เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกขิงแดง
กรมส่งเสริมการเกษตร กองส่งเสริมพืชสวน
พันธุ์
พันธุ์ของขิงแดงมีลักษณะดังนี้
- Red ginger หรือขิงแดงที่มีปลูกอยู่ทั่วไป
- Eileen Mcdonald หรือ ขิงชมพู (Pink ginger) มีกลีบประดับสีชมพู ลักษณะช่อดอก คล้ายขิงแดง
- Jungle King มีกลีบประดับสีแดง ช่อดอกจะมีลักษณะมน อ้วนกว่าขิงแดง
- Jungle Queen มีกลีบประดับสีชมพูจาง ลักษณะช่อดอกคล้าย Jungle King
- Tahitian มีกลีบประดับสีแดง และมักจะมีช่อดอกแขนงจำนวนมาก แตกจากช่อดอกหลัก ทำให้มีลักษณะเป็นช่อใหญ่
- Kimi เป็นพันธุ์ที่เกิดจากการเพาะเมล็ดของขิงชมพู กลีบประดับมีสีชมพูเหลือบแดง สวย งามมากลักษณะช่อดอกคล้ายขิงแดง
การขยายพันธุ์
1. ใช้เมล็ด พบว่าขิงแดงติดเมล็ดได้ยากในประเทศไทย ดังนั้นผู้ปลูกเลี้ยงจะต้องหมั่นสังเกตุดอกแห้งถ้าต้องการเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรเพาะเมล็ดในวัสดุเพาะที่คุณสมบัติเป็นกรดเล็กน้อยระบายน้ำดี และกลบด้วยวัสดุเพาะบาง ๆ เวลาการงอกของเมล็ดไม่แน่น แต่งอกเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับเมล็ดธรรมรักษา
2. ใช้ตะเกียง (Aerial offshoots) ช่อดอกของขิงแดงเมื่อแก่จะสร้างตะเกียง หรือหน่อเล็ก ๆ ที่โคนกลีบประดับ สามารถแยกตะเกียงออกจากช่อดอกและปลูกได้ทันที แต่จะให้ผลดีถ้าตะเกียงมาชำให้เกิดรากก่อน โดยจะมีการสร้างราก 4-8 สัปดาห์หลังการชำ
3. การแยกหน่อ (Division) กิ่งหน่อใหม่จะเกิดที่ส่วนบนของเหง้าของต้นแม่ การแยกหน่อมักทำโดยใช้หน่อที่ไม่แก่เกินไปนัก ให้มีส่วนของเหง้ายาวประมาณ 5 นิ้ว และส่วนของต้นเทียมยาว 8-12 นิ้ว แล้วนำมาปักชำในกระบะชำ หรือถุงพลาสติก
»
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
» พันธุ์
»
ปัจจัยการผลิต
»
การเตรียมแปลง
»
การปฏิบัติดูแลรักษา
»
โรคและแมลง
»
การเก็บเกี่ยว