เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน
กรมส่งเสริมการเกษตร
การรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว
- เมื่อเก็บฝักข้าวโพดฝักอ่อนแล้ว เกษตรกรควรรีบนำเข้าที่ร่ม
หรือโรงเรือนที่มีการระบายอากาศที่ดี พยายามจัดวางให้ผลผลิตได้ระบายความร้อน
ไม่ควรเก็บข้าวโพดฝักอ่อนไว้เป็นกองสูง ๆ และไม่ควรทิ้งไว้หลายวัน ถ้าเป็นไปได้
ควรนำมาลอกเปลือกออกทันทีหลังการเก็บเกี่ยว
- ในการขนส่งควรทำโดยเร็วที่สุด และไม่กองฝักข้าวโพดบนพื้นดิน
หรือพื้นรถบรรทุกโดยตรง ควรใส่ในภาชนะ ข้าวโพดฝักอ่อนที่ปอกเปลือกแล้ว
ควรบรรจุในกล่องกระดาษ หรือตะกร้าพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ
- การปอกเปลือกข้าวโพดอ่อน ต้องกรีดไม่ให้เกิดบาดแผล ลอกไหมให้เกลี้ยง
เครื่องมือที่ใช้ เช่น มีด ภาชนะบรรจุ ต้องสะอาด
- ทำความสะอาดเพื่อลดปริมาณเชื้อราตามที่ต่างๆ เช่น เครื่องมือ เครื่องใช้
มีด หรือภาชนะที่ใช้ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวถึงการบรรจุหีบห่อ
และทำความสะอาดห้องเก็บรักษาในรูปของแก๊สหรือใช้สารละลายที่ฆ่าเชื้อโรคภายนอก
เช่น ฟอร์มาดีไฮด์ อัตรา 1-2 เปอร์เซ็นต์ ในน้ำฉีดพ่นหรือใช้โซเดียวไฮโปคลอไรด์
เป็นต้น
- สำหรับผู้ส่งออก
ควรลดอุณหภูมิข้าวโพดฝักอ่อนที่มาจากแปลงปลูกโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
วิธีที่นิยมใช้คือ การอัดลมเย็น (forced-air cooling)
จะทำให้ลดการระบาดของการเน่า ลดการสูญเสียน้ำและความหวาน
ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น
- อุณหภูมิที่ใช้ในระหว่างการเก็บเกี่ยว หรือระหว่างการขนส่ง คือ 5
องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 90-95 เปอร์เซ็นต์
- การบรรจุหีบห่อที่เหมาะสม ไม่บรรจุมากเกินไปในกล่องเดียวกัน การเก็บรักษาในถาดโฟมที่หุ้มด้วยฟิล์ม PVC จะช่วยป้องกันผลผลิตให้คงมีคุณภาพดี
ข้อควรปฏิบัติ
หลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผลหรือความชอกช้ำบนฝัก ซึ่งเริ่มตั้งแต่การปอกเปลือกตลอดจนการบรรจุหีบห่อ การขนส่งและการปฏิบัติอื่น ๆ หลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการที่เชื้อราและบักเตรีบางชนิดเข้าทำลายได้ง่ายขึ้น
»
พันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อน
»
การปรับปรุงดิน
»
การเตรียมดินปลูก
»
ระยะปลูก
»
การใส่ปุ๋ยข้าวโพดฝักอ่อน
»
การให้น้ำกับข้าวโพดฝักอ่อน
»
การพรวนดินและกำจัดวัชพืช
»
การถอดยอด
»
การเก็บเกี่ยว
»
มาตรฐานข้าวโพดฝักอ่อน
» การรักษาคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว
»
ผลพลอยได้จากการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน