ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
พุทธธรรมขั้นพื้นฐาน
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนากับพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ความสำคัญของพระพุทธศาสนาที่มีต่อสังคมไทย
การนับถือพระพุทธศาสนาของชาวไทย
พระมหากษัตริย์ไทยกับพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาในฐานะเป็นเอกลักษณ์และมรดกของชาติไทย
การปฏิบัติตนในฐานะพุทธมามกะ
พระมหากษัตริย์ไทยกับพระพุทธศาสนา
12
รัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงผนวชเป็นเวลา ๑๕ วัน
เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวง วชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศาสนโศภณ
วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระวันรัต วัดเบญจมบพิตร
เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อทรงผนวชแล้วได้เสด็จไปประทับอยู่ ณ
วัดบวรนิเวศวิหารได้มีการเปิดการศึกษาขั้นมหาวิทยาลัยขึ้นทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย
มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งนี้ คือ สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย (ธรรมยุติกนิกาย)
และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มหานิกาย)
สภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย ตั้งอยู่วัดบวรนิเวศน์วิหาร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนาขึ้นเพื่อให้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนสำหรับภิกษุสามเณรฝ่ายธรรมยุติกนิกาย
ได้รับการยกฐานะเป็นขั้นมหาวิทยาลัยและได้เปิดเรียนเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.
๒๔๘๙ เป็นต้นมา
ผู้ที่ศึกษาจบหลักสูตรของมหาวิทยาลัยนี้จะได้รับปริญญาศาสนศาสตร์บัณฑิตมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ตั้งอยู่ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนาขึ้นเพื่อให้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนสำหรับภิกษุสามเณร ฝ่ายมหานิกาย ได้รับการยกฐานะเป็นขั้นมหาวิทยาลัย และได้เปิดเรียน เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ ผู้ที่ศึกษาจบหลักสูตรของมหาวิทยาลัยนี้จะได้รับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต สถาบันทั้ง ๒ แห่งรัฐได้ตราพระราชบัญญัติรับรองเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นต้นมา
ในด้านการปกครอง ถึง พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ เสียใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นเรียกว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ โดยให้สมเด็จพระสังฆราช ทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ ในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคม อันประกอบด้วยพระราชาคณะ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า ๔ รูป และไม่เกิน ๘ รูป เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม มีอำนาจหน้าทีปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย
ในด้านการปกครองพระสงฆ์ส่วนภูมิภาค ได้แบ่งการปกครองออกเป็น ภาค จังหวัด อำเภอ และตำบล โดยมีเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เป็นผู้รับผิดชอบ