ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ที่สำคัญในจังหวัดลำพูน







ประเพณีขึ้นดอยขะม้อ
ก่อนจะมีงานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นประจำทุกปีของจังหวัดลำพูน3 วัน
หรือในวันขึ้น 15 ค่ำของทุกปี จะมีประเพณีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดลำพูน
คือประเพณีขึ้นดอยขะม้อ
ซึ่งเชื่อกันว่าการขึ้นไปนมัสการบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และได้นำน้ำศักดิ์สิทธิ์มาดื่มกินจะทำให้เกิดสิริมงคลในชีวิตและรักษาโรคต่างๆให้บรรเทาลงได้
ทุกปีจึงมีประชาชนทั้งในจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมประเพณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดอยขะม้อตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันออกของอำเภอเมืองลำพูน
อันเป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ธิ-แม่ตีบ-แม่สาร
ในเขตท้องที่ตำบลมะเขือแจ้ มีลักษณะสูงชัน
ยอดเขาแหลมแตกต่างจากบอดเขาที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันดุจกับเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน
มีลักษณะเหมือนหม้อคว่ำ ชาวเมืองแต่โบราณเรียกว่า
ดอยหม้อคว่ำภายหลังเพี้ยนมาเป็น
ดอยขะม้อปัจจุบันนี้บางคนเรียกว่าดอยขะม้อบ่อน้ำทิพย์ เพราะว่าบนยอดดอย
มีบ่อน้ำเกิดกลางแผ่นดินสูง จึงถือว่าเป็นบ่อน้ำศํกดิ์สิทธิ์หรือชาวบ้านเรียกว่า
บ่อน้ำทิพย์
มีตำนานเล่าขานกันต่อมาเกี่ยวกับประวัติของบ่อน้ำทิพย์นี้ว่า.......เมื่อครั้งพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยู่
ได้เสด็จจาริกโปรดเวไนยสัตว์ในที่ต่างๆมาแวะฉันอาหารบนยอดดอยนี้
ก่อนที่จะฉันอาหารพระองค์ได้ทรงบิณฑบาตร
แล้วขึ้นไปจัดแจงแต่งดาบนดอยลูกหนึ่งทางตอนเหนือของดอยขะม้อ
ดอยลูกนั้นจึงได้ชื่อว่า ดอยห้างบาตร(ห้างเป็นภาษาเหนือที่แปลว่าแต่งดา)
ดอยห้างบาตรรอยู่ในเขตตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน
ที่บนดอยห้างบาตรมีรอยบาตรประทับบนแผ่นดิน
เมื่อจัดแจงแต่งดาบาตรเสร็จก็ออกบิณฑบาตไปตามหมู่บ้านต่างๆ
แล้วไปแวะพักฉันอาหารบนยอดดอยขะม้อ เมื่อฉันอาหารเสร็จไม่มีน้ำจะเสวย
พระอานนท์จึงได้ไปตักน้ำยังลำห้วยแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของดอยขะม้อ
ปรากฏว่าลำห้วยตีบตันไปหมดไม่สามารถตักน้ำได้ จึงกลับมากราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าดูก่อนอานนท์
ต่อไปในภายภาคหน้าคนทั้งหลายจะเรียกลำห้วยนี้ว่า แม่ตีบ
พระอานนท์ขึงไปยังลำธารอีกแห่งหนึ่งทางทิศใต้ของดอยนี้
น้ำในลำธารใสสะอาดบังเอิญมีเกวียนผ่านไปเล่มหนึ่งทำให้น้ำขุ่นหมด พระอานนท์รอ(ท่า)
อยู่เป็นเวลานานน้ำก็ไม่ใสสักทีจึงกลับไปกราบทูลให้พระพุทธองค์ให้ทรงทราบ
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ดูก่อนพระอานนท์ ต่อไปลำธารสายนี้ คนทั้งหลายจะเรียกว่า
แม่ท่า ภายหลังเพี้ยนเป็น แม่ทา ในปัจจุบัน
<script async
src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"></script>
<!-- center_2559 -->
<ins class="adsbygoogle"
style="display:block"
data-ad-client="ca-pub-2716469986870548"
data-ad-slot="8796964454"
data-ad-format="auto"></ins>
<script>
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
</script>
พระอานนท์จึงไปยังหนองน้ำแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกของดอยนี้
เมื่อพระอานนท์ไปถึงพญานาคที่รักษาหนองน้ำแห่งนั้นก็บันดาลให้หนองน้ำแห่งนั้นแห้งไปหมดไม่สามารถตักน้ำได้
พระอานนท์จึงรับกลับไปกราบทูลให้พระพุทธองค์ให้ทรงทราบ พระพุทธองค์ตรัสว่า
ดูก่อนพระอานนท์ ต่อไปในภายภาคหน้าคนทั้งหลายจะเรียกหนองน้ำแห่งนี้ว่า หนองแล้ง
ปัจจุบันเป็นบ้านหนองแกล้ง (ไชยสถาน อยู่ในตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน)
เมื่อเป็นดังนี้ พระพุทธองค์จึงอธิษฐานถึงบารมีทาน
แล้วใช้พระหัตถ์กดลงบนแผ่นหิน ฉับพลันก็มีน้ำพุ่งมาให้เสวยได้สมพระทัย
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ดูก่อนพระอานนท์ เมื่อตถาคตเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว
ธาตุของตถาคตจะไปตั้งอยู่กลางเมืองหริภุญชัยในสมัยพญาอาทิตยกราช
แล้วคนทั้งหลายจะมาตักเอาน้ำแห่งนี้ไปสรงพระธาตุของตถาคต
ในประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัย
มีขึ้นเป็นประจำทุกปีตรงกับวันเพ็ญเดือนหก(วันวิสาขบูชา) หรือ วันเพ็ญเดือนแปด
(เหนือ) ชาวบ้านเรียกว่า
ประเพณีเดือนแปดเป็งแล้วจะมีการตัดน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ก่อนสรงน้ำ 3 วัน
บนยอดดอยขะม้อมีความกว้างประมาณ 12 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร
ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนอันเป็นต้นน้ำของลำห้วยแม่ตีบ
พระวิหารหลังหนึ่งตั้งอยู่กับพระบาทจำลอง
มีจาริกเป็นภาษาล้านนาจาริกว่าเดือนยี่แรม7ค่ำได้เริ่มสร้างพระพุทธรูปในวิหารแล
ต่อนั้นมาได้ซ่อมแซมพระพุทธบาท เถิงปี2472 ตั้งแต่เดือน5ขึ้น5ค่ำ ได้เริ่มทำบุญฉลอง
โดยครูบาสิงห์ชัย วัดสะแล่ง พระครูชัยลังกา วัดศรีชุม ขุนจันทนุปาน
กำนันตำบลมะเขือแจ้ และนายชัยกำนันตำบลบ้านกลาง
หลังพระวิหารเก่าแก่นี้เป็นบ่อน้ำทิพย์เป็นลักษณะบ่อที่เกิดกลางแผ่นดิน
ปากบ่อกว้างประมาณ 3 เมตรความลึกไม่สามารถวัดได้
มีรั้วล้อมรอบและมีป้ายห้ามผู้หญิงเจ้าไป
เพราะมีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงเข้าไปแล้วน้ำในบ่อจะแห้งทันที
นอกจากนี้จะใช้น้ำทิพย์ในการสรงน้ำพระบรมธาตุหริภุญชัยแล้ว
ยังได้มีการใช้น้ำทิพย์จากดอยขะม้อ ในพิธีบรมราชาภิเษกและงานราชพิธีต่างๆ
โดยในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระมงกุฆเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
พ.ศ.2453 (โดยพิธีจัดในปี 2454)
ให้มีการพลีกรรมตักน้ำจากแม่น้ำและแหล่งน้ำต่างๆที่ถือว่าสำคัญและเป็นศิริมงคลมาตั้งทำน้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ณ มหาเจดียสถานที่เป็นมหานครโบราณ 7 แห่ง คือ
1.แม่น้ำป่าสัก ตำบลท่าราบ (เมืองศรีเทพ)
2.ทะเลแก้วและสระแก้ว เมืองพิษณุโลก
3.น้ำโชคชมภู่ น้ำบ่อแก้ง น้ำบ่อทอง เมืองสวรรคโลก
4.แม่น้ำนครไชยศรี
ตำบลบางแก้ว จังหวัดนครปฐม (เมืองนครชัยศรีโบราณ)
5.บ่อวัดหน้าพระลาน บ่อวัดเสมาชัย บ่อวัดเสมาเมือง เมืองนครศรีธรรมราช
6.บ่อน้ำทิพย์ดอยขะม้อ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
7. บ่อน้ำวัดธาตุพนม เมืองนครพนม
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำทิพย์ดอยขะม้อในราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยในปี
พ.ศ.2468 รัชกาลที่ 8
ไม่มีพิธีราชาภิเษกและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
ได้ใช้น้ำทิพย์ดอยขะม้อในพิธีบรมราชาภิเษกในปี 2493
และมีการใช้น้ำจากบ่อน้ำทิพย์นราชพิธีต่างๆตามโบราณราชประเพณี