เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้อมูลการเกษตร

ไม้ผล ไม้ยืนต้น

การปลูกส้มโอ

กรมส่งเสริมการเกษตร

แมลงศัตรูส้มโอ

แมลงที่สำคัญ ได้แก่ เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบส้ม หนอนฝีดาษส้ม หนอนเจาะผล หนอนแก้วส้ม ไรแดง ไรสนิมส้ม และไรขาว

เพลี้ยไฟ
เป็นแมลงที่มีขนาดเล็ก ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงที่ยอดอ่อน ใบอ่อน และผลส้ม ผลที่ถูกทำลายจะปรากฏรอยสีเทาเงินเป็นวงบริเวณขั้วผลและก้นผลหรือเป็นทางสีเทาเงินตามความยาวของผล

การป้องกัน
เด็ดผลที่แคระแกร็น และผลที่พบการทำลายของเพลี้ยไฟทิ้ง หากพบมีการระบาดมากให้ใช้สารเคมีได้แก่ คาร์โบซัลแฟน อัตรา 20 มิลลิลิตร / น้ำ 20 ลิตร อิมิคาโคลปิด อัตรา 10 มิลลิลิตร / น้ำ 20 ลิตร

หนอนชอนใบส้ม
จะเข้าทำลายเมื่อส้มโอเริ่มแตกยอดอ่อน โดยเมื่อนอนฟักออกจากไข่แล้วจะเจาะเข้าไปใต้ผิวใบ และกัดกินชอนไชอยู่ระหว่างผิวใบ โดยจะทำลายด้านใต้ใบมากกว่าด้านบนใบ ใบที่ถูกทำลายจะมีลักษณะหงิกงอ เป็นแผลและแห้ง

การป้องกัน
ตัดใบอ่อนที่ถูกหนอนทำลายรุนแรงไปเผาและกำจัดวัชพืชในสวนระยะส้มเริ่มแตกใบอ่อนหรือฉีดพ่นด้วยสารเคมี ได้แก่ คาร์โบซัลแฟน อัตรา 30 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร ไซฟลูธริน อัตรา 4-6 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร

หนอนฝีดาษส้ม
จะเจาะเข้าไปกัดกินในเปลือกส้มโอ ทำให้เกิดลักษณะตะปุ่ม ตะป่ำที่ผิวเปลือกคล้ายโรคฝีดาษ และถึงแม้ว่าการทำลายจะไม่ถึงบริเวณเนื้อส้มโอที่เป็นโรคนี้ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด

การป้องกัน
ควรห่อผลตั้งแต่ผลยังเล็ก เก็บผลที่ถูกทำลายฝังหรือเผา ใช้สารเคมีเมทธามิโดฟอส ในอัตร 30 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ในระยะกลีบดอกส้มโอร่วง

หนอนเจาะผล
จะเจาะเข้าไปภายในผลส้ม ผลที่ถูกทำลายจะมีมูลของหนอนที่ถ่ายออกมา และมียางไหลเยิ้มบริเวณรอยแผลทำให้ผลเน่า และผลร่วงในที่สุด

การป้องกัน
ห่อผลตั้งแต่ผลยังเล็ก ๆ ถ้าพบการทำลายก็ให้เก็บผลที่ถูกทำลายหรือเผา และเมื่อพบการทำลายสูงให้ใช้สารเคมี ได้แก่ เมทธามิโดฟอส ในอัตรา 30 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

หนอนแก้วส้ม
จะกัดกินใบอ่อนและยอดอ่อน เมื่อหนอนฟักออกเป็นตัว จะเริ่มทำลายใบส้มทันที แต่ทำลายอย่างช้า ๆ เมื่อหนอนอายุได้ 5-6 วัน การทำลายจะรวดเร็ว และทำความเสียหายให้กับใบส้มมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากเป็นส้มต้นเล็ก อาจจะทำให้ส้มตายได้

การป้องกัน
เก็บไข่หรือหนอนมาทำลาย ถ้าพบระบาดมากให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมี เมทธามิโดฟอส ในอัตราส่วน 30 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

ไรแดง
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัย จะดูดทำลายอยู่บริเวณหน้าใบ โดยเฉพาะบริเวณปลายใบ หรือใกล้ขอบใบ ทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีเขียวจางและหน้าใบไม่เป็นมัน มักพบคราบของไรคล้ายฝุ่นหรือผงสีขาว ๆ จับอยู่ตามหน้าใบ ไรแกงชนิดนี้จะดูดกินน้ำเลี้ยงที่ผลด้วย ทำให้ผลซีดกร้าน ผลส้มที่ถูกทำลายอย่างรุนแรง จะมีการพัฒนาช้า และมีน้ำหนักเบา

การป้องกัน
ใช้สารเคมี โปรปาไจท์ ในอัตราส่วน 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรืออมีทราส อัตรา 30 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วหรือใช้น้ำฉีดพ่นใบให้เปียกโชก

ไรสนิมส้ม
เข้าทำลายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบและผล ทั้งด้านบนใบและด้านใต้ใบ ผลส้มที่ถูกไรสนิมดูดกินจะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลสนิม ทำให้ผลมีลักษณะสกปรกไม่สวยงามไม่เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ

การป้องกัน
หมั่นสำรวจแปลงส้มอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศแห้งแล้ง เมื่อพบระบาดมากให้ทำการฉีดพ่นด้วยสารเคมีโปรปาไจท์ ในอัตรา 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ชนิดใดชนิดหนึ่ง

ไรขาว
จะดูดทำลายอยู่ที่ยอดอ่อน ใบอ่อน ทำให้ใบหงิกบิดเบี้ยวใบเป็นสีน้ำตาล นอกจากนี้ยังเข้าทำลายผลตั้งแต่เริ่มติดผล ทำให้ผิวเสีย โดยการระบาดเริ่มที่บริเวณขั้วผลจะเป็นสีเทาและลุกลามลงไปเรื่อย ๆ

การป้องกัน
ถ้าพบการทำลายให้ทำการฉีดพ่นด้วยสารเคมีไดโคโฟลในอัตราส่วนตามคำแนะนำข้างฉลากภาชนะบรรจุสารเคมี

» พันธุ์ส้มโอ
» สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
» วิธีการปลูก
» การปฏิบัติดูแลรักษา
» โรคของส้มโอ
» แมลงศัตรูส้มโอ
» การเก็บเกี่ยวและการขนย้าย
» ตลาดส้มโอ
» การปฏิบัติหลังจากเก็บเกี่ยว

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย