สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

เศรษฐศาสตร์การเมืองและระบบโลก

ต้นตอของขบวนการโลกาภิวัตน์
โครงสร้างอำนาจของทุน
การปรับโครงสร้างการผลิต
บทบาทของหนี้
โครงสร้างของโลกาภิวัตน์
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองของโลก
ความเปราะบางของระเบียบโลกใหม่
อัตลักษณ์และความรู้ : การเผชิญหน้ากับอนาคต
ความล้าสมัยของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศฯ
กระบวนการทางการเมืองและระเบียบโลก
พลังท้าทายของสรรพสิ่งมีชีวิต
ทางออกสู่รูปแบบใหม่ของสังคมเศรษฐกิจ
เชิงอรรถ

พลังท้าทายของสรรพสิ่งมีชีวิต

พลังทั้งสามส่วนที่แก่งแย่งแข่งขัน อยู่ในบริบทของโลกแห่งสรรพสิ่งมีชีวิตเป็นขีดจำกัด มนุษยชาติเป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และภายใต้ธรรมชาติ มนุษย์ต้องพึ่งสิ่งมีชีวิต อื่น ๆ และสสารที่พยุงชีวิตได้ มีปรากฎการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้เรายิ่งตระหนักถึงกฎการพึ่งพาซึ่งกันและกัน ได้แก่ ภาวะหลุมโอโซน ภาวะโลกร้อน การเสื่อมสลายของความหลากหลายทาง ชีวภาพ การลดลงของพันธุ์ปลา การที่ผู้คนถูกผลกระทบจากมลภาวะมากขึ้นและความผันแปรของดินฟ้าอากาศที่นำความเสียหาย

การที่ธรรมชาตินอกเหนือมนุษย์สามารถเข้าแทรกแซงการเมืองของมนุษย์ ทำให้ยิ่งตระหนักกันว่า ความอยู่รอดของมนุษย์ชาติกำลังเป็นปัญหา ไม่วันพรุ่งนี้ ก็ในช่วงระยะยาว จึงมิอาจละเลยได้ มุมมองดังกล่าว หมายความว่าการคงไว้หรือรักษาไว้ซึ่งโลกของสรรพสิ่งมีชีวิต ได้กลายเป็นบรรทัดฐานสูงสุดที่จะนำมาตัดสินผลของนโยบายทางการเมือง

เราจะประเมินการเมืองของโลกทั้งสามมิติที่กล่าวข้างต้น จากบรรทัดฐานนี้ได้อย่างไร

ขบวนการโลกาภิวัตน์ขัดแย้งในตัวเอง โลกาภิวัตน์ถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันระดับโลก และคู่ของการแข่งขันก็คืออุปสงค์ของผู้บริโภคแบบจำลองอุปสงค์ที่ใช้กันอยู่ได้มาจากการบริโภคของสังคมฟุ่มเฟือย ซึ่งเป็นตัวผลักดันรูปแบบการผลิต ที่ตามมาด้วยมลภาวะและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนร่อยหรอไปเรื่อย ๆ แหล่งมลภาวะเริ่มที่ประเทศร่ำรวย เมื่อประเทศเหล่านี้แก้ปัญหามลภาวะได้มลภาวะก็จะย้ายไปเกิดที่ประเทศจนกว่าที่เอาอย่างพฤติกรรมที่ประเทศร่ำรวยได้เลิกไปแล้ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ บางชนิดอาจสร้างมลภาวะน้อยลง และใช้ทรัพยากรธรรมชาติประหยัดขึ้น ทำให้มีหนทางหากำไรจากการทำให้ระบบนิเวศปลอดมลภาวะ แต่ถ้าขบวนการ โลกาภิวัตน์ยังคงก้าวต่อไปเฉกเช่นปัจจุบัน วิกฤตธรรมชาติที่จะส่งผลลบต่อมนุษยชาติต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

นัยยะที่ได้จากความขัดแย้งที่กล่าวมาคือ
(1) สังคมร่ำรวยต้องเปลี่ยนแบบแผนการบริโภค และการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความอยู่รอดของโลกสิ่งมีชีวิต
(2) แบบแผนที่เปลี่ยน ไปนี้ต้องเป็นแม่แบบทางเลือกให้ประเทศอื่น ๆ ที่จนกว่าและ
(3) ประเทศร่ำรวยที่ได้จัดการกับสังคมเศรษฐกิจของตนเองตามแนวทางเลือกใหม่ได้แล้ว จะต้องช่วยประเทศที่จนกว่าปรับเปลี่ยนไปในแนวทางใหม่นี้ด้วย

สิ่งที่เสนอเป็นการท้าทายระบบการเมืองของประเทศร่ำรวยอย่างยิ่ง เพราะอาจจะเป็นไปไม่ได้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ บุช เคยกล่าวว่า ‘เราไม่อาจยอมให้ใครมาปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของเราได้’ (‘Our lifestyle is not open to negotiation’) คำกล่าวนั้น ชี้ให้เห็นความเป็นจริงทางการเมือง ซึ่งเป็นมุมมองระยะสั้นของนักการเมืองระดับนำของโลกทางการ

เมื่อหันมาวิเคราะห์โลกที่สองคือโลกใต้ดิน ข้อพิจารณาเรื่องโลกแห่งสรรพสิ่งมีชีวิต มิได้อยู่ในความใส่ใจของโลกนี้เลย โลกใต้ดินไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระยะยาว มันเป็นโลกที่สนใจแต่เรื่องการหาเงินและอำนาจการเมืองระยะสั้นเท่านั้น โลกใต้ดินสนับสนุนโครงสร้างอำนาจและสภาพปัจจุบันของโลกทางการ มันเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อความพยายามจะปรับปรุงโลกของสรรพสิ่งที่มีชีวิตซึ่งผู้คนมักมองข้าม

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย