ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
คู่มือพระสังฆาธิการ
ส่วนที่ ๑ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ๒ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
ส่วนที่ ๓ กฎมหาเถรสมาคม
ส่วนที่ ๔ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติมหาเถรสมาคม
ส่วนที่ ๔ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติมหาเถรสมาคม
มติมหาเถรสมาคม
ครั้งที่ ๔/๒๕๓๙
สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
มติที่ ๓๐/๒๕๓๙
เรื่อง การควบคุมดูแลผู้เข้ามาบรรพชาอุปสมบท
เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๔/๒๕๓๙ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ เลขาธิการมหาเถรสมาคมเสนอว่า ตามที่ได้มีข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมอันเลวร้ายของผู้อาศัยผ้าเหลืองทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะกรณีของนายยอดชัด เสือผู้ อดีตพระภิกษุ วัดถ้าเขาปูนจังหวัดกาญจนบุรี ได้สังหารนางสาวโจแอน มาเชเดอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ขณะมาเที่ยวที่วัดถ้าเขาปูน ดังที่เป็นข่าวแพร่หลาย นั้น
เรื่องนี้
กระทรวงศึกษาธิการถือเป็นนโยบายสำคัญที่สุดที่จะต้องรีบดำเนินการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีบัญชาให้มีการประชุม ประกอบด้วย นายสุขวิช
รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร.ต.ท. เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ
รัฐมนตรีช่วยการการกระทรวงศึกษาธิการ นายถวัลย์ ทองมี อธิบดีกรมการศาสนา นายจรวย
หนูคง รองอธิบดีกรมการศาสนา และนายสุทธิพงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์
ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคมพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่า
การที่บุคคลไม่ดีเข้ามาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรแล้วกระทำผิดพระวินัย
สาเหตุสำคัญ
ประการหนึ่งมาจากที่พระอุปัชฌาย์ไม่เข้มงวดกวดขันตรวจสอบผู้ที่จะบรรพชาอุปสมบทให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม
และเมื่อบรรพชาอุปสทบทเข้ามาแล้ว พระอุปัชฌาย์ อาจารย์
และเจ้าคณะผู้ปกครองต้องให้การอบรมสั่งสอนให้รู้หลักธรรมและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
พร้อมกันนี้เห็นว่าควรให้มีการจัดทำบัตรประจำตัวพระภิกษุสามเณร
เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูล
จึงขอเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดพิจารณามีมติถวายให้เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการดังนี้
๑. ให้พระอุปัชฌาย์เข้มงวดกวดขันการตรวจสอบประวัติคุณสมบัติผู้เข้ามาบรรพชาอุปสมบทให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ให้บรรพชาอุปสมบทเฉพาะคนที่มีความประพฤติดี โดยให้ถือปฏิบัติตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์
๒. ให้พระอุปัชฌาย์ เมื่อได้บรรพชาอุปสมบทรูปใดแล้ว ต้องอบรมสั่งสอนให้รู้หลักธรรมและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย โดยจะต้องดูแลให้ครบ ๕ ปี ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๗(พ.ศ. ๒๕๓๖) หากมีความจำเป็นที่จะต้องไปอยู่ที่อื่น พระอุปัชฌาย์จะต้องฝากเจ้าอาวาสวัดนั้นปกครองดูแลสั่งสอนแทน
๓. ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ กวดขันสดส่องดูแลพระภิกษุ สามเณร ในปกครองให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีจริยวัตรที่ดีงาม เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน และให้เจ้าคณะผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบปกครองพระสงฆ์ในสังกัดให้เป็นไปโดยเรียบร้อยหากพบผู้ใดแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์หรือประพฤติผิดพระธรรมวินัย ต้องรีบพิจารณาโทษอย่างฉับไวและจริงจังเพื่อกาจัดอลัชชีให้หมดไป
จึงขอประทานเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดพิจารณา
ที่ประชุมพิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบตามข้อเสนอและให้แจ้งเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติ พร้อมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
๑. สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานกรรมการ
๒. พระอุดมญาณโมลี กรรมการ
๓. พระธรรมวโรดม กรรมการ
๔. พระธรรมปัญญาจารย์ กรรมการ
๕. พระธรรมกิตติวงศ์ กรรมการ
๖. รองอธิบดีกรมการศาสนา (นายจรวย หนูคง) กรรมการ
๗. ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม กรรมการและเลขานุการ
เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขป้องกัน เกี่ยวกับเรื่องที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องขอรับรองรายงานการประชุม
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และเห็นสมควรส่งเรื่องให้ฝ่ายสังฆการ เพื่อดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมต่อไป
มติมหาเถรสมาคม
-
เรื่อง การควบคุมดูแลผู้เข้ามาบรรพชาอุปสมบท
-
เรื่อง การสร้างพระพุทธรูป ปูชนียวัตถุ และรูปปั้นต่างๆ ที่ใช้ประดับตกแต่งสถานที่
-
เรื่อง การบวชภิกษุณี
-
เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้พระสงฆ์ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนสมาทานศีล ๕
-
เรื่อง การโฆษณาพระพุทธรูป/พระเครื่องและวัตถุมงคลในสื่อหนังสือพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์
-
เรื่อง โจรกรรมและนาพระพุทธรูปออกขาย
-
เรื่อง ขอยก จังหวัดบึงกาฬ ขึ้นเป็นเขตปกครองจังหวัดทางคณะสงฆ์
-
เรื่อง ขอความเห็นชอบโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล ๕


