ประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>

ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกาเหนือ

ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นภูมิหลังของประเทศสหรัฐอเมริกา สรุปได้ดังนี้

  • แหล่งอารยธรรมของชนเผ่าอินเดียนแดงในสมัยโบราณ แต่เดิมก่อนที่ชนชาติยุโรปจะรู้จักทวีปอเมริกาเหนือ ดินแดนในประเทศเม็กซิโกเคยเป็นถิ่นฐานที่อยู่ของพวกอินเดียนแดงเผ่าแอซแตก (Aztecs) มาก่อน
  • การสำรวจและตั้งถิ่นฐาน เมื่อโคลัมบัส (Christopher Columbus) นักสำรวจทางทะเลชาวอิตาลี ได้ค้นพบ “โลกใหม่” หรือทวีปอเมริกา ในปี ค.ศ. 1492 สเปนเป็นประเทศยุโรปชาติแรกที่เข้ามาสำรวจดินแดนทวีปใหม่แห่งนี้ ต่อมาได้ส่งกำลังเข้ายึดครองกรุงเม็กซิโก นครหลวงของจักรวรรดิแอซแตก ทำให้ชาติยุโรปอื่นๆ ให้ความสนใจเข้ามาจับจองดินแดนต่างๆ เป็นอาณานิคมของตนเช่นกัน
  • การอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชนชาวยุโรป นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา มีชาวยุโรปหลายเชื้อชาติอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตน เช่น ต้องการจับจองที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ แสวงหาความมั่งคั่งจากทรัพยากรธรรมชาติ และต้องการสิทธิและเสรีภาพ ทั้งในด้านการเมืองและการนับถือศาสนา
  • การปฏิวัติของชาวอเมริกัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ชาวอังกฤษได้ตั้งถิ่นฐานเป็นอาณานิคมตามบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างมั่นคง แต่รัฐบาลอังกฤษปกครองอาณานิคมอย่างเอาเปรียบ เช่น บังคับให้ต้องจ่ายภาษี ทำให้ชาวอาณานิคมเรียกร้องขอให้มีผู้แทนของตนในรัฐสภาอังกฤษ แต่รัฐบาลอังกฤษกลับไม่ยินยอมและได้ออกกฎหมายบีบคั้นชาวอาณานิคมอีกหลายฉบับ

    ในที่สุด ชาวอาณานิคมจึงทำสงครามประกาศเอกราชจากอังกฤษ เรียกว่า “การปฏิวัติของชาวอเมริกัน” (ค.ศ. 1776-1781) เมื่อได้รับชัยชนะจึงประกาศเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา
  • รูปแบบการปกครองของสหรัฐอเมริกาภายหลังได้รับเอกราช เป็นการปกครองแบบสหพันธ์สาธารณรัฐ (Federal Republic) ประกอบด้วยมลรัฐ 13 มลรัฐมารวมกัน มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ มีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 1791 เป็นต้นไป

     
  • การดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาในระยะเริ่มแรก คือ แยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของยุโรป ต่อมาในปี ค.ศ. 1823 ได้ประกาศ “หลักการมอนโร” (Monroe Doctrin) โดยห้ามมิให้ประเทศในยุโรปเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ ในทวีปอเมริกา
  • สงครามกลางเมือง (ค.ศ. 1861-1865) เป็นสงครามระหว่างมลรัฐฝ่ายเหนือกับมลรัฐฝ่ายใต้ โดยมีสาเหตุเกิดจากการประกาศเลิกทาสของรัฐบาลประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ซึ่งชาวอเมริกันทางใต้ไม่เห็นด้วย เพราะจำเป็นต้องใช้แรงงานทาสในไร่ฝ้ายและยาสูบ สมรภูมิของสงครามเกิดในมลรัฐทางใต้และสิ้นสุดลงด้วยความปราชัยของชาวอเมริกันทางใต้ เป็นผลให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในปี ค.ศ. 1865 ให้เลิกทาสทั่วประเทศ รวมทั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของภาคใต้ จากเดิมที่เคยทำไร่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ต้องเปลี่ยนมาทำฟาร์มขนาดเล็กแทน
  • การบุกเบิกดินแดนตะวันตก ภายหลังสิ้นสุดสงครามกลางเมือง สหรัฐอเมริกาเริ่มพัฒนาความเจริญและขยายการผลิตของประเทศ ทั้งในด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มีการบุกเบิกพื้นที่ใหม่ๆ ไปยังดินแดนตะวันตกของทวีป โดยเฉพาะบริเวณที่ราบเกรตเพลน (Great Plain) ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุและป่าไม้
  • สหรัฐอเมริกาก้าวสู่ความเป็นชาติมหาอำนาจ ในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ขยายตลาดการค้าไปทั่วโลก และพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สหรัฐฯ จึงเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในยุโรป มีบทบาทในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจการค้าของคนอเมริกัน และกลายเป็นชาติมหาอำนาจของโลกในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา

บทบาทของสหรัฐอเมริกาในสงครามโลก ครั้งที่ 1 และสงครามโลก ครั้งที่ 2

สงครามโลก ครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-1918) สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1917 และมีบทบาทช่วยให้สงครามยุติลงโดยเร็ว เมื่อประธานาธิบดี วูดโร วิลสัน (Woodrow Wilson) ได้ประกาศนโยบาย 14 ข้อ เป็นหลักในการยุติสงคราม และเสนอให้จัดตั้ง “องค์การสันนิบาตชาติ” เพื่อรักษาสันติภาพของโลก

สงครามโลก ครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1936-1945) สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1941 เพื่อช่วยเหลือประเทศพันธมิตรต่อต้านลัทธิเผด็จการทางทหารของเยอรมนีและญี่ปุ่น เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง “องค์การสหประชาชาติ” (UN) เพื่อรักษาสันติภาพของโลก ในช่วงตอนปลายของสงคราม สหรัฐฯ ได้ใช้ระเบิดปรมาณูทำให้ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายปราชัย และสงครามโลก ครั้งที่ 2 จึงยุติลงในที่สุด

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย