ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
คำพยากรณ์โลก
โดย อ.ปริญญา ตันสกุล
การชำระล้างโลกของพระบิดา
กระบวนการทางเทคนิคของพระบิดาต่อไปนี้
จะเปิดเผยเฉพาะบางส่วนที่มนุษย์ควรรู้เท่านั้น เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้เป็นข้อพิสูจน์
ว่าความรู้ทั้งหมดทั้งสิ้น ล้วนเป็นพระเมตตาที่พระบิดาประทานมาให้เผยแพร่
มิใช่เป็นการกระทำขึ้นมาเองของมนุษย์ที่อวดอุตริจริงแท้หรือไม่
หากทุกอย่างเป็นความจริงตามที่เผยให้รู้ไว้ล่วงหน้านี้
ย่อมจะเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าองค์จิตจักรวาล
ผู้เป็นพระบิดาหรือพระผู้สร้างหรือว่าพระเจ้าล้วนมีจริงเป็นแน่แท้
แต่จะมีใครสักกี่คนกันเล่า ที่จะมีโอกาสข้ามผ่านกลียุคครั้งที่ 4
นี้ไปได้เพื่อถึงวันเวลาแห่งการพิสูจน์นั้น
ขึ้นตอนโดยสังเขปทางเทคนิคของพระบิดา
- ก่อนวันชำระครั้งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น 15 วัน แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลก
ที่ทำมุมกันแนวดิ่งอยู่ 23.5 องศานั้น จะถูกกำหนดให้มันค่อย ๆ
ขยับตัวเพื่อเบี่ยงเบนไปจากแนวเดิมเรื่อย ๆ
จะทำให้ขั้วโลกเหนือก้มหัวลงหันเข้าหาดวงอาทิตย์มากขึ้น
- น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จากกรณีที่เกิดขึ้นในข้อแรก
ทำให้น้ำแข็งละลายกลืนกับน้ำในมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว
- เมื่อโลกเอียงในลักษณะก้มหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
น้ำจากขั้วโลกก็จะพากันไหลหลั่งลงสู่เบื้องล่างเป็นคลื่นน้ำระลอกใหญ่
ในอันที่จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมแผ่นดิน
และบริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่จะกลืนแผ่นดินต่อไป
- ขณะเดียวกันก็จะกำหนดให้เกิดการสั่นสะเทือนใต้มหาสมุทรบริเวณขั้วโลกใต้
เพื่อกระเทาะเอาก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ให้หลุดออก
เพื่อใช้เป็นมวลในการถ่วงดุลด้านน้ำหนักมวลระหว่างขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้
ในกระบวนการทางเทคนิคที่จะ กล่าวถึงในข้อ 5 และ 6 เป็นลำดับต่อไปนั่นเอง
- เมื่อครบ 15 วันตามกำหนดที่จะชำระความครั้งใหญ่แล้ว
แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกจะเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา หรืออยู่ที่ 32
องศากับแนวดิ่งแล้ว ตรงพิกัดตำแหน่งนี้จะเป็นกำหนดเวลาที่ส่วนโค้งของโลก
จะเริ่มบดบังแสงสว่าง จากดวงอาทิตย์ได้อย่างเหมาะเจาะพอดีอีกต่างหากด้วย
ดังนั้นวันแรกแห่งการชำระความในกรณีชำระโลกครั้งใหญ่ ที่มนุษย์จะสังเกตมายาได้ก็คือ
ฟ้าจะเริ่มมืดสลัวลง ผิดปรกติ
- ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ
คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ
โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง
และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม
กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียน กลมกลืนยิ่งขึ้น
เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ
พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม
แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง
เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี
ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน
- คำกล่าวที่ว่า น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว จะเกิดขึ้นภายใน 7 ราตรี คือ 49 วันอันมีแต่กลางคืนนั่นเอง หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจมอยู่ใต้บาดาล ผู้ที่อยู่ใต้น้ำย่อมมองเห็นเหมือนน้ำท่วมท้องฟ้าและปลาจะแหวกว่ายอยู่ไปมา ทำให้คนที่จมอยู่ใต้น้ำแลประหนึ่งว่า ปลาจะกินดาวนั่นเอง
- ตึกสูงใหญ่ วัตถุเทคโนโลยีขยะ มนุษย์ขยะ สัตว์ประจำโลก ต้นไม้ใหญ่น้อย
ภูเขาสูงชันและอื่น ๆ จะถูกชำระออกไปจากระบบ
เพื่อลดจำนวนและน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกให้น้อยลง
เพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้กับดาวเคราะห์ดวงนี้
- สัตว์ประจำโลกบางชนิดจะสูญพันธุ์ เพราะพวกเขาหมดหน้าที่แล้ว
โดยพระบิดาจะเรียกนำจิตวิญญาณพวกเขาทั้งหมด กลับคืน คือ กระต่าย และ หนู
- เมื่อครบ 49 วันหรือ 7 ราตรีแล้ว พระบิดาจะใช้น้ำฝนดั่งน้ำทิพย์ที่บริสุทธิ์ของพระองค์หลั่งลงมาเพื่อเก็บกวาดชำระล้างเศษ ซากทุกสิ่ง และชุบชีวิตให้กับจิตวิญญาณบุตรที่รักดีที่เหลือรอด
- ให้มีการ ชำระความ ก่อนวันชำระใหญ่ได้เรื่อย ๆ นับแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา
- การชำระความ กระทำโดยกลุ่มของช่างเทคนิค
ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้นในสนาม
พลังงานดาวเคราะห์โลก จำนวน 20 เท่าของประชากรโลกที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
โดยเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในประเทศใดก็
จะทำหน้าที่เป็นช่างเทคนิคเพื่อชำระความกับมนุษย์ในประเทศนั้น
- การชำระความของเจ้ากรรมนายเวรผู้เป็นช่างเทคนิค หมายถึง
การแก้แค้นเอาคืนอย่างสาสมกับมนุษย์ที่เคยก่อกรรมด้าน ลบต่อพวกเขามาก่อน
- เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง พี่ ๆ น้อง ๆ ของมนุษย์ในภพชาติปัจจุบันนี้เอง
ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการจองจำด้วย ความอาฆาต
โกรธแค้นต่อมนุษย์ปัจจุบันที่เคยกระทำผิดคิดร้ายต่อพวกเขา
โดยพวกเขาไม่ยอมไปผุดเกิดยังภพภูมิใด ๆ ได้แต่
รอคอยโอกาสเพื่อติดตามแก้แค้นทวงคืนอยู่อย่างเดียว
บางรูปธรรมได้จองจำมนุษย์ไว้นานร่วมสองหมื่นปีมาแล้วก็มี
- เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง รูปธรรมทางพลังงานจิตวิญญาณของผู้ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์
หรือ สัตว์ประจำโลก ที่เคยถูกมนุษย์ ทำร้ายให้ทุกข์ทรมานอย่างทารุณ
ด้วยการเข่นฆ่าเอาชีวิต และกินเลือดกินเนื้อพวกเขาอย่างเมามัน เช่น หมู เป็ด ไก่
ห่าน วัว ควาย และอื่น ๆ เป็นต้น
- วิธีการชำระความก็คือ การอยู่เบื้องหลังภัยธรรมชาติที่รุนแรง
เพื่อจัดการกับมนุษย์ผู้เป็นบุคคลเป้าหมายที่จะเอาความของ พวกตนเช่น
การโอบอุ้มน้ำฝนไปถล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพื่อก่อให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรงต่อมนุษย์ในเป้าหมายชำระของพวกตน
การร่วมกันทำให้เกิดฟ้าฝ่าบุคคลเป้าหมาย การทำให้เกิดลมพายุพัดถล่มซ้ำ
การทำให้เกิดคลื่นยักษ์ การทำให้เกิดแผ่นดินไหว ด้วยการใช้เสียงดังของฟ้าฝ่าในระดับ
30 เดซิเบลขึ้นไปเพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดการสั่นสะเทือนนั้น
การผลักเคลื่อนตัวของรอยแยกของเปลือกโลกอันเกิดจากการระเบิดในใจกลางโลก
การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่รุนแรง และการระเบิดของภูเขาไฟ ในสถานที่ ๆ
ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- ชำระความด้วยเสียงอันดัง เพื่อทำลายประสาทหูและใช้พลังงานด้านลบที่เข้มข้น
เพื่อทำลายสติและเอาชีวิตมนุษย์เป้าหมายนั้นในฉับพลัน
- ชำระความมนุษย์ด้วยโรคระบาดร้าย ๆ ที่มากับน้ำเน่าเสีย เช่น
อหิวาตกโรคชนิดใหม่ที่มนุษย์ต้องตายภายใน 6 วันหลังการได้รับเชื้อนั้น
หรือภัยร้ายจากเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ชื่อ Virusteria
ที่มนุษย์โลกไม่เคยรู้จักซึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วกว่า เชื้อโรคชนิดใด ๆ
บนโลกใบนี้
- ชำระความด้วยความอดอยากหิวโหย ไม่มีที่อยู่ ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีอาหารบริโภค
เพราะน้ำท่วมเสียหายหมด และไม่มีใคร
ช่วยเหลือใครได้เพราะต่างต้องประสบเคราะห์กรรมโดยทั่วหน้ากัน
- ช่วงเวลาแห่งการชำระความครั้งใหญ่ จะใช้เวลานานถึง 7 ราตรี โดยที่ 1 ราตรี
หมายถึง การที่โลกจะปกคลุมไปด้วยความ มืดมิดคือ มีแต่กลางคืนติดต่อกัน 7 วันเต็ม ๆ
ขณะที่ภัยธรรมชาติที่วิปริตแปรปรวนอันเกิดจากน้ำมือของช่างเทคนิค
เป็นผู้กระทำอยู่เบื้องหลังจะรุกกระหน่ำเอาความกับมนุษย์อย่างไม่ลืมหูลืมตา
แม้จะปิดตาก็แลเห็นจะปิดหูก็ได้ยิน ทั่วทั้งแผ่นดินจะเจิ่งนองไปด้วยน้ำ
บอบช้ำไปด้วยพายุถล่ม แผ่นดินถล่ม และตึกสูงใหญ่ที่ถล่มทลายลงมากองเป็นภูเขาเลากา
ท่ามกลางเสียงหวีดกรีดร้องของมนุษย์กับเจ้ากรรมนายเวร ประสานเสียงกันอย่างบาดหัวใจ
- แผ่นดินบางแห่งจะลุกเป็นไฟ เพราะแสงเพลิงและสายธารของลาวาจากใต้โลก
บางแห่งจะยุบตัวลงกลืนเมืองลงไปทั้งเมือง แล้วราดทับด้วยเปลวถ่านร้อน ๆ
ของลาวาอย่างน่าพรั่นพรึง
- แผ่นดินจำนวนมากจะถูกกลืนหายไปใต้แผ่นน้ำ และมหาสมุทรอย่างถาวร เพราะคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และแรงดูดดึงจากใต้สมุทรจนทำให้เกาะน้อยใหญ่ไม่แตกกระจาย ก็จะจมหายลงไปใต้ผืนทะเลตลอดกาล
ขั้นตอนการชำระความโดยสังเขป:
*** เป็นความเชื่อของแต่ละผู้ละคน โปรดใช้วิจารณญาณให้จงหนัก