เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้อมูลการเกษตร

พืชผัก-สมุนไพร

การปลูกพืชผักระบบไฮโดรโปนิกส์

จากเอกสารวิชาการ เรื่อง การปลูกพืชผักระบบไฮโดรโปนิกส์
จัดทำเอกสารโดย นางสาวขนิษฐา พงษ์ปรีชา สำนักงานส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันตก จังหวัดชลบุรี

วัสดุและภาชนะปลูก

วัสดุปลูก วัสดุปลูกทำหน้าที่ในการรองรับรากพืชเพื่อให้พืชทรงตัวอยู่ได้ ในการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ วัสดุปลูกที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ จะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้

  1. สามารถรักษาอัตราส่วนของน้ำและอากาศให้เหมาะสมตลอดการปลูก โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ น้ำ:อากาศ เท่ากับ 50:50 โดยปริมาตร
  2. จะต้องไม่มีการอัดหรือยุบตัวเมื่อเปียกน้ำหรือเมื่อผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน
  3. จะต้องไม่สลายตัวทั้งทางเคมีและทางชีวภาพ
  4. เป็นวัสดุที่รากพืชสามารถแพร่กระจายได้อย่างสะดวกทั่วทุกส่วน
  5. มีความเฉื่อยทางเคมี คือไม่ทำปฏิกริยากับสารละลายธาตุอาหารและภาชนะที่ใช้ปลูก
  6. มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุ (C.E.C) ต่ำหรือไม่มีเลย เพื่อจะได้ไม่มีผลต่อองค์ประกอบของสารละลายธาตุอาหารพืชในวัสดุปลูก
  7. ไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง
  8. เป็นวัสดุที่สามารถกำจัดโรคและแมลงได้ง่าย ทำให้สามารถนำวัสดุปลูกกลับมาใช้ใหม่ได้

อย่างไรก็ตามไม่มีวัสดุปลูกใดที่มีคุณสมบัติครบทุกข้อที่กล่าวมา วัสดุปลูกที่นิยมใช้ในต่างประเทศ คือ แท่งฟองน้ำ และ rockwool แต่ราคาค่อนข้างแพงในประเทศไทยเนื่องจากต้องนำเข้า จึงได้มีการทดลองใช้วัสดุต่างๆ ที่หาได้ในประเทศ เช่น แกลบสด ขี้เถ้าแกลบ ขุยมะพร้าว และ ทราย การทดสอบวัสดุปลูกต่างๆ เหล่านี้ พบว่าทั้งวัสดุเดี่ยวและวัสดุผสมทำให้พืชมีอัตราการเจริญเติบโตใกล้เคียงกัน เมื่อลองใช้วัสดุต่างๆ เป็นเวลา 1 ปี พบว่าวัสดุผสมต่างๆ ที่ผสมกับทรายมีการหดตัวไม่มาก สามารถใช้เป็นวัสดุปลูกต่อไปได้ ส่วนวัสดุเดี่ยว แกลบสดมีปัญหาในช่วงแรกๆ คือระบายน้ำดีเกินไปและการแพร่กระจายของน้ำด้านข้างน้อย แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งเกิดการสลายตัว ความสามารถในการอุ้มน้ำก็ดีขึ้น สำหรับขุยมะพร้าว มีการอุ้มน้ำดีเกินไปและมีการสลายตัวมาก ต้องระวังการให้น้ำและระบายน้ำ ส่วนขี้เถ้าแกลบเป็นวัสดุที่ดีชนิดหนึ่ง มีการสลายตัวน้อยแต่ก่อนใช้ต้องแช่ด้วยกรดเพื่อปรับ pH ให้เท่ากับ 6 วัสดุปลูกที่กล่าวมานี้จะมีคุณสมบัติดีขึ้นมากเมื่อผสมกับทรายในอัตราส่วน 1:1

ภาชนะปลูกพืช วัสดุปลูกจะต้องบรรจุในภาชนะปลูกเพื่อไม่ให้ปะปนกับสารละลาย ภาชนะปลูกที่ดีจะต้องทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกริยาเคมีกับสารต่างๆ ต้องมีความคงทนแข็งแรง น้ำหนักเบา ใช้ได้นาน และติดตั้งใช้งานง่าย ซึ่งปัจจุบันจะใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติกเป็นส่วนมาก เนื่องจากมีความคงทน น้ำหนักเบา สามารถทำเป็นรูปร่างต่างๆ ได้มาก และราคาถูก ไม่ควรใช้ภาชนะโลหะที่เคลือบด้วยสังกะสี เพราะอาจมีการละลายของสังกะสี ทำให้สารละลายธาตุอาหารพืชมีความเข้มข้นของสังกะสีสูง และอาจเป็นพิษต่อพืชได้ ภาชนะปลูกที่ทำจากวัสดุประเภทซีเมนต์ ใยหิน หรือ กรวด เมือนำไปใช้ใส่สารละลาย จะมีสภาพเป็นด่าง ทำให้ pH ของสารละลายสูงขึ้น จึงควรนำไปแช่น้ำให้สะอาดเพื่อเป็นการปรับสภาพให้เป็นกลางก่อนนำไปใช้

ขนาดและรูปร่างของภาชนะที่เลือกใช้จะขึ้นกับชนิดของวัสดุปลูก ชนิดของพืชที่ปลูก และลักษณะของพื้นที่ปลูกหรือโรงเรือนปลูกพืช ภาชนะที่ใช้กันในปัจจุบันอาจจำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้

  1. ภาชนะที่มีรูปร่างเป็นถัง อ่าง บ่อ อาจอยู่บนผิวดินหรือฝังอยู่ใต้ดิน วัสดุที่ใช้อาจเป็นแผ่นพลาสติกหรือบ่อซีเมนต์
  2. ภาชนะที่มีลักษณะเป็นลำราง คล้ายรางรองน้ำฝน อาจทำจากแผ่นพลาสติกอ่อน หรือกึ่งแข็ง หรือทำจากแผ่นสังกะสีหรืออลูมิเนียมบุภายในด้วยแผ่นพลาสติก
  3. ภาชนะที่มีลักษณะเป็นถุงหรือใช้ห่อ วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นพลาสติกขาวหรือดำ

การวางภาชนะปลูกนิยมวางในแนวยาว ขวางทิศทางการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ เพื่อให้พืชได้รับแสงอย่างทั่วถึง ไม่มีการบังแดดกัน โดยปกติจะออกแบบให้กว้างไม่เกิน 5 ฟุต สูง 6-8 นิ้ว ความยาวขึ้นกับโรงเรือน แต่ในการปลูกพืชเชิงพาณิชย์มักจะออกแบบภาชนะให้แคบและตื้น แต่ยาว และมักจะทำมุมให้มีความลาดเอียงเล็กน้อย ที่มุมทั้งสองด้านของความกว้างจะพยายามออกแบบให้ป้องกันแสงไม่ให้ส่องถึงสารละลลายได้ ผนังด้านใต้ของภาชนะควรมีรูระบายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.25 นิ้ว และ มีจุกใช้อุดหรือถอดได้

ในการปลูกพืชผักด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์มีเทคนิคสำคัญต่างๆที่ผู้ปลูกต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ เช่น ระบบการปลูกพืชแบบต่างๆ การเตรียมสารละลายและการจัดการสารละลาย วัสดุและภาชนะที่ใช้ปลูกพืช การเรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องเทคนิคต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นมาก เนื่องจากทุกๆ เรื่องมีอิทธิพลในการกำหนดความสำเร็จของการปลูกพืช นอกจากนี้ การหาประสบการณ์จากการผลิตผักเป็นการค้าในฟาร์มไฮโดรโปนิกส์จะช่วยประกันความสำเร็จได้มากขึ้น

» ประวัติความเป็นมา
» การปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ในต่างประเทศ
» การปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ในประเทศ
» ข้อดีและข้อเสียของการปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปรนิกส์
» ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์
» ปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
» เทคนิคการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์
» ระบบการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์
» สารละลายธาตุอาหาร
» การใช้เครื่อง EC มิเตอร์
» วัสดุและภาชนะปลูก
» การปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ในภาคตะวันตก
» การศึกษาวิจัย
» การผลิตพืชผักเชิงพาณิชย์
» เงื่อนไขในการผลิตพืชแบบไฮโดรโปนิกส์เชิงพาณิชย์
» ต้นทุน-ผลตอบแทน
» การตลาด
» ความรู้ของเกษตรกร
» ผู้บริโภคและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม
» ประโยชน์ของการปลูกพืชระบบไฮโดรโปนิกส์ต่อการเกษตรไทยในอนาคต

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย