะห์การว่างงานตามแนวคิดของคลาสสิก
จะแตกต่างจากการวิเคราะห์การว่างงานตามแนวคิดของเคนส์
เมื่อมีแนวคิดในการวิเคราะห์ต่างกัน
การเสนอกลยุทธ์การแก้ปัญหาการว่างงานจึงแตกต่างออกไปด้วย
- รูปแบบปัญหาการว่างงานที่เกิดในประเทศพัฒนาแล้ว จะมีความแตกต่างจากปัญหาการว่างงานที่เกิดในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งในประเทศกำลังพัฒนาเอง ปัญหาการว่างงานในเขตชนบมกับเขตเมืองจะมีรูปแบบและสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการมีงานทำ
- ภาวะเศรษฐกิจกับการมีงานทำนั้นมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
พบว่าเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นายจ้างมักจะชะลอการจ้างงานออกไป
ทำให้สังคมเผชิญกับปัญหาการว่างงาน
- ปัญหาการวัดภาวะการมีงานทำในปัจจุบัน
อยู่ที่ความยุ่งยากในการจำแนกประชากรออกเป็นประเภทต่างๆ
อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในยามที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศอุตสาหกรรม
นับตั้งแต่ ค.ศ. 1973 เป็นต้นมา
ทำให้ประชากรจำนวนไม่น้อยตกอยู่ในสภาพคาบเกี่ยวกันระหว่างการมีงานทำ
การหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเนื่องจากความไม่พร้อมที่จะทำงาน และการว่างงาน
- ในภาวะปกติ ประชากรกลุ่มต่างๆ จะประสบกับภาวะการว่างงานอย่างทัดเทียมกัน แต่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจ ตกต่ำ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลกระทบของการว่างงานต่อประชากรในกลุ่มต่างๆ จะมีความทัดเทียมกันยิ่งขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจกับการมีงานทำ
เพราะว่าเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นายจ้างจะชะลอการจ้างงานออกไป
ทำให้อุปทานแรงงานมากกว่าอุปสงค์ต่อแรงงาน เกิดปัญหาการว่างตามมา
การวัดภาวะการมีงานทำ
สาเหตุสำคัญของปัญหาในการวัดภาวะการมีงานทำมาจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
ทำให้ประชากรจำนวนหนึ่งตกอยู่ในสภาพคาบเกี่ยวกัน ระหว่างการมีงานทำ
การหยุดประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการว่างงาน
ผลกระทบและสาเหตุของการว่างงานในประชากรกลุ่มต่างๆ
เมื่อประชากรกลุ่มต่างๆ ถูกกระทบจากการว่างานอย่างไม่เท่าเทียมกัน
การวัดความรุนแรงของปัญหานี้ในประชากรกลุ่มต่างๆ
สามารถทำได้โดยการคำนวณเปรียบเทียบอัตราการว่างงานของแรงงานกลุ่มๆ
หนึ่งต่ออัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยของประชากรทั้งหมด ถ้าค่านี้สูงกว่า 1 แสดงว่า
แรงงานในกลุ่มนั้นได้รับผลกระทบจากการว่างงานมากกว่าประชากรโดยเฉลี่ย
และจะมีผลตรงข้าม ถ้าค่านี้น้อยกว่า 1
แนวคิดเกี่ยวกับการว่างงาน
- ปัญหาการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานในประเทศพัฒนาแล้วมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางด้านการเปลี่ยนแปลงของประชากรและวัฒนธรรม แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านตัวแปรที่กำหนดการจ้างงาน
- ปัญหาการว่างงานในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากการที่คนงานลาออกจากงานโดยสมัครใจ และการจ้างให้ออกชั่วคราว
- การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีโดยธรรมชาติแล้ว จะไม่ใช่ตัวสร้างหรือทำลายการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ
แนวคิดที่อธิบายการว่างงานจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากร
การเปลี่ยนแปลงทางประชากรและวัฒนธรรม
ทำให้มีการหลั่งไหลของประชากรในวัยแรงงานโดยเฉพาะแรงงานเด็กและสตรี
เข้ามาสู่ตลาดแรงงานจำนวนมาก ในขณะที่การจ้างงานมิได้เพิ่มขึ้น
ทำให้บุคคลจำนวนหนึ่งต้องกลายเป็นผู้ว่างาน
แนวคิดที่อธิบายการว่างงานจากพฤติกรรมของผู้ว่างงาน
แนวคิดที่อธิบายการว่างงานจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
การวิเคราะห์การว่างงาน
- การว่างงานตามแนวความคิดคลาสสิก
เกิดขึ้นกรณีในตลาดแรงงานมีผู้เสนอขายแรงงานมากกว่าผู้ซื้อแรงงาน
แต่ในตลาดสินค้ากลับมีการผลิตสินค้าออกมาน้อยกว่าอุปสงค์ต่อสินค้า
ทำให้เกิดการว่างงานขึ้น การแก้ปัญหาการว่างงานจึงเน้นที่การใช้นโยบายภาษีอากร
การลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน
ซึ่งจะนำมาสู่การลงทุนและการขยายการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ
- การว่างงานตามแนวคิดของเคนส์
เกิดจากการมีอุปทานส่วนเกินทั้งตลาดในตลาดแรงงานและตลาดสินค้า
ทำให้ไม่มีการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ
การแก้ปัญหาการว่างงานตามทัศนะนี้
จึงเป็นการกระตุ้นอุปสงค์รวมซึ่งผ่านการลงทุนโดยรัฐเพื่อส่งเสริมการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ
- ในปัจจุบัน การว่างงานซึ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ล้วนมีสาเหตุมาจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจตั้งแต่ ค.ศ. 1973 ซึ่งเป็นผลของการเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
การวิเคราะห์การว่างงานตามแนวคิดของคลาสสิกและแนวคิดตามแบบเคนส์
การว่างงานตามแนวคิดของคลาสสิก
เกิดจาการมีทรัพยากรกำลังคนเกินกว่าระดับการจ้างงาน
ขณะที่มีการผลิตสินค้าออกมาน้อยกว่าอุปสงค์ จึงเกิดปัญหาการว่างงาน
แต่แนวคิดตามแบบเคนส์ (Keynesian)
การว่างงานเกิดจากการมีอุปทานส่วนเกินในทั้งสองตลาด
จึงมีนโยบายส่งเสริมการจ้างงานโดยการปรับอุปสงค์รวมให้สูงขึ้น
กลยุทธ์การแก้ปัญหาการว่างงาน
วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ค.ศ. 1973 กับการมีงานทำ
สาเหตุการว่างงานอย่างรุนแรงในประเทศพัฒนาแล้ว
เนื่องมาจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ ค.ศ. 1973 เป็นต้นมา
และภายไต้วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจนี้ประเทศอุตสาหกรรมทั้งหลาย
ได้หันมาใช้นโยบายการปรับโครงสร้างทางการผลิต เพื่อสนับสนุนการแข่งขันในตลาดโลก
จึงส่งเสริมให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนการผลิต
ซึ่งมีลักษณะเป็นการทดแทนแรงงานด้วยเครื่องจักร
จึงเกิดปัญหาการปลดคนงานออกอย่างกว้างขวาง
การว่างงานและการทำงานต่ำระดับในประเทศกำลังพัฒนา
- การว่างงานเปิดเผยเป็นปัญหาสำคัญของประเทศพัฒนาแล้ว แต่ในประเทศกำลังพัฒนานั้นปัญหาการว่างงานเปิดเผยกลับมีความสำคัญน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ ปัญหาการทำงานต่ำระดับ ปัญหาการทำงานยาวนานแต่ได้รับค่าจ้างต่ำ และปัญหาการว่างงานตามฤดูกาล
- ปัญหาความยากจน การประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมที่ต้องพึ่งพิงธรรมชาติเป็นสำคัญ และการขาดนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมชนบทแบบผสมผสานล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของการทำงานต่ำระดับ และการว่างงานตามฤดูกาลในเขตชนบท
- นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ โดยการให้สิทธิประโยชน์ในรูปต่างๆ มักจะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เลือกใช้การผลิตแบบเน้นการใช้ทุน การจ้างงานจึงมีน้อย
การว่างงานและการทำงานต่ำระดับในเขตชนบท
ปัญหาความยากจน การเกษตรที่ต้องพึ่งธรรมชาติเป็นสำคัญ
การขาดนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมชนบทแบบผสมผสาน
ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำงานต่ำระดับ และการว่างงานตาม ฤดูกาล
การว่างงานและการทำงานต่ำระดับในเขตเมือง
- เทคนิคการผลิตแบบเน้นการใช้เครื่องจักรทุ่นแรง หริเรียกว่าเทคนิคประหยัดแรงงาน จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม ภาคเกษตรเป็นภาคที่มีประสิทธิภาพการผลิตต่ำ แต่กลับดูดซับแรงงานได้มากกว่า
- การนำเข้าสินค้าทุนและสินค้ากลางในอัตราสูง ทำให้เกิดปัญหาการขาดดุลทางการค้า อันจะส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีลักษณะพึ่งพา และไม่มีผลดีต่อการจ้างงาน
- ความขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพ และความชำนาญทางด้านการบริหาร ทำให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เน้นการใช้ทุนเป็นหลัก จึงทำให้สัดส่วนของทุนต่อแรงงานอยู่ในระดับสูงและไม่ส่งเสริมการจ้างงาน
กำลังคนกับการพัฒนาเศรษฐกิจ
หลักและแนวคิดเกี่ยวกับทุนมนุษย์
การลงทุนในทุนมนุษย์
กำลังคนกับการศึกษา
การฝึกอบรม
การลงทุนในสุขภาพอนามัย
เศรษฐศาสตร์ว่าด้วยการเคลื่อนย้ายกำลังคน
กำลังคนกับตลาดแรงงาน
กำลังแรงงานและการเข้าร่วมแรงงาน
ผลิตภาพของแรงงาน
การมีงานทำ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวางแผนกำลังคน
เทคนิคการวางแผนกำลังคน
การวางแผนและนโยบายกำลังคนในประเทศไทย