ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
การขอพระราชทานเพลิงศพ
หลักเกณฑ์การขอพระราชทานเพลิงศพ
ผู้มีสิทธิได้รับพระราชทานเพลิงศพ
- พระสมณศักดิ์ ตั้งแต่ชั้น พระครูสัญญาบัตร ขึ้นไป
- พระราชวงศ์ ตั้งแต่ชั้น หม่อมเจ้า ขึ้นไป
- ผู้ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
- ข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป
- ข้าราชการฝ่ายทหาร ตำรวจ ยศชั้นร้อยตรี ขึ้นไป
- พนักงานเทศบาลตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป
- ผู้ที่ไดรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตั้งแต่ เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ (บ.ภ.) เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.) ขึ้นไป
- ผู้มีเกียรติที่ไดรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้า (จ.จ.) หรือ ตราสืบตระกูล (ต.จ.) ขึ้นไป
- ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญ รัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบัน
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล ที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่ง
- รัฐมนตรีที่ถึงแก่อนิจกรรม
- ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นกรณีพิเศษ
หลักเกณฑ์ในการขอพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ
ผู้ที่สมควรได้รับการพิจารณาในการขอพระราชทานเพลิงศพ กรณีพิเศษ ควรอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้
- ผู้ที่อยู่ในราชสกุล ชั้นหม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง
- พระสงฆ์ที่พระราชาคณะพิจารณาขอพระราชทานให้
- พนักงานรัฐวิสาหกิจระดับสูง
- ผู้ที่ไดรับพระราชเหรียญราชรุจิ เหรียญกล้าหาญ และเหรียญชัยสมรภูมิ
- ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติเช่น ศิลปินแห่งชาติ นักกีฬาระดับชาติ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ อดีตสมาชิกสภาจังหวัด หรืออดีตสมาชิกสภาเทศบาล
- ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ เช่น บริจาคเพื่อการกุศล คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 300,000 บาท บริจาคร่างกายหรืออวัยวะ
- บิดา มารดาของข้าราชการผู้ใหญ่ระดับ 6 ขึ้นไป
- บิดา มารดาของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) ขึ้นไป
- บิดา มารดาของพระสมณศักดิ์ ตั้งแต่ชั้น พระครูสัญญาบัตร ขึ้นไป
- บิดา มารดาของข้าราชการทหาร ตำรวจ ตั้งแต่ระดับพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท และพันตำรวจโท ขึ้นไป
ขั้นตอนในการขอพระราชทานเพลิงศพ
- การขอพระราชทานเพลิงศพ เจ้าภาพหรือทายาทผู้ประสงค์ขอพระราชทานเพิงศพ
จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงเจ้าสังกัดของผู้ถึงแก่กรรม โดยระบุ
- ชื่อ ตำแหน่ง ชั้น ยศ ของผู้ถึงแก่กรรม
- ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ที่ไหน เมื่อใด
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อะไรบ้าง
- มีความประสงค์จะขอรับพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพอย่างใดบ้าง
- ระบุวัน เวลา สถานที่ที่จะฌาปนกิจ
- การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เจ้าภาพหรือทายาท
ผู้ประสงค์ขอพระราชทานเพลิงศพกรณีพิเศษ ต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการพระราชวัง
โดยระบุ
- ชื่อ-สกุล และประวัติโดยย่อของผู้ถึงแก่กรรม
- ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ทีไหน เมื่อใด
- ระบุคุณงามความดีที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ หรือคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณาขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
- ระบุ วัน เวลา สถานที่ที่จะฌาปนกิจ
หลักฐานที่ต้องนำมาแสดง
ในการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษนั้น จะต้องนำหลักฐานมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ ดังนี้
- ใบมรณะบัตรของผู้ถึงแก่กรรม
- ทะเบียนบ้านของทายาทของผู้ถึงแก่กรรม
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการของทายาทของผู้ถึงแก่กรรม
- หนังสือรับรองจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ใบอนุโมทนาบัตร ใบประกาศเหรียญกล้าหาญ
หรือเหรียญชัยสมรภูมิ ทั้งนี้ ต้องนำเอกสารต้นฉบับและนำเนาแนบมาพร้อมกับหนังสือด้วย
หมายเหตุ บุคคลผู้ทำลายชีพตนเองไม่พระราชทานเพลิงศพ และเครื่องประกอบเกียรติยศ
การขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ขั้นตอนการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
เจ้าภาพหรือทายาท จะต้องจัดดอกไม้กระทง 1 กระทง ธูปไม้ระกำ 1 ดอก เทียน 1 เล่ม
มีพานรองพร้อม ไปกราบถวายบังคมลาพร้อมด้วยหนังสือกราบบังคมทูลลา
โดยติดต่อที่กองพระราชพิธี
สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งนำใบมรณบัตร
และหลักฐานที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับ (พร้อมสำเนา
1 ชุด)ไปแสดง แก่เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี
เพื่อการจัดเครื่องเกียรติยศประกอบศพได้ถูกต้อง
ส่วนพระสงฆ์สมณศักดิ์ ไม่ต้องมีดอกไม้ธูปเทียน เป็นหน้าที่ของกรมศาสนาแจ้งการมรณภาพ และขอพระราชทาน
การขอรับหีบเพลิงพระราชทาน
ระเบียบการขอรับหีบเพลิงพระราชทาน
เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ขอพระราชทานเพลิงศพจำนวนมาก เลขาธิการพระราชวังได้มีบัญชาว่าเพลิงที่พระราชทานไปเผาศพ ณ วัดที่อยู่ห่างจากพระบรมมหาราชวัง นอกรัศมี 50 กิโลเมตร ให้จัดเป็นหีบเพลิงพระราชทานมอบเจ้าภาพเชิญไปดำเนินการเอง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังไปปฏิบัติ ดังนั้น กองพระราชพิธีจึงได้กำหนดระเบียบการขอรับหีบเพลิงพระราชทาน ดังนี้
- ให้เจ้าภาพศพไปติดต่อขอรับหีบเพลิงพระราชทานที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง
- กรณีที่เจ้าภาพไม่สามารถไปรับหีบพระราชทานด้วยตนเองจะมอบให้ผู้อื่นไปรับแทนก็ได้ โดยนำต้นเรื่อง หนังสือมอบฉันทะ และสำเนาบัตรประจำตัวผู้แทน ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่
- เจ้าภาพหรือผู้แทนควรไปรับหีบเพลิงก่อนกำหนดวันพระราชทานเพลิงอย่างน้อย 3 วัน
- ผู้ที่มารับหีบเพลิงควรแต่งกายสุภาพ
- ให้รับหีบเพลิงพระราชทานที่โต๊ะหมู่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์
หมายเหตุ
- การติดต่อขอพระราชทานเพลิงศพที่ได้ตามเกณฑ์ และกรณีพิเศษ
ซึ่งไม่มีเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ในกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และต่างจังหวัด
เจ้าภาพไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ยกเว้น กรณีเขตปริมณฑล 50 กิโลเมตร เจ้าภาพจะต้องจัดรถรับ - ส่ง เจ้าหน้าที่เชิญเพลิง - เลขาธิการพระราชวังมีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังไปปฏิบัติโดยเด็ดขาด ดังนั้น เจ้าภาพจะต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดการหีบเพลิงพระราชทานเอง
- ห้ามเปิด หรือบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในการพระราชทานเพลิงศพ เมื่อเจ้าภาพเชิญหีบพระราชทานไปถึงมณฑลพิธี
การติดต่อวัดเพื่อเตรียมการพระราชทานเพลิงศพ
ในการขอพระราชทานเพลิงศพ ทั้งตามเกณฑ์ที่ได้รับพระราชทานและกรณีพิเศษนั้น จะต้องไม่ตรงกับวัน เฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ พระราชพิธีฉัตรมงคล (และตามประเพณีนิยมไม่มีการเผาศพในวันศุกร์)
การพระราชทานเพลิงศพที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
หากมีพระราชประสงค์ที่จะทรงกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ
ตรงกับวันที่มีผู้ขอรายใดกำหนดไว้แล้ว
เจ้าภาพผู้ขอนั้นจะต้องเลื่อนไปโดยไม่มีข้อแม้ทั้งสิ้น