วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
วรรณคดีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
รื่นฤทัย สัจจพันธุ์
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11
3
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
(2518 : 125) ทรงอธิบายไว้ในเรื่องพระราม ว่า
แม้ว่าลักษณะที่ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ขึ้นนี้จะได้อนุโลมตามแบบอย่างแห่งบทละครรำก็ดี
วิธีที่ทรงดำเนินเนื้อเรื่องทำให้เรานึกว่ามิได้มีพระราชประสงค์จะให้ใช้เป็นบทสำหรับเล่นละครตลอดไป
เพราะเรื่องยืดยาวเหลือที่จะเล่นดังนั้นได้ตลอด
การนำเรื่องรามเกียรติ์ออกเล่นให้มหาชนดูนั้นโดยเฉพาะในสมัยก่อน ๆ
มิได้ใช้วิธีร้องบทให้ตัวละครรำ หากใช้วิธี พากย์ ให้คนเต้น
คนเต้นนั้นก็เป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงอย่างละครรำ
จึงน่านึกว่าพระราชประสงค์ที่ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ขึ้นในรูปละครรำตลอดนี้
คงจะเป็นไปในทางให้มีเรื่องอันบริบูรณ์สำหรับเก็บไว้เป็นตำรับ
หากจะนำตอนใดออกเล่นบ้างก็ได้ หากผู้ใดชอบใจที่จะอ่าน
ก็จะมีเรื่องอันบริบูรณ์แต่ต้นจนจบไว้อ่านได้ดังนี้
เหตุที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ไว้เป็นจำนวนมาก
น่าจะเป็นดังที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายไว้ในประกาศรัชกาลที่ 4
ว่าด้วยเรื่องเก็บภาษีโขนละครและการละเล่นอื่น ๆ ว่า
ลครเล่นเรื่องรามเกียรติ์เรื่องอุณรุทรนี้เป็นเรื่องปางนารายณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินแต่ครั้งกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยามหานครเก่า
ทรงหัดทรงเล่นละครข้างในสำหรับแผ่นดินสืบ ๆ มา
แต่ลครเรื่องอิเหนานั้นเป็นลครของเจ้าฟ้า
และพระองค์เจ้าซึ่งเป็นพระเจ้าลูกยาเธอฝ่ายในหัดเล่นมีมาแต่โบราณ
ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ในต้นแผ่นดินก็โปรดให้หัดลครข้างในเล่นเรื่องรามเกียรติ์
เรื่องอุณรุทธตามแบบอย่างแต่ก่อน แล้วโปรดให้หัดลครเรื่องอิเหนาเรื่องอื่น ๆ
เล่นบ้างต่อภายหลัง ครั้นในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
แต่ต้นก็ได้ทรงหัดเรื่องอิเหนาและเรื่องอื่น ๆ เล่นก่อน ภายหลังทรงพระดำริห์ว่า
ลครเรื่องรามเกียรติ์เป็นเรื่องปางนารายณ์ พระเจ้าแผ่นดินเคยทรงสืบมาทุก ๆ พระองค์
ถึงไม่สู้โปรดก็ควรจะต้องเล่นอย่าให้เสื่อมเสียราชประเวณีวงษ
จึงทรงพระราชนิพนธ์ดัดแปลงแต่งเรื่องรามเกียรติ์ใหม่
ให้หัดลครข้างในเล่นเรื่องรามเกียรติ์ไว้สำหรับพระบรมมหาราชวัง
ก็เพราะได้ทรงฟังพระดำริห์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกนารถแต่ก่อนแล้วทรงรฦกขึ้นได้ดังนี้
จึงทรงหัดลครเล่นเรื่องรามเกียรติ์ตามแบบอย่างพระเจ้าแผ่นดินแต่ก่อนสืบ ๆ มา
เพื่อจะรักษาพระเกียรติยศว่า ลครเรื่องปางนารายณ์เป็นละครหลวง
เรื่องรามเกียรติ์เป็นวรรณคดีอินเดียที่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย ดังจะเห็นได้จากพระนาม รามคำแหง ในศิลาจารึกสุโขทัย หลักที่ 1 ในสมัยอยุธยามีการอ้างอิงตัวละครสำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ ได้แก่ พระราม พระลักษณ์ ทศกัณฐ์ สีดา ในบทนิราศหลายเรื่อง วรรณคดีเรื่องนี้ยังมีอิทธิพลในนิทาน ตำนานพื้นบ้าน และในวิถีชีวิตคนไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยที่จะค้นคว้าว่าเรื่องรามเกียรติ์มาจากวรรณคดีที่ใด และแพร่หลายเข้ามายังเมืองไทยได้อย่างไร พระองค์จึงทรงพระราชนิพนธ์หนังสือบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ขึ้นใน พ.ศ. 2456 โดยทรงศึกษารามายณะภาษาสันสกฤตของวาลมีกิ ฉบับอุตตรนิกาย และรามายณะภาษาฮินดีของตุลสิทาส และทรงเปรียบเทียบทั้งสองเล่มกับรามเกียรติ์ไทยให้เห็นความคล้ายคลึงและความแตกต่างกันในเนื้อเรื่องบางตอน ทรงตั้งข้อสังเกตว่าไม่ทรงพบเรื่องราวตอน สำคัญ ๆ เกี่ยวกับหนุมาน ทั้ง ๆ ที่เป็นตอนที่คนไทยนิยมนำมาใช้แสดงกันมาก ในที่สุด พระองค์ทรงสรุปว่าบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ไทยมี 3 แหล่ง คือ (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, 2513 : 207 8)
- รามายณะฉบับสันสกฤต และน่าจะได้ใช้ฉบับองคนิกาย
เพราะข้าพเจ้าเข้าใจว่าพราหมณ์ที่มาเมืองเราจะได้มาจากแคว้นองคราษฎร์ (เบงกอล)
ทั้งมีข้อความที่พอจะเป็นพยานอ้างในข้อนี้ได้อย่างหนึ่ง
คือเรื่องพระกุศและพระลบจับม้าอุปการขี่ และพระรามออกไปจับกุมารทั้ง 2 นี้
มีอยู่ในฉบับองคนิกาย แต่ในฉบับอุตตรนิกาย (ซึ่งเป็นฉบับที่ข้าพเจ้ามีอยู่นั้น)
ไม่มีเรื่องนี้
- วิษณุปุราณะ น่าจะเป็นบ่อเกิดแห่งข้อความเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ
ซึ่งมีอยู่ในรามเกียรติ์ของเราเป็นอันมาก แต่โดยมากคงจะเป็นข้อความในตอนต้น ๆ
คือตอนกำเนิดต่าง ๆ และตอนทศกัณฐ์เยี่ยมพิภพ เป็นต้น
ข้อความเบ็ดเตล็ดอย่างเช่นข้อที่ว่า
ครั้งหนึ่งทศกัณฐ์ได้บังคับให้เทวดาตามมารับใช้ตน เป็นต้น
ได้ความว่ามาจากวิษณุปุราณะ
- หนุมานนาฏกะ น่าจะได้เป็นบ่อเกิดแห่งบรรดาข้อความ ที่กล่าวด้วยความ เก่งต่าง ๆ ของหนุมาน หนังสือหนุมานนาฏกะเป็นหนังสือที่ชาวอินเดียชอบกันมาก เพราะฉะนั้นถึงจะจำมาได้เป็นท่อนใหญ่ๆ ก็เป็นได้
หลังจากนั้น มีนักวิชาการศึกษาเรื่องรามเกียรติ์ต่อเติมจากงานวิจัยค้นคว้าของรัชกาลที่ 6 อีกหลายคน เช่น เสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน) ซึ่งรวบรวมงานค้นคว้าไว้ในหนังสือเรื่องอุปกรณ์รามเกียรติ์และประชุมเรื่องพระราม พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ทรงเขียนบทความเรื่องพระราม ในสมัยหลังมีผู้ค้นคว้าวิจัยเป็นงานวิทยานิพนธ์ และบทความวิชาการอีกจำนวนมาก เล่มสำคัญเล่มหนึ่งคือวิทยานิพนธ์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรามายณะของวาลมีกิและรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 1 ของสมพร สิงโต เพราะเป็นงานวิจัยที่อ้างอิงกันต่อมา