ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ทฤษฎีวิวัฒนการโลกตามหลักพุทธศาสนา
การถูกพระเจ้าลงโทษ
ศาสนาคริสต์ถือว่า มนุษย์และสรรพสิ่งในโลก เป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอำนาจ
สร้างขึ้นมาจากความว่างเปล่า มนุษย์และสรรพสิ่งในโลกหาได้มีความยิ่งใหญ่
และมีความสมบูรณ์ดุจพระผู้เป็นเจ้าไม่ ส่วนโลกและสรรพสิ่งในโลกนั้น
มีความจำกัดต้องอาศัยอำนาจของพระผู้สร้าง จึงเกิดมีขึ้นได้ และดำรงอยู่ได้ในโลก
จึงหาได้เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ตลอดกาล อย่างพระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างไม่
โลกจึงมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และสูญสิ้นไป ลักษณะของความไม่สมบูรณ์ต่าง ๆของโลก
ที่เป็นสภาพที่ไม่น่าพึงปรารถนาจึงเป็นสภาพที่จำเป็น
และเป็นสภาพพื้นฐานที่โลกและสรรพสิ่งในโลกไม่อาจสละทิ้งได้
หรือกล่าวได้ว่าเป็นความชั่วร้ายอันเนื่องมาจากสภาพที่เป็นสิ่งที่ถูกสร้าง
ซึ่งไม่ได้เกิดจากน้ำมือของมนุษย์โดยตรง เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
โรคระบาด ลมพายุ การพิการของร่างกาย เป็นต้น ศาสนาคริสต์สอนว่า ความเลวร้ายต่าง ๆ
เกิดมีขึ้นได้ก็เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษมนุษย์ เพราะมนุษย์ทำบาปและทรยศ
ต่อพระองค์ ไม่เชื่อฟังพระองค์ ประพฤติเลวร้าย
ปราศจากความรักและความศรัทธาต่อพระองค์ ไม่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์
จึงทำโทษมนุษย์ให้เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวไว้แต่เบื้องต้น
และพระเจ้ายังทำการลงโทษอย่างอื่นอีก
ดังแสดงไว้ในคัมภีร์พระคริสต์ ที่กล่าวยืนยัน
ความหมายของความชั่วร้ายตามธรรมชาติ เช่น เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงทราบว่าเอวาทำบาป
พระองค์ครัสกับเอวาว่า “เราจะเพิ่มความทุกข์ลำบากขึ้นมากมาย
ในเมื่อเจ้ามีครรภ์และคลอดบุตร ” แล้วพระองค์ทรงสาปหญิงนั้นว่า
“ให้กายาลำบากยากใจพรั่น ในเวลาที่เจ้านี้จักมีครรภ์ เจ็บปวดสั่นยามคลอดตลอดกาย..”
ทรงลงโทษให้ผู้หญิงมีความทุกข์ ความเจ็บปวดเวลาคลอดบุตร
และเป็นธรรมชาติที่สัตรีหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้ไม่ต้องการจะมีความทุกข์และความเจ็บปวดเช่นนั้น
และถ้าท่านทำความชั่วละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะนำความพินาศมาสู่ท่าน
ท่านจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายไม่ว่าท่านจะทำอะไร
จนกระทั่งถูกทำลายไปหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว
พระองค์จะให้ท่านเป็นโรคร้ายจนกระทั่งไม่มีใครเหลืออยู่เลยในแผ่นดินที่ท่านจะเข้าไปยึดครองนั้น
พระผู้เป็นเจ้าจะทรงลงโทษท่านด้วย โรคติดต่อ ด้วยการอักเสบและไข้
พระองค์จะให้เกิดความแห้งแล้ง แมลงทำลายและเกิดโรคเชื้อราทำลายพืชของท่าน
ความพินาศเหล่านี้จะเกิดกับพวกท่าน จนกระทั่งพวกท่านล้มตายไป จะไม่มีฝน
พื้นดินจะแห้งแข็งประดุจเหล็ก
พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งพายุฝุ่นทรายมาแทนฝนจนกระทั่งพวกท่านถูกทำลายจนหมดสิ้น…พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันดาลให้ท่านเป็นผีดังที่ให้เกิดแก่ชาวอียิปต์
ตามตัวของพวกท่านจะมีแผลตกสะเก็ดและคันรักษาเท่าใดก็ไม่หาย…(เฉลยธรรมบัญญัติ
28/20–24,27–28).
ฉะนั้นจึงเป็นการสรุปให้เห็นได้ว่า พุทธศาสนา สอนให้มองไปหาเหตุที่เกิด
และสุดท้ายมีผลแปรเปลี่ยนไปอย่างไร ตามความเป็นจริง ตามธรรมชาติ
ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อเปรียบเทียบกับศาสนาคริสต์
สอนว่าทุกสรรพสิ่งเป็นไปตามอำนาจความพอใจหรือน้ำพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า
โดยทำความเข้าใจได้ว่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งมวล และทำลายด้วย
เป็นต้น
เปรียบเทียบระหว่างศาสนา
คริสต์ศาสนาสอนอย่างไร
การถูกพระเจ้าลงโทษ
สาระสำคัญของอัคคัญญสูตร
วิวัฒนาการคืออะไร
อัคคัญญสูตร
กำเนิดมนุษย์
เหตุแห่งการดูหมิ่น
ข้าวสารีเกิดขึ้น
เกิดเพศหญิงและเพศชาย
เกิดผู้นำในการปกครอง
เบื้องหน้าแห่งความตาย
กำเนิดโลกและความเสื่อม
อายุของโลก
สรุปเนื้อหาในอัคคัญญสูตร
การไปอุบัติในนรกและสวรรค์
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
จักรวัตติสูตร
สาเหตุแห่งความเสื่อมของโลก
เหตุแห่งความเจริญของโลก
ความเจริญของอายุมนุษย์
ภิกษุควรมีธรรมเป็นที่พึ่งอย่างไร
ความเสื่อมของอายุสัตว์
สาระสำคัญ