เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกปูเล่จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กรมส่งเสริมการเกษตร
ปูเล่ ที่ท่านได้รับการแจกจ่ายจากกรมส่งเสริมการเกษตรนี้
เป็นต้นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ซึ่งเป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่ให้ประสิทธิภาพสูง
สามารถขยายพันธุ์ได้ครั้งละจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ในการปลูกปูเล่
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนำปูเล่ไปปลูกจะช่วยให้ท่านได้ประหยัดรายจ่ายเพราะสามารถปลูกผักในกระถางไว้ทานเองได้
ลักษณะที่ดีของปูเล่
ปูเล่ เป็นพืชผักที่ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย เจริญเติบโตได้ดีในกระถาง
ผู้ที่มีพื้นที่น้อยก็สามารถปลูกไว้รับประทานได้ มีอายุยืนไม่ต่ำกว่า 2 ปี
ซึ่งต่างจากพืชผักทั่วไปที่มีอายุสั้นเพียงฤดูเดียว มีแขนงเกิดขึ้นตามลำต้น
สามารถนำไปชำปลูกขยายพันธุ์ต่อไปได้
เนื่องจากปูเล่เป็นพืชที่สามารถปลูกเป็นไม้กระถางได้จึงสามารถควบคุมการใช้สารเคมี
เพื่อเป็นผักปลอดสารพิษที่บริโภคได้อย่างปลอดภัย หากมีการบำรุงรักษาที่ดี
จะทำให้ปูเล่เป็นทั้งผักที่ใช้บริโภคและเป็นไม้ประดับเพื่อตกแต่งบ้านได้
และที่สำคัญใบมีรสดี ไม่เหม็นเขียวไม่เหนียว ใช้รับประทานเป็นผักสดก็ได้
อีกทั้งยังสามารถเก็บใบมารับประทานได้ตลอดปี
จึงนับได้ว่า ปูเล่
เป็นพืชผักที่มีคุณสมบัติที่ควรค่าแก่การนำไปปลูกไว้ประจำบ้านทุกครัวเรือน
ทั้งบ้านในเมือง และชุมชนในชนบท
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ปูเล่
เป็นพืชตระกูลกะหล่ำที่ปลูกกันมากทางภาคใต้ของประเทศไทยมานานแล้วนิยมปลูกในกระถางหรือภาชนะอื่นๆไว้บริโภคในครัวเรือน
สามารถนำไปประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับคะน้าหรือกะหล่ำปลีเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง
กรมส่งเสริมการเกษตร
ได้ประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์ปูเล่โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อ
ซึ่งเป็นวิธีการขยายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถผลิตพันธุ์ได้จำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว
ดังนั้นปูเล่ที่แจกจ่ายแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปจึงเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดีที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทั้งสิ้น
โดยกลุ่มงานเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและจัดการพันธุ์ กองส่งเสริมพืชสวน ได้ดำเนินการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อปูเล่ โดยการนำชิ้นส่วนขนาดเล็กของพืชมาเลี้ยงในอาหารสังเคราะห์ ภายใต้สภาพที่ควบคุม ซึ่งวิธีนี้สามารถเพิ่มปริมาณปูเล่ได้เป็นจำนวนมาก
การปลูก
เมื่อได้รับพันธุ์ปูเล่แล้ว ให้รีบนำไปปลูกดังนี้
- นำดินผสมปุ๋ยคอกใส่กระถาง หรือภาชนะอื่น เช่น ปี๊บหรือเข่งประมาณครึ่งหนึ่งของภาชนะที่ใช้ปลูกปี๊บหรือเข่งประมาณของ
- นำต้นปูเล่ลงปลูก
- กดดินรอบโคนต้นให้แน่น
- รดน้ำให้ชุ่ม วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น วางไว้ในที่แจ้ง เนื่องจากปูเล่เป็นพืชที่ชอบแดด
- เติมดินผสมเพื่อกลบโคนต้นเป็นระยะๆ ทุก 2 อาทิตย์ จนเติมภาชนะ
- การป้องกันกำจัด ถ้าพบแมลงศัตรูพืช ให้ใช้มือทำลายก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีฉีดพ่นให้สิ้นเปลืองเพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของคน ในครอบครัวได้
การเก็บใบเพื่อบริโภค
ปูเล่ นอกจากกินสดได้เหมือนผักทั่วไปแล้วยังสามารถนำมาแกง ผัด ลวก
ใช้ในการประกอบอาหารต่างๆ ได้หลายชนิด
การนำใบไปบริโภค เมื่อต้นปูเล่มีอายุประมาณ 2 เดือนขึ้นไป
ผู้ปลูกสามารถเก็บใบเพื่อปรุงอาหาร หรือรับประทานสด โดยการเด็ดใบล่างขึ้นไปเรื่อยๆ
นำไปประกอบอาหารบริโภคได้ การเด็ดใบล่างไปทำอาหารควรเหลือใบบนไว้กับต้นบ้าง
เพื่อให้ใบส่วนที่เหลือสามารถสังเคราะห์แสงเพื่อการเจริญเติบโต
การขยายพันธุ์
1. ต้นอายุ 4 เดือน
เมื่อต้นปูเล่มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป จะเริ่มมีแขนงแตกข้างลำต้น
โดยปริมาณแขนงจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
2. ตัดแขนงไปปักชำ
ผู้ปลูกสามารถตัดแขนงเล็กๆ ไปปลูกขยายพันธุ์ได้ โดยใช้มีดบางๆตัดโคนแขนงที่มีใบ
ตั้งแต่ 3 ใบขึ้นไป นำไปปักชำ
3. ปักชำ
นำแขนงปักชำในทรายผสมขี้เถ้าแกลบ
หรือในดินผสมที่มีการระบายน้ำได้ดีแล้วนำไปวางในที่ร่มรำไร รดน้ำให้ชุ่มประมาณ 14
วัน
4. เริ่มลงกระถาง
หลังจากปักชำ 14 วันแล้ว แขนงจะออกรากสามารถย้ายลงปลูกในกระถาง หรือภาชนะอื่นๆต่อไป
จัดทำ
นายปราโมทย์ รักษาราษฎร์
นายอนันต์ ขุมสิน
นางสาวแสนสุข รัตนผล
นางสุนิสา อธิวงศ์ธนวัฒน์