ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
จังหวัดชายแดนภาคใต้สมัยอยุธยา
ปัตตานีกับสยามมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน โดยเฉพาะชาวสยามนั้นได้ตั้งถิ่นฐาน แถบปัตตานีมาก่อนที่อาณาจักรสยามจะเกิดขึ้นในสมัยสุโขทัย ต่อมาในปี พ.ศ. 1885 กษัตริย์ละโว้ อโยธยาได้ส่งพระพนมวัง-นางสะเดียงทองลงมาปกครองเมืองนครศรีธรรมราช พระพนมวังได้สร้างเมืองนครดอนพระ (แถบอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ขึ้นเป็นศูนย์กลางการปกครอง ต่อจากนั้นในปี พ.ศ. 1887 พระพนมวังได้แต่งตั้งให่พระฤทธิเทวา (เจสุตตรา) ออกไปปกครองเมืองปัตตานี ซึ่งในสมัยนั้นยังเรียกว่าเมืองโกตามหลิฆัยของอาณาจักร ลังกาสุกะ
ในระหว่างปี พ.ศ. 1890 1893 พระฤทธิเทวาได้นำชาวเมืองโกตามหลิฆัยไปช่วย พระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1) สร้างพระนคศรีอยุธยาด้วย นอกจากนั้นยังปรากฏหลักฐาน ในเวลาต่อมาว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1913-1931 ทรงมีพระสนม คนหนึ่งเป็นธิดาของมุขมนตรีปัตตานี นอกจากนั้นกรงศรีอยุธยาและปัตตานียังได้ร่วมกันต่อต้าน การขยายอำนาจของมะละกาในคาบสมุทรมลายู ในครึ่งหลังช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 พ่อค้าต่างประเทศ หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา เนื่องจากหวั่นกลัวโจรสลัดจึงหันมาใช้เส้นทาง การค้าผ่านปัตตานี ปัตตานีจึงเจริญขึ้นเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าต่างประเทศแหล่งสำคัญ ในเวลาเดียวกันกรุงศรีอยุธยาก็เป็นศูนย์กลางการค้าต่างประเทศที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งด้วย
พระฤทธิเทวาครองเมืองโกตามหลิฆัยอยู่จนถึงปีพ.ศ. 1927 ก็สิ้นพระชนม์
กษัตริย์องค์ต่อมา ไม่ปรากฏพระนามชัดเจน แต่ระบุว่าเป็นสมเด็จพระอัยกาของพญาอินทิรา
ครองราชย์อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 1927-1967 เป็นเวลา 40 ปี
พระโอรสของพระองค์มีพระนามว่าพญากูรุปมหาจันทราได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อมาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 1967 ถึงปี พ.ศ. 2012 รวมเป็นเวลา 45 ปี หลังจากนั้นพญาอินทิรา
โอรสของพระองค์ได้เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองโกตามหลิฆัยเป็นองค์สุดท้าย
ระหว่างปีพ.ศ.2012-2057 รวมเป็นเวลา 45 ปี (อนันต์ วัฒนานิกร, 2531 : 35)
ระหว่างนั้นพระองค์ได้สร้างราชธานีแห่งใหม่ มีภูมิประเทศเหมาะสมกว่า
และเป็นเมืองท่าที่สำคัญในสมัยนั้น เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า ปตานี (Patani)
ซึ่งฝ่ายไทยเรียกว่า เมืองตานี หรือ ปัตตานี ในเวลาต่อมา
สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย สยามถือว่าปัตตานีเป็นเมืองประเทศราช
หรือประเทศรัฐ บรรณาการของสยาม ปัตตานีได้ส่งดอกไม้เงินดอกไม้ทอง (บุหงามัส) 3
ปีต่อครั้ง แต่ในช่วงที่
อาณาจักรมะละกาขยายอำนาจขึ้นมาตอนบนของคาบสมุทรมลายูในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 21
ปัตตานีได้ตกเป็นเมืองขึ้นของมะละกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2003 เป็นต้น มาจนกระทั่งปี พ.ศ.
2054 โปรตุเกสได้เข้าปกครองเมืองมะละกาทำให้ปัตตานีกลับมาเป็นอิสระ
แต่ในที่สุดปัตตานีก็ตกอยู่ใน อำนาจของสยามอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งในระยะนั้นตรงกับสมัยอยุธยา