เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้าวโพด

การเก็บเกี่ยวข้าวโพด

การเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ปลูกเพื่อขายเป็นเมล็ด ควรเก็บเกี่ยวเมื่อข้าวโพดแก่จัด ถ้าเก็บเกี่ยวเร็วไปผลผลิตจะต่ำและคุณภาพของเมล็ดไม่ดี เนื่องจากความชื้นในเมล็ดสูงทำให้เมล็ดถูกทำลายโดยโรคได้ง่าย ข้าวโพดที่ใช้ปลูกในประเทศไทยมีอายุตั้งแต่ 90-120 วัน ขึ้นกับพันธุ์ จึงควรเก็บเกี่ยวเมื่อครบอายุแก่จัดของพันธุ์ หรือสังเกตระยะที่กาบหุ้มฝักแห้งเป็นสีฟาง ถ้าเป็นไปได้ควรปล่อยให้เมล็ดแห้งในแปลงให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงค่อยเก็บเกี่ยว ซึ่งจะทุ่นเวลาในการตาก ความชื้นในเมล็ดที่ฝักขณะเก็บเกี่ยวโดยทั่วไปยังสูงเกินไป จึงควรนำมาตากแดด 2-3 วันแล้วจึงค่อยกะเทาะเมล็ดในกรณีที่กะเทาะเอง ในบางท้องที่พ่อค้าจะไปรับซื้อและกะเทาะเมล็ดในไร่ข้าวโพด ภายหลังจากกะเทาะเมล็ดแล้วควรตากเมล็ดให้มีความชื้นไม่เกิน 14 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ เพื่อสามารถเก็บเมล็ดไว้ได้นานโดยที่ปลอดจากการทำลายของโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดสารพิษอะฟลาท็อกซิน

ในบางกรณีจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวข้าวโพดเร็วกว่ากำหนด เช่น ต้นหักล้มมาก หรือมีฝนตกหนัก ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เสียหายจากหนูกินและเมล็ดงอกคาฝักได้ หลักทั่วไปในการพิจารณาวันเก็บเกี่ยวในกรณีนี้ก็คือเก็บเกี่ยวเมื่อข้าวโพดเจริญถึงระยะแก่ทางสรีรวิทยา ระยะนี้ตรวจสอบได้โดยแกะเมล็ดจากฝักมาดู ถ้าที่ฐานเมล็ดส่วนติดกับซังมีสีดำแสดงว่าเมล็ดเจริญถึงระยะนี้แล้ว ที่ระยะนี้น้ำหนักแห้งของเมล็ดถึงระดับสูงสุดแล้ว การปล่อยข้าวโพดไว้ในแปลงหลังจากระยะนี้จะไม่ทำให้น้ำหนักเมล็ดเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงแต่ความชื้นในเมล็ดลดลง ความชื้นในเมล็ดที่ระยะนี้ยังสูงมากคือประมาณ 35-40 เปอร์เซ็นต์

การเก็บรักษา

โดยทั่วไปกสิกรมักเก็บข้าวโพดไว้ระยะเวลาหนึ่งก่อนขาย การเก็บรักษาข้าวโพดมีทั้งในรูปเมล็ดที่กะเทาะแล้ว ฝักที่ฉีกกาบหุ้มฝักทิ้งแล้ว และฝักที่มีกาบหุ้มอยู่ แต่ไม่ว่าเก็บรักษาโดยวิธีใด ความชื้นของเมล็ดไม่ควรเกิน 14 เปอร์เซ็นต์ เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาสารพิษอะฟลาท็อกซิน การเก็บรักษาข้าวโพดในรูปฝักจะดีกว่าเก็บในรูปเมล็ดที่กะเทาะแล้ว



เมล็ดที่กะเทาะแล้ว สามารถเก็บไว้ในถุงหรือกระสอบในโรงเก็บ โดยวางซ้อนกันในลักษณะที่อากาศถ่ายเทได้ และกระสอบที่อยู่ชั้นล่างไม่ควรวางบนพื้นคอนกรีตโดยตรง ควรใช้ไม้วางบนพื้นคอนกรีตก่อนจะวางกระสอบเมล็ดข้าวโพด แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษาเมล็ดที่กะเทาะแล้ว คือการเก็บไว้ในไซโลซึ่งมีเครื่องเป่าอากาศและสามารถรมยาได้

ฝักข้าวโพดที่ฉีกกาบหุ้มออกแล้ว ควรเก็บไว้ในโรงเรือนที่อากาศถ่ายเทได้ โรงเรือนอาจเป็นแบบง่าย ๆ ทำด้วยไม้หรือแฝกและยกพื้นให้สูงจากพื้นดิน สำหรับฝักที่ยังคงมีกาบหุ้มอยู่อาจเก็บโดยมัดฝักเข้าด้วยกัน แล้วแขวนเป็นแถวบนราวไม้หรือลวดในโรงเรือนที่อากาศถ่ายเทได้ หรือในส่วนของบ้านเช่น ในครัวหรือใต้ถุนบ้าน สำหรับเมล็ดที่จะเก็บเป็นเมล็ดพันธุ์ควรคลุกด้วยมาลาไธออนหรือเซวินเพื่อกันแมลง และออร์โธไซค์ หรือซีรีแซน หรือแคบแตน เพื่อกันรา ในการเก็บเมล็ดทำพันธุ์นั้นต้องรำลึกเสมอว่า สามารถทำได้เฉพาะในกรณีพันธุ์ประเภทผสมเปิดเท่านั้น ส่วนพันธุ์ประเภทลูกผสมเก็บเมล็ดทำพันธุ์เองไม่ได้ต้องซื้อเมล็ดใหม่เสมอ

การใช้ประโยชน์

1. ใช้เป็นอาหารสัตว์ เนื่องจากเมล็ดข้าวโพดมีแป้งเป็นองค์ประกอบหลัก และมีโปรตีนอยู่ด้วย จึงสามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพดีและราคาถูกด้วย 72 เปอร์เซ็นต์ ของเมล็ดข้าวโพดที่ผลิตได้ถูกใช้ในการผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์

นอกจากใช้เมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว ในบางประเทศแถบทวีปยุโรปปลูกข้าวโพดแล้วจะตัดต้น ทำเป็น silage สำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการปลูกข้าวโพดเพื่อทำ silage นี้แนะนำให้ปลูกในอัตราปลูกและการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในอัตราที่สูงกว่าการปลูกข้าวโพดเพื่อหวังเอาเมล็ด

2. ใช้เป็นอาหารมนุษย์ เมล็ดข้าวโพดสามารถใช้เป็นอาหารของมนุษย์ได้ มีประชากรในหลายประเทศที่นำเมล็ดข้าวโพดมาทำเป็นอาหารรับประทาน โดยตรงเหมือนกับที่เรารับประทานข้าว เช่น ทำขนมปัง โรตี เช่น ประเทศต่าง ๆ ในอเมริกาใต้ เม็กซิโก สเปน อิตาลี ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียเป็นต้น

3. ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมแป้ง น้ำมัน น้ำตาล น้ำเชื่อม น้ำส้ม อาหารกระป๋อง และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น แอลกอฮอล์ พลาสติก เครื่องเคลือบ พรมน้ำมัน สารเหนียว กระดาษ และเสื้อผ้า เป็นต้น ในปัจจุบันการผลิตน้ำเชื่อมจากข้าวโพดที่เรียกกันว่า high fructose corn syrup ได้ถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหาร และเครื่องดื่มอย่างกว้างขวาง

ระยะการเจริญเติบโตและการพัฒนา
พันธุ์ข้าวโพด
ฤดูปลูก
การเตรียมดิน
วิธีการปลูก
การปราบวัชพืช
การใส่ปุ๋ย
โรค
การเก็บเกี่ยว

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย