เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช
ประสิทธิภาพของวัสดุบรรจุภัณฑ์
สำหรับการเก็บรักษาในปริมาณน้อย สามารถจะเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ แทนหรือเสริมกับโรงเก็บ ประสิทธิภาพของบรรจุภัณฑ์ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ ซึ่งได้แก่
- ป้องกันความชื้น คือไอของความชื้นจะไม่สามารถผ่านได้เลย เช่น กระป๋องดีบุก
อลูมิเนียม ขวดแก้ว พลาสติกแข็ง ถุงพลาสติกความหนา 7 มม.ขึ้นไป
ซึ่งจะต้องมีการเชื่อมปิดสนิทโดยความร้อน หรือมีปะเก็นปิดเสริมที่ฝา
- ต้านทานความชื้น คือไอความชื้นสามารถซึมผ่านได้ในระยะยาว เช่น พลาสติกบาง
ถุงพลาสติกสานที่มีเยื่อพลาสติกบุซ้อนภายใน
รวมทั้งถุงพลาสติกชนิดหนาที่ใช้การเย็บปิดปากถุง ขวดแก้วและกระป๋องกดปิดด้านบน
ซึ่งไม่มีปะเก็นเสริมที่ฝา
- อากาศผ่านได้ เช่น ถุงผ้า ถุงกระดาษ และกระสอบพลาสติกสาน
เมล็ดพันธุ์ที่บรรจุในภาชนะปิดผนึกหรือปิดสนิท (หมายถึงที่ทำจากวัสดุตามข้อ 1)
ตัวอย่างเช่น พืชผักขนาดเล็กหรือไม้ดอกที่บรรจุในกระป๋องปิดผนึก
จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศภายนอก น้อยมาก
แต่ที่สำคัญคือจะต้องลดความชื้นเมล็ดให้ต่ำกว่าการเก็บธรรมดา 2-3%
หรือรักษาระดับไว้ที่ 5-8%
ซึ่งความชื้นที่ระดับนี้จะเป็นตัวกำหนดความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศภายในภาชนะปิดที่จุดสมดุล
ประมาณ 30-35% จึงจะทำให้เมล็ดมีอายุยาวนานมากกว่า 4 ปีขึ้นไป (ตารางที่ 1,2)
ทั้งนี้เนื่อง
จากการนำเมล็ดที่มีความชื้นสูงบรรจุในภาชนะปิดเมล็ดจะหายใจและเปลี่ยนแปลงสภาพที่ใช้เก็บรักษา
มีเชื้อรา ทำให้เมล็ดเสื่อมและตายเร็วกว่าการบรรจุในภาชนะที่ยอมให้อากาศผ่าน
บรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก วัสดุตามข้อ 2
ก็จะต้องลดความชื้นขณะเริ่มบรรจุให้อยู่ในระดับเดียวกับภาชนะปิดสนิทด้วย
ส่วนการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์หลัก
ก็ใช้หลักการลดความชื้นเมล็ดพันธ์ให้อยู่ในระดับที่เก็บรักษาไว้ได้ 3-5 ปี
แล้วจึงเลือกวิธีการบรรจุในภาชนะที่ทำจากวัสดุป้องกัน/ต้านทานความชื้น
หรือจะเลือกวิธีการเก็บในโรงเก็บควบคุมสภาพก็ได้
»
ชนิดของพืช
»
ประวัติของเมล็ด
»
ความชื้นของเมล็ด
»
อุณหภูมิ
» ประสิทธิภาพของวัสดุบรรจุภัณฑ์
»
การจัดเก็บเมล็ด
»
การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ให้มีอายุยาว 5-10-20 ปี