สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>

เครื่องเทศ

กานพลู

ชื่อท้องถิ่น : จันจี่ (ภาคเหนือ)
ชื่อสามัญ : Clove
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eugenia caryophyllus (Sprengel) Bullock & Harrison
ชื่อวงศ์ : MYRTACEAE

กานพลูเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไม่ผลัดใบ ความสูง 6 - 15 เมตร ลักษณะทรงพุ่มเป็นรูปกรวย เป็นไม้เนื้อแข็งลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ใบเป็นรูปหอก หัวท้ายเรียวแหลม ในบางครั้งอาจพบว่าโคนก้านใบมีสีชมพู ใบอ่อนจะมีสีแดงชมพู และจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเป็นมันเมื่อใบแก่ ดอกมีลักษณะเป็นช่อ เมื่ออ่อนจะเป็นสีเขียวและจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูจนถึงแดง ดอกที่บานแล้วจะมีสีแดงเข้ม มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ดอกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 มิลลิเมตรผลเป็นผลเดี่ยว เนื้อหนา รูปทรงค่อนข้างรียาว 2.5 - 3.5 เซนติเมตรสีม่วงเนื้อหนา เมล็ดเป็นเมล็ดเดี่ยวค่อนข้างนิ่ม


สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

กานพลูเป็นพืชที่เจริญได้ดีในเขตร้อนชื้น และชอบความชื้นสูง ในที่มีฝนตกชุกประมาณ 2,000 - 3,000 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 24 - 33 องศาเซลเซียส สภาพพื้นที่ควรจะเป็นที่ร่วในซุย มีความอุดมสมบูรณ์และน้ำไม่ขังความเป็นกรดด่างของดินประมาณ 5.5 - 6.5 สามารถปลูกได้ในพื้นที่สูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงที่มีความสูง 800 - 900 เมตร

การปลูก

การปลูกกานพลูนิยมเพราะเมล็ดมากกว่าวิธีอื่นเช่น การตอน การต่อกิ่ง หรือการชำกิ่งอ่อน เนื่องจากจะทำให้กานพลูที่มีระบบรากที่แข็งแรง เมล็ดกานพลูจะมีการสูญเสียความงอกได้เร็วมากๆ เมล็ดที่ได้จากผลที่เก็บเกี่ยวใหม่ๆ จะมีเปอร์เซ็นต์ความงอกประมาณ 90% หลังจากนั้นเปอร์เซ็นต์ความงอกจะลดลงอย่างรวดเร็ว การเพาะเมล็ดจึงควรทำทันที เลือกเมล็ดที่สุก ซึ่งจะมีสีดำ โดยแช่น้ำนานประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วลอกเอาเนื้อหุ้มเมล็ดออก นำไปเพาะในกระบะเพาะ หลังจากที่ต้นกานพลูงอกสูง 5 - 7 เซนติเมตร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงทำการย้ายลงชำในถุงนานประมาณ 12 เดือน ต้นกานพลูจะสูงประมาณ 50 เซนติเมตร 4.5 - 6 เมตร ซึ่งการปลูกควรจะมีการเตรียมหลุมปลูกโดยมีขนาดประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ทำการตากดินประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อกำจัดโรคแมลงบางส่วน ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมประมาณ 5 กิโลกรัม อาจปลูกร่วมกับพืชชนิดอื่น เช่น หมาก จันทร์เทศ เพื่อช่วยพรางแสง

การดูแลรักษา

ใช้ไม้ค้ำต้น ทำการพรางแสงเพื่อช่วยลดความแรงของแดด และลดการคายน้ำของพืช หลังจากปลูกได้ประมาณ 4 เดือน อาจใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ่ยหมักร่วมกับปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15 เพื่อเพิ่มอุดมสมบูรณ์ของดิน

การเก็บเกี่ยวและผลผลิต

กานพลูจะเริ่มให้ผลผลิต ตั้งแต่อายุ 8 ปีขึ้นไปและจะให้ผลผลิตสูงสุดเมื่อประมาณ 15 - 20 ปี และจะคงให้ผลผลิตถึง 60 ปี กานพลูจะให้ดอกในราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน และจะโตเต็มที่เก็บเกี่ยวได้ราวเดือนธันวาคม เก็บเกี่ยวดอกตูมเมื่อดอกเริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง ดอกตูมเกินไปหรือบานจะมีคุณภาพไม่ดี นำไปตากแดดให้แห้งสนิทโดยใช้เวลาประมาณ 4 - 5 วัน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปนแดง และควรระวังไม่ให้ดอกแห้งเร็วเกินไปเพราะจะทำให้ดอกมีลักษณะเหี่ยวย่นและเปราะหักง่าย กานพลูให้ผลผลิตเป็นดอกสด ต้นละประมาณ 6 - 10 กิโลกรัมต่อปี ดอกสด 3 กิโลกรัม จะได้ดอกแห้งประมาณ 1 กิโลกรัม

กระวาน
กานพลู
ขมิ้นชัน
จันทน์เทศ
ดีปลี
พริกไทย
มะแข่น
เร่ว
วานิลา
อบเชย
ไทม์
ออริกาโน
 

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย