ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ประวัติสมเด็จพระวันรัต
( เฮง เขมจารี )
ชีวิตในวัยเด็ก
ผู้มีความจำเป็นเลิศ
ชีวิตวัยหนุ่ม
เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ตู้ประไตรปิฎกเคลื่อนที่
ได้เป็นสมเด็จ 2 ตำแหน่ง
ความสัมพันธ์กับสมเด็จพระสังฆราช
เคร่งครัดในพระธรรมวินัย
มรณภาพ
คุณธรรม
ได้เป็นสมเด็จ 2 ตำแหน่ง
วันที่ 5 ธันวาคม 2500
ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพโมลี ในศกนี้
พระเถระวัดเทพศิรินทราวาสได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ 3 รูปด้วยกัน
ทางวัดได้จัดให้มีการแสดงมุทิตาจิตแด่พระเถระในพระอุโบสถ เมื่อพระเถระทั้ง 3
รูปกำลังเดินเข้าพระอุโบสถ มีซินแสจีนคนหนึ่งเป็นหมอดูได้พูดขึ้นว่า
องค์ที่ได้ขึ้นเป็นเทพโมลี ต่อไปจะได้เป็นสมเด็จ ฯ
คนที่ยืนอยู่ด้วยกันในบริเวณนั้นถามว่าจะเป็นสมเด็จอะไร ซินแสจีนคนนั้นบอกว่า
จะเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
เรื่องที่จะได้เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นิกจากซินแสจีนผู้นี้ยังมีโหราจารย์และผู้รู้เคยพยากรณ์ไว้อีกหลายปาก
เหมือนท่านเหล่านั้นจะมีตาทิพย์เห็นเหตุการณ์ข้างหน้าดังจะพรรณนาต่อไป
ในศกนี้ ตำแหน่งพระราชาคณะชั้นธรรมที่จะได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ มี 2
ตำแหน่ง คือ คณะธรรมยุค ได้แก่ พระธรรมปิฎก คณะมหานิกาย ได้แก่ พระธรรมไตรโลกาจารย์
กรรมการคณะธรรมยุค มีมติเห็นพ้องกันให้พระเทพโมลีวัดเทพศิรินทราวาส
เลื่อนเป็นพระธรรมปิฎก เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
ทราบเช่นนั้นจึงเดินทางไปบอกโยมผู้ชายที่เมืองชลบุรีว่า
ปีนี้จะได้เลื่อนชั้นธรรมจะได้เป็นพระธรรมปิฎก โยมผู้ชายบอกแก่เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
ว่า เจ้าคุณไม่ได้เป็นพระธรรมปิฎก เจ้าคุณต้องเป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์
พระเจ้าคุณเคยไปบอกพระยาสัจจาภิรมย์ไว้แล้ว
เป็นที่ทราบกันว่า ตำแหน่งสมณศักดิ์นั้นเมื่ออยู่คณะใด
ก็เป็นของคณะนั้นและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อ่อนไหวต่อการกระทบกระทั่ง
จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
จึงไม่เห็นทีท่าว่าจะได้เป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์ได้อย่างไร
จนกระทั่งเรื่องนี้ขึ้นไปถึงขั้นตอนสุดท้าย
คือให้เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชลงพระนาม เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (ปลด
กิตติโสภณมหาเถร วัดเบญจมบพิตร)
ทอดพระเนตรเห็นบัญชีรายนามพระเถระที่จะได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์
ทรงมีพระบัญชาให้สลับตำแหน่งพระธรรมไตรโลกาจารย์ มาให้พระเทพโมลี วัดเทพศิรินทราวาส
ทรงให้เหตุผลว่าตำแหน่งนี้พระอุปัชฌาย์ของพระเทพโมลี คือ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เคยเป็นมาก่อนเจ้าประคุณสมเด็จจึงได้เป็นพระธรรมไตรโลกาจารย์ดังที่ได้ประกาศไว้กับพระยาสัจจาภิรมย์เมื่ออายุยังไม่ถึงห้าขวบปีด้วยเหตุมหัศจรรย์ดังนี้
ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2539
ได้รับพระราชทานสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่ สมเด็จพระวันรัต
มีราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัฎว่า
สมเด็จพระวันรัต ปริยัติปฏิบัติคุณดิเรก อเนกคัมภีรธรรมัตถโกศล
สุวิมลวินยสุนทร
ณาณวรวรางกูร วิบูลธรรมโสภิต ตรีปิฎกบัณฑิต ยติคณิสสร
บวรสังคาราม คามวาสี
อรัญวาสี สถิต ณ วัดเทพศิรินทราวาส พระอารามหลวง
จงเจริญทีฆายุ จิรัฎธิติกาล
ในพระพุทธศาสนา เทอญ ฯ
ในศกนี้ ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะว่างลง 2 ตำแหน่ง คือ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ 1 สมเด็จพระวันรัต 1 เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
ได้รับเมตตาธรรมจากพระมหาเถระเสนอให้เป็นสมเด็จพระวันรัต
แทนที่จะเสนอให้เป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จ ฯบอกว่า
เป็นเพราะโยมผู้ชายได้อธิษฐานขอไว้
อีกเหตุผลหนึ่งท่านไม่เลือกเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านกล่าวว่า
ถ้าเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เวลาเซ็นชื่อ
ก็ต้องเซ็นชื่อเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เหมือนสมเด็จพระอุปัชฌาย์
เพียงคิดก็ไม่กล้าแล้ว
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2539
คณะสงฆ์วัดเทพศิรินทราวาสพร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์
ได้จัดพิธีสมโภชสุพรรณบัฎที่ได้รับพระราชทานสถาปนา
ในการนี้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง
เจ้าหน้าที่สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิศริยาภรณ์และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา
เชิญสุพรรณบัฎและเครื่องยศสมณศักดิ์ขึ้นตั้งไว้ ณ
โต๊ะหมู่ที่เตรียมพร้อมไว้ในพระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส
พิธิสมโภชสุพรรณบัฎดำเนินไปจนเสร็จพิธี
มีสามเณรรูปหนึ่งต้องการจะชมสุพรรณบัฎนั้นเป็นเช่นไรเพราะไม่เคยเห็นจึงได้กราบเรียนขออนุญาตขอชม
เมื่อได้รับอนุญาตจึงไปหยิบมาดู ปรากฎว่าสุพรรณบัฎนั้น
เป็นสุพรรณบัฎที่จารึกนามของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ท่านจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ได้ทราบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องต่างตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยมีการผิดพลาดเจ้าหน้าที่ทั้งหลายรีบไปเชิญสุพรรณบัฎของสมเด็จพระวันรัตมาถวายเจ้าประคุณสมเด็จ
ฯ พร้อมกับกราบขออภัยให้งดโทษ เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มิได้ว่ากระไร
นอกจากมอบรางวัลเพิ่มเป็นกำลังใจที่ต้องเหนื่อยถึงสองครั้งในการไปเชิญสุพรรณบัฎมาถวาย
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มหัศจรรย์ จึงกล่าวได้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จ
ได้สถาปนาเป็นสมเด็จพระวันรัต ตามที่โยมผู้ชายได้อธิษฐานขอไว้กับหลวงพ่อเฉย
และได้รับพระราชทานสุพรรณบัฎของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ตามคำทำนายของโหรทั้งหลาย
ด้วยการสมโภชสุพรรณบัฎ อันตำแหน่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และสมเด็จพระวันรัตนี้
เป็นตำแหน่งที่สมเด็จพระราชาคณะที่มีมาเดิมตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
สันนิษฐานว่าเป็นราชทินนามที่ได้มาจากลังกา เป็นตำแหน่งคู่กันของสังฆนายก
ฝ่ายคามวาสีและอรัญวาสี ตำแหน่ง 2 ตำแหน่งนี้จึงเป็นตำแหน่งที่สูงส่ง ศักดิ์สิทธิ์
พระมหาเถระผู้จะได้รับพระราชทานนามนี้
จะต้องมีความสำคัญมากทั้งในด้านภูมิรู้และภูมิธรรม
กล่าวกันว่าหากบุญบารมีไม่เพียงพอก็เป็นไม่ได้ การที่เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
ได้เป็นสมเด็จถึง 2 ตำแหน่งจึงเป็นเครื่องยืนยันสิ่งที่พรรณนามาแต่ตอนต้นว่า
ท่านเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ต้องตามโบราณวินิจฉัยทุกประการ