วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>

นิติเวชศาสตร์

การชันสูตรพลิกศพ

ในกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของไทย ยังแยกการชันสูตรพลิกศพกับการผ่าศพออกจากกัน คือจะทำการผ่าศพต่อเมื่อเจ้าพนักงานผู้ชันสูตรเห็นควรส่งศพหรือชิ้นส่วนของศพให้แพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐทำการตรวจพิสูจน์ ทั้งๆที่วิชานิติเวชศาสตร์ในปัจจุบันถือว่าการชันสูตรพลิกศพแต่เพียงอย่างเดียวมักไม่เพียงพอ การตรวจศพ ณ สถานที่เกิดเหตุและการตรวจสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียด จะเป็นการรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่ช่วยประกอบในการพิจารณาพฤติการณ์แห่งการตาย และนับเป็นกระบวนแรกที่จะช่วยสนับสนุนให้การผ่าศพ สามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆจากศพได้อย่างเหมาะสมดังคำว่า "การผ่าศพทางนิติพยาธิเริ่มตั้งแต่ที่เกิดเหตุ”

ระบบการชันสูตรพลิกศพ

คือวิธีหรือแบบแผนในการจัดการกับศพภายหลังตายแล้ว โดยแต่ละประเทศต่างกำหนดวิธีการและรูปแบบไว้ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ลักษณะของระบบกฎหมาย ประเพณี งบประมาณ กำลังพลของหน่วยงาน และการยอมรับของประชาชน นอกจากนั้นในแต่ละประเทศ ยังอาจมีระบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ด้วย โดยปกติการชันสูตรพลิกศพจะมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ที่สำคัญและขาดไม่ได้คือ แพทย์และพนักงานตำรวจ โดยตำรวจจะมีหน้าที่สืบสวนและสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแรงจูงใจหรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการฆาตกรรม ส่วนแพทย์จะทำหน้าที่ตรวจศพ เพื่อหาเหตุตาย ลักษณะการเสียชีวิต ความเป็นไปได้ในสภาพที่เกิดขึ้นว่าบาดแผลมีแนวโน้มว่าจะมีพฤติการณ์ในการเกิดอย่างไร ฉะนั้นแพทย์และพนักงานสืบสวนสอบสวนจะต้องมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ติดต่อประสานกันตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการฆาตกรรมที่สะเทือนขวัญประชาชน หรือมีพฤติการณ์ที่ซับซ้อน ทั้งแพทย์และตำรวจมีบทบาทสำคัญยิ่งไม่ว่าระบบการชันสูตรพลิกศพจะเป็นระบบใด

1. ระบบศาล Coroner System – Procurator fiscal

คือการที่รัฐกำหนดบุคคลขึ้นเป็นประธานทำการสอบสวนสาเหตุการตายเมื่อมีการตายเกิดขึ้นและแต่ละประเทศก็กำหนดบุคคลไว้แตกต่างกัน เช่น ประเทศอังกฤษ, ฮ่องกง (ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง) โดยกำหนดให้ประธานศาลโคโรเนอร์เป็นนักกฎหมายหรือแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ เพื่อทำหน้าที่สอบสวนการตาย ประธานจะจ้างแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนไว้ทำหน้าที่ผ่าศพที่เรียกว่า Home Office Pathologist เพื่อหาสาเหตุการตาย ซึ่งแพทย์ที่ถูกว่าจ้างก็จะรายงานผลการตรวจศพให้ประธาน

  • ในประเทศคานาดา กำหนดให้โคโรเนอร์เป็นแพทย์ และจ้างนิติพยาธิแพทย์มาตรวจศพ
  • ในประเทศศรีลังกาและสิงคโปร์ กำหนดให้โคโรเนอร์เป็นนักกฎหมาย ส่วนแพทย์นั้นจ้างจากอาจารย์แพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ในมหาวิทยาลัย
  • บางรัฐ (29รัฐ) ในอเมริกา กำหนดให้มีโคโรเนอร์โดยมาจากการเลือกตั้งและ ไม่กำหนดคุณสมบัติ (ในขณะที่บางรัฐกำหนดให้เป็นแพทย์)
  • เมืองใหญ่บางเมืองในอินเดีย ก็ใช้ระบบโคโรเนอร์ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นใคร แต่บางเมืองยังเป็นการดำเนินการของตำรวจ อย่างที่เรียกว่าระบบตำรวจ เช่นกัน
  • เยอรมัน กำหนดให้ศาลทำหน้าที่เป็นโคโรเนอร์เอง จ้างแพทย์ให้ทำการตรวจศพ
  • อิตาลี กำหนดให้ศาลทำหน้าที่เป็นโคโรเนอร์ และใช้แพทย์ในมหาวิทยาลัยทำการตรวจศพ
  • กรีซ มีสำนักงานนิติเวชขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม จ้างแพทย์ทำหน้าที่ตรวจศพ

Procurator – Fiscal เป็นระบบที่ใช้ในสก๊อตแลนด์คล้ายกับโคโรเนอร์ คือ ผู้เป็นประธานเป็นนักกฎหมายที่แต่งตั้งโดยอัยการ

 

2. ระบบแพทย์สอบสวน Medical Examiner

เป็นระบบที่เริ่มต้นในประเทศสหรัฐอเมริกา (เฉพาะรัฐใหญ่ๆที่มีประชากรมาก เช่นในนิวยอร์ค มิชิแกน ฯลฯ) โดยให้หัวหน้าหน่วยงานเป็นแพทย์ผู้ทำการตรวจศพ มีเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับการตาย เพื่อประกอบรายงานการตรวจศพของแพทย์ และแพทย์มีอำนาจในการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้การ เพื่อตรวจสอบประกอบการตรวจศพด้วย แพทย์ที่เป็นหัวหน้า หรือ Chief Medical Examiner จะแต่งตั้งโดยผู้ว่าการรัฐ หรือในบางรัฐขึ้นกับคณะกรรมการนิติเวชของรัฐอีกทีหนึ่ง แต่ไม่ต้องหมดวาระตามผู้ว่า ในขณะที่ ผู้ว่าคนใหม่สามารถจะตั้งหัวหน้าแพทย์สอบสวนคนใหม่ได้เช่นกันในบางรัฐ ใช้วิธีการเดียวกับระบบโคโรเนอร์ และในบางรัฐใช้นายอำเภอเป็นโคโรเนอร์ด้วยซ้ำไป อย่างไร ก็ตาม การสืบสวนสอบสวนรายละเอียดของการตายในทุกระบบ ก็ยังคงต้องใช้ตำรวจเป็น เจ้าพนักงาน

3. ระบบผสมผสาน

ผู้มีอำนาจตัดสินใจให้มีการผ่าศพเพื่อชันสูตรอาจเป็นแพทย์ ศาล อัยการ หรือตำรวจ เช่น ที่ใช้ในประเทศโซเวียต ญี่ปุนและแอฟริกาใต้ คือในท้องถิ่นเดียวกัน ถ้าการตายเกิดจากการก่อคดีอาญาจะใช้ศาลประจำเขตเป็นผู้สั่งการด้านการตรวจศพ แต่ถ้าเป็นการตายผิดธรรมชาติอื่นๆใช้ระบบแพทย์สอบสวนหรือโคโรเนอร์คนอื่น

4. ระบบตำรวจ Police System

ใช้ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย จีน ฟิลิปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย คือการใช้ตำรวจเป็นผู้ชันสูตรร่วมกับแพทย์ โดยตำรวจเป็นผู้ดำเนินการประสานผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ร่วมทำการชันสูตร และตามระเบียบกรมตำรวจ(เดิม)ของไทย ยังมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นธุระในการนำศพไปยังสถานที่ทำการผ่าศพและจัดการนำศพไปฝังกรณีที่ไม่มีญาติมารับศพอีกด้วย นอกจากนี้ต้องเป็นผู้สรุปเหตุตายตามรายงานการตรวจศพของแพทย์

บทบาทของนิติเวชศาสตร์ต่อกระบวนการยุติธรรม
การชันสูตรพลิกศพ
การชันสูตรและผ่าศพในประเทศไทย
การผ่าศพทางนิติเวชศาสตร์
การพิสูจน์หลักฐาน
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรพลิกศพ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ
บรรณานุกรม

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย