วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
ตามทฤษฎีเอกภพของไอน์สไตน์
สมมติฐานเอกภพบิกแบงของกามอฟ
พระเจ้าเท่านั้นหรือที่รู้ว่าเอกภพมีกำเนิดอย่างไร
วิทยาศาสตร์ได้ได้ก้าวเข้าสู่อาณาเขตของพระเจ้า
ปรากฏการณ์แปลกที่เกิดตอนเอกภพกำเนิด
เกิดเอกภพใหม่จากเอกภพเดิมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เอกภพแรกสุดเกิดมาจากปรากฏการณ์ลอดอุโมงค์
ศูนย์ ตามทฤษฎีของวิเลนเคน
ปรากฏการณ์แปลกที่เกิดตอนเอกภพกำเนิด
เมื่อการค้นคว้าเกี่ยวกับการรวมแรงได้พัฒนาไปอีก
เราก็รู้กันว่าตอนที่เอกภพกำเนิดนั้นไม่เพียงแต่ได้แยกตัวกันออกไปเท่านั้นแต่เอกภพจะเกิดการขยายใหญ่หรือ
อินเฟลชัน ขึ้นด้วย
นี่คือความรู้ใหม่ที่เราได้เกี่ยวกับกำเนิดของเอกภพจากการใช้ทฤษฎีของเอกภพของแรง
เมื่อเอกภพกำเนิดหลังจากที่แรงโน้มถ่วงได้แยกตัวออกจาก
แรงชนิดเดียว เมื่อเวลา 10 (ยกกำลัง 36)
วินาทีได้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะทำให้แรงนิวเคลียร์แบบแข็งแยกตัวออกมาอีก
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียง 10 (ยกกำลัง 34) วินาที ขนาดของเอกภพได้ขยายตัวใหญ่ออกถึง
100 หลัก ขอให้ระวังว่า 100 หลัก ไม่ใช่ 100 เท่า
1 ล้าน ยังเป็นแค่ 6 หลัก 1 ล้าน ล้านก็แค่ 12 หลัก เพราะฉะนั้น
100 หลักใหญ่มหาศาลขนาดไหนคงพอจะได้ความรู้สึก
และเราคงพอจะคาดเดาได้เองว่าถ้าปรากฏการณ์เหลือเชื่อเช่นนี้เกิดขึ้นมันย่อมมีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์อื่นที่เหลือเชื่อต่อไปอีกด้วย
เกิดรูหนอน ( WORM HOLE ) ขึ้นในเอกภพอินเฟลชัน
ได้กล่าวมาแล้วว่าการขยายใหญ่ (อินเฟลชัน) ในช่วงที่เอกภพเปลี่ยนสถานะ
แต่การเปลี่ยนสถานะคืออะไร เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำนี้
แต่ที่จริงไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่แปลกเท่าไร
ยกเว้นตัวอย่างเช่นการที่น้ำเดือดกลายเป็นไอน้ำก็คือการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวไปสู่ก๊าช
และน้ำแข็งก็คือการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวไปสู่ของแข็ง
ปรากฏการณ์คล้ายกันนี้ได้เกิดขึ้นกับเอกภพนั่นเอง
แล้วตอนที่เอกภพเปลี่ยนสถานะน่าจะเกิดอะไรขึ้นลองวาดภาพเปรียบเทียบกับกรณีที่น้ำเดือดกลายเป็นไอดูก็แล้วกัน
จะเห็นว่ามีฟองเกิดขึ้นที่โน่นที่นี่ นั่นก็คือเอกภพ (อวกาศ)
นั้นถูกทำให้โค้งอย่างรุนแรงไปทั่วทุกหนแห่ง
ทฤษฎีที่จะใช้กับเอกภพที่โค้งเช่นนี้ก็คือทฤษฎีสัมพัทธภาพ
เมื่อใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพคำนวณศึกษาดูพบว่าจะเกิดรูหนอนขึ้นระหว่างฟองอวกาศเหล่านั้น
ทำไมถึงเกิดขึ้น
ก็เพราะขณะที่ฟองขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้นช่องว่างระหว่างฟองอากาศจะถูกดันอัดด้วยผนังของฟองให้เล็กลงจนถึงที่สุด
ซึ่งตามทฤษฎีสัมพัทธภาพนั้นอวกาศที่ถูกอัดให้เล็กที่สุดนั้นจะกลายเป็น รูหนอน
(ซึ่งเมื่อมองจากข้างนอกจะเหมือนกับหลุมดำ)
และอย่าลืมว่าอวกาศที่เปลี่ยนสถานะนี้กำลังเกิดอินเฟลชันอยู่
ซึ่งจะต้องมีพลังมหาศาล
และเมื่อเกิดเป็นรูหนอนพลังงานอันมหาศาลในตัวมันจะผันแปรไปอย่างไร
เกิดอวกาศลูกจากอวกาศแม่
เมื่อครู่ที่ได้บอกว่ารูหนอนเกิดขึ้นในอวกาศที่ถูกอัดระหว่างฟองอากาศ
ถ้าจะพูดให้ถูกต้องยิ่งขึ้นต้องบอกว่าได้เกิดขอบฟ้าของเหตุการณ์ขึ้น
เมื่อมองจากอวกาศด้านที่เกิดอินเฟลชันก็จะเห็นเป็นรูหนอนนั้นเอง
ถ้าเช่นนั้นมาลองคิดกันดูว่าด้านในของขอบฟ้าของเหตุการณ์เป็นอย่างไร
เราจะพบกับความจริงที่คาดไม่ถึงเมื่อเข้าไปข้างใน
แต่ถ้าข้างในรูหลุมร้อนจริงจะกลับออกมาไม่ได้ (แต่ทางทฤษฎีเราย่อมคิดได้เสมอ)
ทางเข้าจะแคบมากเพราะถูกอัดด้วยฟองอากาศรอบข้าง
แต่เมื่อผ่านทางเข้าไปสู่ข้างในมันจะกลายเป็นที่กว้างใหญ่
แม้จะถูกอัดด้วยพลังที่สูงมาก
แต่เนื่องจากอวกาศส่วนที่เกิดขอบฟ้าของเหตุการณ์นั้นก็มีพลังสูงมาก
อวกาศส่วนที่อยู่ข้างในของขอบฟ้าของเหตุการณ์ก็จะเกิด การขยายตัวใหญ่ (อินเฟลชัน)
เช่นกัน จึงเกิดเป็นอวกาศที่ใหญ่ไพศาลขึ้น
อาจคิดได้ว่ารูหนอนเป็นอุโมงค์ที่ต่อเชื่อมระหว่างจุดสองจุดในเอกภพหรือเชื่อมระหว่างอวกาศหนึ่งกับอีกอวกาศหนึ่ง
แต่ที่บอกว่าเชื่อมนั้นจะต่างจากความหมายทั่วไป
เพราะระหว่างนั้นจะถูกกั้นด้วยขอบฟ้าของเหตุการณ์
ทั้งสองส่วนจะไม่เกี่ยวข้องกันได้เลย
นั่นก็คืออวกาศอีกอันที่อยู่ฟากโน้นจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับอวกาศฟากนี้ของเราได้เลย
นั่นก็คือเราอาจสรุปง่ายๆ ได้ว่าถ้าเราให้อวกาศที่เกิดการเปลี่ยนสถานะเป็น อวกาศแม่
(Mother Universe) อวกาศใหม่ที่เกิดนี้จะเรียกว่าเป็นอวกาศลูก (Child Universe)