ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
การเข้ามาของพวกโปรตุเกสกับคริสตศาสนา
ความปรารถนาของนักบุญฟรังซิส เซเวียร์
ธรรมทูตคณะโดมินิกันในสยาม
มรณสักขีองค์แรกในแผ่นดินสยาม
สิทธิอุปถัมภ์ศาสนา (Padroado)
ระบบ ปาโดรอาโด ของโปรตุเกส
การเข้ามาของคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส
ระบบ ปาโดรอาโด ของโปรตุเกส
อำนาจปกครองของกษัตริย์
กษัตริย์มีส่วนร่วมในกิจการเผยแพร่ศาสนา
โดยเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่จะเป็นสังฆราชในสังฆมณฑลต่างๆ ของอาณานิคม
พระองค์แต่งตั้งเจ้าอาวาสโดยตรง สำหรับสังฆราชไม่ต้องแต่งตั้งจากพระสันตะปาปา
พระสงฆ์จิตตาธิการของคณะ กองพลของพระคริสต์
มีอภิสิทธิ์มอบอำนาจฝ่ายธรรมแก่พระสังฆราชองค์ใหม่ นอกนั้น
กษัตริย์เป็นผู้ออกเงินเพื่อบำรุงวัดและอาราม
ให้เงินเลี้ยงพระสงฆ์และฆราวาสที่ทำงานในวัด
มีหน้าที่ซ่อมแซมวัดวาอารามและสร้างใหม่ตามความต้องการ
สมัยนั้นถือว่ากษัตริย์มีส่วนในงานของพระศาสนจักร
เพราะต้องรับผิดชอบในความรอดฝ่ายวิญญาณของไพร่พล รับผิดชอบต่อความเจริญของศาสนา
และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพระศาสนจักรในราชอาณาจักร
พระสันตะปาปาได้ทรงมอบภาระหน้าที่การเผยแพร่ศาสนาและการจัดระเบียบการปกครองของพระศาสนจักรในประเทศที่ไม่อยู่ในยุโรปให้กษัตริย์
และทุกคนย่อมรับสิทธิ์การปกครองทางธรรมของกษัตริย์
ระเบียบของปาโดรอาโด
ธรรมทูตที่ไปในดินแดนมิสซังต้องโดยสารทางเรือของโปรตุเกสประเทศเดียว
โดยออกเดินทางจากกรุงลิสบอนเมืองเดียว
ฉะนั้นพระสงฆ์และนักบวชชาวโปรตุเกสหรือชาวต่างประเทศทั่วยุโรป
ต้องไปรวมกันที่ลิสบอน โดยมีเจ้าหน้าที่โปรตุเกสตรวจคนที่จะเดินทางอย่างละเอียด
(เกี่ยวกับอายุ สัญชาติ ยศ ตำแหน่ง)
คนต่างชาติต้องเรียนภาษาโปรตุเกสเพราะเป็นภาษาที่ใช้ทั่วไปในมิสซัง อีกทั้ง
ธรรมทูตทุกคนต้องไปเฝ้ากษัตริย์และปฏิญาณที่จะซื่อสัตย์ต่อกษัตริย์โปรตุเกส
และทำงานภายใต้การปกครองของพระสงฆ์โปรตุเกส
จุดอ่อนเกี่ยวกับการปกครองของโปรตุเกส
ประเทศโปรตุเกสเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองไม่เกินหนึ่งล้านห้าแสนคน
เมื่อนักเดินเรือเริ่มพบดินแดนใหม่
โปรตุเกสเองจึงไม่สามารถรับผิดชอบการเผยแพร่ศาสนาทั่วอาณานิคมของตน
กษัตริย์จึงขอความช่วยเหลือจากคณะนักบวชให้เรียกสมาชิกของคณะที่เป็นชาวต่างชาติมาช่วย
จึงมีนักบวชชาวอิตาเลียน สเปน เยอรมัน ออสเตรีย โปแลนด์
ไปสมทบชาวโปรตุเกสเป็นธรรมทูตเป็นจำนวนมาก
โดยทั่วไปโปรตุเกสยึดครองดินแดนตามชายทะเล ไม่นิยมเข้าไปในแผ่นดินที่เป็นอาณานิคม
ดังนั้น
โปรตุเกสจึงไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการมากมายของประเทศมิสซังอันกว้างใหญ่ได้
ข้อสังเกตเกี่ยวกับปาโดรอาโด
น่าสังเกตว่า
แม้ระยะเวลานั้นจะอยู่ในศตวรรษที่ 16 แล้วก็ตาม
แต่ประเทศโปรตุเกสและสเปนยังคงยึดถือจิตตารมณ์ของสมัยกลางอยู่
นั่นคือการยึดมั่นอยู่กับสถาบันพระสันตะปาปา
แทนที่จะโน้มเอียงไปสู่ความเปลี่ยนแปลงสมัยใหม่ตามที่มีอยู่ทั่วไปในยุโรปเวลานั้น
ประเทศทั้งสองจึงกลายเป็นเครื่องมือที่พระศาสนจักรใช้ในการขยายพระศาสนจักรไปสู่ดินแดนที่เพิ่งค้นพบใหม่
การก่อตั้งระบบปาโดรอาโด
ทำให้ประเทศสเปนและโปรตุเกสต้องรับหน้าที่ในการต่อสู้กับพวกแขกมัวร์มุสลิมที่กำลังคุกคามยุโรปในเวลานั้นด้วย
แม้ว่าสเปนกับโปรตุเกสจะเป็นมหาอำนาจในยุโรป
แต่ต่างต้องขออนุญาตจากพระสันตะปาปา เพราะว่าเป็นเรื่องของความเชื่อโดยแท้จริงว่า
พระสันตะปาปาในฐานะเป็นผู้แทนพระคริสตเจ้าบนโลกนี้มีอำนาจหน้าที่โดยสมบูรณ์ที่จะถอดถอนประเทศทั้งหลายของคนต่างศาสนา
เพื่อประโยชน์สำหรับนักปกครองซึ่งถือศาสนาคริสต์
เป็นที่น่าสังเกตว่าสิทธิพิเศษจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจในการแพร่ธรรมโดยตรงมีแต่ทางอ้อมเท่านั้น
สรุปสิทธิพิเศษของปาโดรอาโด
นักประวัติศาสตร์ผู้หนึ่งคือ ซิลวา เรโก (Silva Rego)
ได้สรุปสิทธิพิเศษต่างๆ ของปาโดรอาโดไว้ ดังนี้
1) การเดินเรือเพื่อค้นหาดินแดนใหม่ๆ
สงวนไว้เฉพาะนักเดินเรือชาวโปรตุเกสเท่านั้น
ทั้งนี้เพื่อผลดีต่อผู้ที่ยังไม่เชื่อในพระศาสนาเอง
2) ชาวโปรตุเกสเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงทางทะเล รวมทั้งแผ่นดินต่างๆ
ที่จะค้นพบและยึดครอง นอกเหนือจากที่ค้นพบและยึดครองไว้แล้ว
3) ชาวโปรตุเกสมีอำนาจในการเจรจาโดยตรงอย่างอิสระกับผู้ที่ยังไม่เชื่อ
รวมทั้งกับพวกมุสลิมด้วย
4) กษัตริย์โปรตุเกสสามารถสร้างและก่อตั้งวัดวาอารามต่างๆ
รวมทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จัดตั้งและจัดหาคณะนักบวชสำหรับวัดวาอารามเหล่านั้น
เพื่อโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
การยกบาปยกเว้นเฉพาะกรณีที่พระสันตะปาปาสงวนไว้เท่านั้น
5) ประเทศโปรตุเกสเป็นผู้มีอำนาจในการปกครอง (Jurisdiction) แถบอินเดียตลอดไป