ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

สมถะวิปัสสนา

อริยมรรคมีองค์ ๘

๑.สัมมาทิฏฐิ
๒.สัมมาสังกัปป
๓.สัมมาวาจา
๔.สัมมากัมมันตะ
๕.สัมมาอาชีวะ
๖.สัมมาวายามะ
๗.สัมมาสติ
๘.สัมมาสมาธิ

สัมมาทิฏฐิ
ความรู้ในทุกข์ ความรู้ในทุกข์สมุทัย ความรุ้ในทุกข์นิโรธ ความรู้ในทุกข์นิโธคามินีปฏิปทา นี้เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ

สัมมาสังกัปปะ
ความดำริในการออกจากกาม ความดำริในอันไม่พยาบาท ความดำริในอันไม่เบียดเบียนนี้เรียกว่า สัมมาสังกัปปะ

สัมมาวาจา
ความงดเว้นจากการพูดเท็จ ความงดเว้นจากการพูดส่อเสียด ความงดเว้นจากการพูดหยาบ ความงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ นี้เรียกว่า สัมมาวาจา

สัมมากัมมันตะ
ความงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ความงดเว้นจากการลักทรัพย์ ความงดเวนจากการประพฤติผิดในกาม นี้เรียกว่า สัมมากัมมันตะ

สัมมาอาชีวะ
บุคคลผู้อริยสาวกในศาสนานี้ ละมิจฉาอาชีวะแล้ว เลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยสัมมาอาชีวะ นี้เรียกว่า สัมมาอาชีวะ

สัมมาวายามะ
ภิกษุในศาสนานี้ ทำฉันทให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ ทำความเพียรเพื่อป้องกันบาปอกุศลที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น ทำฉันทให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ทำความเพียร เพื่อละบาปอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำฉันทให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตไว้ทำความเพียร เพื่อสร้างกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้น ทำฉันทให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิตทำความเพียร เพื่อความดำรงมั่น ความไม่สาบสูญ ความภิญโญยิ่ง ความไพบูลย์ ความเจริญ ความสมบูรณ์ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว นี้เรียกว่า สัมมาวายามะ

สัมมาสติ
ภิกษุในศาสนานี้ เห็นกายในกายเนื่องๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสเสียได้ในโลก พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาเนื่องๆ อยู่ มีความเพียร มีสติสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นจิตในจิตเนื่องๆ อยู่ มีความเพียรมีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมเนื่องๆ อยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ นี้เรียกว่า สัมมาสติ

สัมมาสมาธิ
ภิกษุในศาสนานี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌานประกอบด้วยวิตก วิจาร ปิติ สุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ บรรลุทุติยฌาน อันยังใจให้ผ่องใดเพราะวิตกวิจารสงบเป็นธรรมเอกผุดขึ้น ภายในไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ อยู่ เพราะคลายปิติได้อีกด้วย จึงเป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขามีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌานซึ่งเป็นฌานพระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญ ผู้ได้บรรลุว่าเป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุขดังนี้อยู่ บรรลุ จตุถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละทุกข์ละสุขได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับสนิทในก่อนมีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่นี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ
ปัญจกนิเทศ ในปัญจกมาติกาเหล่านี้

<< ย้อนกลับ | สารบัญ | หน้าถัดไป >>

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย