ข้อเขียน นิยาย สารคดี บทกวี เรื่องสั้น >>
ข้อเขียน-บทความ
✨ คำให้การ
✨ มือใหม่หัดเล่นหุ้น
✨ แนวทาง (ส่วนตัว)
✨ พอร์ตน้อยๆ
✨ หุ้นแรกในชีวิต
เมื่อคนขับรถปลอมตัวไปเล่นหุ้น
(บันทึกการเล่นสด/เมษายน 2556)
โดย : สารถี แห่งลุ่มแม่น้ำเพชร
» เมษายน 2556 » พฤษภาคม 2556 » มิถุนายน 2556 » กรกฎาคม 2556 » สิงหาคม 2556 » กันยายน 2556 » ตุลาคม 2556 » พฤศจิกายน 2556 » ธันวาคม 2556 » มกราคม 2557 » กุมภาพันธ์ 2557 » มีนาคม 2557
» ปี 2

เมษายน 2556
03 เมษายน 2556
(เพิ่มทุน 50,000 บาท)
โอนเงินเข้าพอร์ตไปอีก 50,000 บาท เงินที่แช่แข็งไว้ก้อนสุดท้ายอันตธานหายไป วันนี้คงได้สำแดงเดชซื้อหุ้นเข้าได้อีกไม่ IEC ก็ IRPC ตามที่เล็งไว้แต่แรก
เปิดพอร์ตได้ก็ไปเคาะเข้าคิวซื้อ IEC ไว้ที่ 0.05 บาท/หุ้น 2,000,000 หุ้น เป็นเงิน 50,000 บาท กอดไว้ยาวๆสัก 5 ปี ราคาขึ้นสัก 0.50-1.00 บาท กำไรเป็นล้าน แบบว่าเป็นคนมองโลกในแง่บวก
รอเป็นครึ่งค่อนวันก็ยังซื้อไม่ได้ ราคาเสนอขายอยู่ที่ 0.06 บาท/หุ้น ตลอดทั้งวัน หันไปหา IRPC ช่วงนั้นราคากำลังขึ้นไม่เหมาะจะซื้อ เหลือบไปเห็น SIRI ราคากำลังลง จาก 4.64 บาท/หุ้น จนถึง 4.60 บาท/หุ้น ตัวนี้น่าลงทุนเหมือนกันมีปันผลมาอย่างต่อเนื่อง 5 ปี เล็งไว้ก่อนแล้วเหมือนกัน
เปลี่ยนใจยกเลิกการซื้อ IEC ไปเข้าคิวซื้อ SIRI ที่ราคา 4.50 บาท/หุ้น 11,500 หุ้น เป็นเงิน 51,865 บาท รวมค่าธรรมเนียม เคาะเข้าคิวซื้อไว้โดยไม่ได้คาดหวังอะไร
จากนั้นก็ออกไปธุระ กลับมาอีกทีตอนตลาดปิด เข้าพอร์ตไปดูปรากฎว่าซื้อได้ ดีใจดังวานรได้แก้ว เป็นหุ้นตัวแรกที่ซื้อได้ด้วยความสามารถเฉพาะตัว หันไปดูราคาปิดตลาดอยู่ที่ 4.36 บาท/หุ้น กลายเป็นว่าซื้อแพงไปอีก
สรุปผลประกอบการของวันนี้พอร์ตแดงเป็นยังไงได้เห็นแล้ว
BMCL
ที่ซื้อไว้เมื่อวานที่ราคา 1.18 บาท/หุ้น วันนี้ปิดที่ 1.12 บาท/หุ้น
ขาดทุนไป 4,950 บาท
SIRI
ที่เพิ่งได้วันนี้ที่ราคา 4.50 บาท/หุ้น ปิดตลาดที่ราคา 4.36 บาท/หุ้น
ขาดทุนไป 1,725 บาท
สรุป ขาดทุน/กำไร -6,675 บาท คงได้นอนกอดกันไปอีกยาว ปรากฎว่าวันนี้หุ้นตกอย่างต่อเนื่องแดงทั้งตลาด
04 เมษายน 2556
(เพิ่มทุน 10,000 บาท)
วันนี้หุ้นยังคงแดงได้อีก และลงได้อีกอย่างต่อเนื่องทั้งช่วงเช้า เหลือเงินใช้จ่ายส่วนตัวอยู่ 1,5000 บาท วันนี้ทำงานอีกวัน พรุ่งนี้เจ้านายไปนอก กลับอีกวันที่ 20 มาทำงานวันที่ 22 อยู่บ้านคงไม่ได้ใช้เงินเท่าไร วันที่ 23 เดือนออก
โอนเงินเข้าพอร์ตไปอีก 10,000 บาท แบบเกือบๆจะขูดเลือดขูดเนื้อ เหลือไว้ใช้ส่วนตัวคนเดียว 5,000 กว่าบาทน่าจะอยู่ได้แบบสบายๆ สงกรานต์ไม่เคยไปไหนอยู่แล้ว เป็นอันตามนั้น....
นั่งดูหุ้นไปด้วยใจนิ่งๆ มีแต่ของถูกๆทั้งตลาด มีเงินแค่หมื่นเดียวจะช้อนตัวไหนดี ที่สุดก็ได้ IEC มาที่ราคา 0.05 บาท/หุ้น 200,000 หุ้น เป็นเงิน 10,000 บาท แบบไม่ต้องเข้าคิวรอนาน
แอบชำเลืองไปเห็นเงินติดพอร์ตอยู่อีก 700 กว่าบาทเลยรีบเคาะซื้อไปอีก 10,000 หุ้น/ 0.05 บาท เป็นเงิน 500 บาท เก็บให้หมดนิดหน่อยก็เอา เป็น 210,000 หุ้น
จากนั้นก็ปิดพอร์ต ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล ต่อให้ถูกแสนถูกยังไงก็ไม่มีปัญญาซื้อ แถมขายก็ไม่ได้อีกด้วย
ปิดตลาด
BMCL
อยู่ที่ 1.12
SIRI อยู่ที่ 4.40
IEC อยู่ที่ 0.05
สรุป ขาดทุน/กำไร -6,215 บาท
05 เมษายน 2556
วันตลาดหุ้นยังคงแดงแรงฤทธิ์ และยังคงลงได้อย่างต่อเนื่องมากกว่าเมื่อวานเสียอีก เล่นเอามือใหม่หัดขับถึงกับใจแกว่ง โดยไม่มีปัจจัยรองรับ อยากขายที่มาช้อนหุ้น ของดีๆทั้งนั้นราคาถูกแสนถูก ช้อนไปสักเดือนขายรวยไม่รู้เรื่อง อย่างนี้นี่เองพวกคนรวยถึงได้รวยกันจากตลาดหุ้น ส่วนพวกรายย่อยได้แต่นั่งมองตาปริบๆ กระสุนหมด ภาษาหุ้นเขาว่างั้น
ไม่ได้การ BMCL ราคาลงจนน่าใจหายเห็นแล้วน้ำลายหก ตัวนี้รักจริงหวังแต่งเสียด้วย ตัดใจหาย IEC ไปที่ราคา 0.05 บาท / หุ้น เท่าทุน ขาดทุนค่าธรรมเนียมนิดหน่อย 30 กว่าบาท ไปช้อน BMCL ได้มาอีก 9,500 หุ้น ที่ราคา 1.08 บาท เป็นเงิน 10260 บาท รวมของเดิม 82,500 หุ้นๆละ 1.18 บาท เป็น 92,000 หุ้นราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.17 บาท/หุ้น แก้สมการเล็กๆน้อยๆ
กว่าจะเล่นหุ้นได้ กว่าจะซื้อ-ขายเป็น หุ้นเขียวหุ้นแดง ระหว่างทางเกิดกระบวนการเรียนรู้มากมาย ที่สำคัญคือได้ค้นพบตัวเองในอีกบางแง่มุม ดูเหมือนว่าจะหลงเสน่ห์เจ้าพอร์ตน้อยๆนี้เสียแล้ว และการรอคอยไม่ว่าจะเนินนานเพียงใดก็ยังคงมีหวังให้เราได้หวังได้เสมอหรือไม่
สรุปตอนนี้ ถือหุ้นไว้ทั้งหมด
BMCL
92,000 หุ้น ที่ราค 1.17 บาท/หุ้น
SIRI 11500 หุ้น ที่ราคา 4.51 บาท/หุ้น รวมค่าธรรมเนียม
ปิดตลาด
BMCL
ปิดที่ 1.09 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.18 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร -11,155 บาท หนักว่าเมื่อวาน...
09 เมษายน 2556
ยังลงไม่หยุดตลาดหุ้นประเทศไทย ต่อให้คิดว่าจะถือยาวแค่ไหนก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้เล็กน้อย ทำใจลุ่มๆนั่งดูได้หน่อย เหมือนโดนจับมัดมือชกยังไงไม่รู้ ไม่ได้กังวลอะไรเรื่องขาดทุนเพราะถือยาวไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว ปัญหาคือไม่มีเงินมาช้อนของดีราคาถูก ให้เสียดายเป็นยิ่งนัก เข้าใจแล้ว....
ประสบการณ์มากเลยตรงนี้ เข้าตลาดหุ้นตอนนี้เหมือนได้อาจารย์ดีก็ไม่ปาน
วันนี้เข้าไปสังเกตการณ์เว็บใหญ่เว็บหนึ่งที่บอร์ดหุ้น เห็นมีแต่คนบ่นเรื่องหุ้นตกสารพัด เครียดไปในทิศทางเดียวกันหมดแบบเป็นงานเป็นการณ์ นึกต่อต้านในใจอยู่เหมือนกัน หุ้นตกแล้วขายไปทำซากอะไร ไม่ขายซะอย่าง ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ส่วนมากที่เดือดร้อนก็น่าจะเป็นพวกซื้อมาขายไป ระยะสั้น เงินได้มาก็ใช้ไป หมดไป ไม่เกิดเป็นมรรคเป็นผลอะไร มันน่าจะผิดวัตถุประสงค์ตั้งแต่เริ่มแล้วนะ หรือยังไงไม่ทราบ ผมอาจคิดผิด สงครามนี้ยังอีกยาวไกล....
ใครก็รู้ว่าทั้ง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และ วาเรน บัฟเฟตต์ ถือได้ว่าประสพความสำเร็จในเรื่องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทุกคนอยากเป็นแบบนั้น แต่หาคนทำตามได้ยากยิ่ง ดูเหมือนว่าแนวทางของท่านทั้งสอง จะมีก็แต่พวกคนรวยๆ เท่านั้นที่เอาเยี่ยงเอาอย่าง นั่นเพราะเขามีเงิน จะถือยาวชั่วชีวิต จะช้อนตอนราคาตกขนานไหนก็ย่อมได้
หรือจริงๆแล้ว วงการนี้มันไม่เหมาะสำหรับคนระดับกลางๆ ถึงล่างๆ มาแต่แรกแล้ว เรามันแค่พวกแมงเม่าอย่างที่เขาว่ากัน
หันไปเห็นเงินค้างอยู่ในพอร์ตอีก 230 กว่าบาท กดซื้อ BMCL เข้ามาอีก 200 หุ้น ที่ราคา 1.08 บาท/หุ้น ยังไงก็ยังได้ทำอะไรบ้าง ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย โอกาสมีแค่นี้ ก็คว้าไว้เท่าที่ได้ นอกนั้นก็คงต้องปล่อยวางไปตามสภาพ....
ตอนนี้ก็เลยถือ BMCL รวมของเดิม 92000 หุ้น เป็น 92200 หุ่น ที่ราคา 1.17 บาท/หุ้น
ปิดตลาด
BMCL
ปิดที่ 1.07 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 3.78 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร -17,615 บาท หนักว่าครั้งไหนๆ ในชีวิตตั้งแต่เล่นหุ้นมาเลยนะเนี่ย...
10 เมษายน 2556
สถานการณ์หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย เริ่มดีขึ้นมาหน่อย จะด้วยอะไรก็ช่าง ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ได้คือประสบการ์ล้วนๆ ได้ฝึกจิตฝึกใจ จะอย่างไรก็ยังต้องถือว่าได้บทเรียน อันที่จริงก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร ยังคงใช้ชีวิตปกติสุขดี ก็เงินมันเย็น....
เงินเก็บทุกเดือน 30,000-50,000 บาท จากที่เคยแช่แข็งไว้ คงเอามาฝากไว้ในพอร์ต เตรียมช้อนหุ้นรอบใหม่ ในราคาถูกๆ ยังไงก็ต้องมีอีกแน่ แต่ก่อนก็เคยได้ข่าวอยู่บ่อยๆน่าจะดีกว่าทยอยซื้อทีละเล็กละน้อย คงต้องทบทวนกันอีกที
ปิดตลาดวันนี้ด้วยพอร์ตแดงๆ อีกเช่นเคย
BMCL
ปิดที่ 1.15 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 3.90 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร -8,859 บาท
BMCL ตั้งแต่ซื้อเข้ามา ไม่เคยได้ขึ้นแม้แต่หน่อยเดียว
SIRI ก็ด้วย ตั้งแต่วันแรก
11 เมษายน 2556
จากตลาดหุ้นที่ผันผวน มาตลอดตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการ ลงแล้วก็ยังลงได้อีกแบบต่อเนื่อง วันนี้กลับดิ่งขึ้น ขึ้นแล้วก็ขึ้นอีก อย่างนี้กระมังที่เรียกว่าผันผวน ได้แต่กอดอกมองดูความเป็นไป มันลงได้มันก็ขึ้นได้ มันขึ้นได้เดี๋ยวมันก็ลง
ปิดตลาด
BMCL
ปิดที่ 1.45 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.16 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร +21,792 บาท ซะงั้น....
12 เมษายน 2556
นอนกอดหุ้น BMCL อย่างมีความสุขไปตามอัตภาพ จากการวิเคราะห์แบบคาดเดา ดูเหมือนว่าหุ้นจะขึ้นแบบไม่ค่อยสมเหตุสมผล เปลี่ยนแผนการมาเล่นขายทำกำไรสักรอบก็ไม่เลว เก็บเงินไว้ช้อนตอนหุ้นตกสักตรงประมาณที่ราคาเดิมก็น่าจะยังพอมีโอกาส
ตั้งราคาขายเข้าคิวรอไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ที่ 1.50 บาท/หุ้น ถ้ายังขึ้นต่ออีกก็ขาย ถ้าลงมาที่ 1.40 บาท/หุ้น ก็ขายอีกเหมือนกัน ไว้เป็นสิริมงคลแก่พอร์ตน้อยๆ ได้เติบโตขึ้นสักนิดสักหน่อยก็ยังดี
ก่อนตลาดเปิด BMCL มีคนตั้งราคารอซื้ออยู่แล้วเลยที่ 1.50 บาท/หุ้น สองแสนกว่าหุ้น เปิดตลาดเมื่อไรแม่สาวน้อยของผมคงหายวับไปกับตา เกิดไม่อยากขายขึ้นมาอีก ยกเลิกการขายเป็นการเร่งด่วน
ได้เวลาตลาดเปิด BMCL เปิดราคาอยู่ที่ 1.41 บาท/หุ้น จากนั้นพรวดพราดลงมาเรื่อยๆอีก ไม่ถึง 10 นาที อยู่ที่ 1.34 บาท/หุ้น ตัดสินใจเคาะขายคิดว่าน่าจะลงมาอีกอาจซ้อนซื้อเข้ามาได้อีกที่ราคาเดิมหรือต่ำกว่านั้น บังอาจเดาใจตลาด...
ตลอดช่วงเช้าราคา BMCL ขยับอยู่แถวๆ 1.34-1.35 บาท/หุ้น แบบนิ่งๆ ในเมื่อไม่สามารถไถ่เธอคืนมาได้ต้องจำตัดใจ หันไปช้อน SIRI เข้ามาอีก 11,500 หุ้น/4.14 บาท รวมกับของเดิมที่ถืออยู่แล้ว 11,500 หุ้น/4.51 บาท เป็น 23,000 หุ้น เฉลี่ยราคา 4.33 บาท/หุ้น แก้สมการไปเล็กน้อย
ปิดตลาด
SIRI ปิดที่ 4.12 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร
-4,830 บาท
กำไรจากการขาย
BMCL
+15,227.18 บาท
เหลือเงินติดพอร์ตอยู่อีก 75,663.94 บาท
พอร์ตน้อยๆ ราคา 160,000 บาทค่อยเติบโต มีมูลค่าขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนน้องนาง BMCL ราคาปิดตลาด 1.39 บาท/หุ้น คงต้องปล่อยเธอไปตามทางของเธอ และทำวันนี้ให้ดีที่สุด....
14 เมษายน 2556
(การบ้านช่วงตลาดปิด)
เริ่มมีสหายมาให้ศีลให้พร จึงได้ทำการบ้านเล็กน้อยในช่วงวันหยุด ที่เว็บ www.settrade.com เข้าไปขุดไปค้นหาหุ้นตัวใหม่ เน้นไปที่ราคาถูกเหมาะสมกับเงินลงทุนอันน้อยนิด เข้ากับหลักการหลวมๆเฉพาะตัวที่วางไว้
ในที่สุดก็ไปสะดุดเข้ากับ SIAM - บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทั้งราคาต่อหุ้น ผลประกอบการ เงินปันผล 5 ปีต่อเนื่อง เกิดเป็นรักแรกพบ เปิดตลาดหลังสงกรานต์เมื่อไหร่ คงต้องส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอมาเป็นหวานใจคนใหม่ให้กับพอร์ตน้อยๆ ได้ไม่เงียบเหงา
เปรียบเทียบราคาหุ้น SIAM เมื่อ 6 เดือนก่อน เคยขึ้นไปถึง 4.01 บาท/หุ้น และล่าสุดปิดตลาดที่ 2.78 บาท/หุ้น มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นน่าสนใจทีเดียว
เงินปันผลต่อเนื่อง 5 ปี ต่อหุ้น
ตัวเลขผลประกอบการต่างๆ ปีที่แล้วขาดทุนกำไรอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีปันผล อยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CONSUMP) ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน (HOME) เข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยนอนาคตน่าจะสดใส
ถือไว้ยาวๆ หุ้นลงซื้อสะสมเพิ่ม หรือจะถือไว้สักปีรอรับเงินปันผล ขายออกตอนราคาหุ้นขึ้นทำกำไร แผนการในชั้นแรก (หลักการหลวมๆ) ไม่ขายขาดทุน (หลักการเข้มงวด)
ยังมีหุ้นอีก 2 ตัว ราคาถูกถึงถูกมาก ที่เล็งๆไว้เก็งกำไรระยะยาว
N-PARK - บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน)
เปรียบเทียบราคาหุ้น N-PARK เมื่อ 6 เดือนก่อน 0.02 บาท/หุ้น และล่าสุดปิดตลาดที่ 0.20 บาท/หุ้น คิดเล่นๆว่าถ้าถือไว้เมื่อหกเดือนก่อนสัก 1,000,000 หุ้นขายตอนนี้ ได้ 200,000 บาท เชียวนะลงทุนแค่ 20,000 บาท ต้องมีคนรวยไปแล้วแน่ๆ จากหุ้นตัวนี้
ตัวเลขผลประกอบการ ก็ดีขึ้นแม้จะไม่มีปันผลมาอย่างต่อเนื่อง อันนี้น่าจะเก็บสะสมไว้เก็งกำไรได้ พวกอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้จนถึงเข้าประชาคมอาเซี่ยน ตลาดน่าจะยังพอไปได้ ข่าวว่ามีโครงการใหญ่เข้ามาเหมือนกัน
IEC - บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
ราคาหุ้นยังถือว่าต่ำมากถึงมากที่สุดในตลาด IEC ตัวนี้เคยซื้อเข้ามาแล้วครั้งหนึ่งขายเท่าทุนไปช้อน BMCL เพิ่มตอนราคาถูก ซื้อเก็บสะสมไว้เก็งกำไรก็น่าจะพอมีกำไร
ตัวเลขผลประกอบการขาดทุนมาตลอด ไม่มีเงินปันผลอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน แต่สินทรัพย์ยังคงมากกว่าหนี้สิ้น รายได้ก็ยังมีอยู่ระดับพันล้าน ผู้บริหารบริษัทคงไม่ปล่อยให้ล้มละลายง่ายๆ ถือไว้ยาวๆ มีเงินเก็บเข้าแบบออมหุ้นก็อาจทำกำไรได้มากโข ถือว่าคุ้มค่าน่าเสี่ยง
เป้าหมาย คือเพิ่มเงินลงทุนจนครบ 300,000 บาท ไม่รวมผลกำไร/ขาดทุนอันเกิดขึ้นระหว่างทาง ค่อยๆเก็บออมหุ้นทีละเล็กทีละน้อยช่วงราคาตกหรือที่ราคาเดิม ถือยาวๆ หุ้นตัวไหนราคาขึ้นพอทำกำไรได้ระดับหนึ่งอาจขายออก หรือไม่ก็ถือยาวไปเลยถ้าใจแข็งพอ(ไม่โลภ) ถือว่าเข้าหลักการแบบหลวมๆที่วางไว้ ตราบเท่าที่ยังไม่ย่อยยับ(หมดตูด)
17 เมษายน 2556
ข่าวราคาทองคำที่ดิ่งลงเหวทำลายสถิติในช่วงหลายปีเป็นข่าวใหญ่สำหรับนักลงทุน พวกที่มีเงินช้อนซื้อไว้ช่วงนี้สักระยะคงได้กำไรงาม ส่วนพวกที่ถือไว้ตอนช่วงราคาตลาดก่อนหน้า คงได้บาดเจ็บสาหัสชนิดเลือดซิบๆ
จากที่ทำการบ้านมาเมื่อช่วงวันหยุด ได้เวลาตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ....
เคาะเข้าคิวรอซื้อ SIAM มาที่ราคาเปิดตลาดหุ้นละ 2.80 บาท/10,000 หุ้น (28,000 บาท) ส่วน N-PARK ราคายังไม่เหมาะสมที่จะซื้อเห็นว่าน่าจะยังลงได้อีกรอสักระยะคงไม่เป็นไร
IRPC บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นอีกตัวที่สนใจตั้งแต่เริ่มเรียนรู้การเล่นหุ้น เนื่องจากเป็นบริษัทเกี่ยวกับพวกพลังงานทดแทน ปตท.ถือหุ้นใหญ่ แม้จะยังไม่มีเงินปันผลแต่อนาคตราคาหุ้นน่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ราคากำลังน่าซื้อ ว่าแล้วก็เคาะซื้อมาไว้ในครอบครอง ที่ราคาหุ้นละ 3.88 บาท/100,000 หุ้น (รวมค่าธรรมเนียม 3.89 บาท/หุ้น 38,900 บาท) ราคาหุ้นเคยขึ้นไปถึง 4 บาทกว่าเมื่อเดือนก่อน
เหลือเงินติดพอร์ตอยู่อีกเล็กน้อยได้ SSI มาอีกที่ราคาหุ้นละ 0.59 บาท/13,500 หุ้น (7,965 บาท) อันนี้เป็นของ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับพวกอุตสาหกรรมเหล็ก เคยเข้าไปดูผลประกอบการและสินทรัพย์มาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นเข้าทางแม้จะไม่มีปันผลมา 5 ปีย้อนหลังก็ตาม ปัจจุบันราคาไม่ค่อยจะขยับขึ้นลงแบบผันผวน ความเสี่ยงน่าจะไม่มากนัก ถือไว้ยาวๆคงได้เกิดเป็นมรรคเป็นผล
เหลือเศษๆ เงินติดก้นพอร์ตอยู่อีก 700 กว่าบาท เคาะซื้อ IEC เข้ามาเก็บไว้อีกที่ราคา 0.05 บาท/14,600 หุ้น (730 บาท) ใช้เงินทำงานหนักไปหรือเปล่าไม่ทราบ เป็นอันว่าวันนี้ช๊อปกระจาย มีหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่มอีก 4 ตัว
ปิดตลาด (แบบมีครบทุกสี)
SIRI ปิดที่ 3.98 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.82 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.86 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.57 บาท/หุ้น
IEC
ปิดที่ 0.05 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 8420 บาท
18 เมษายน 2556
ปิดตลาด
IEC
ปิดที่ 0.05 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.86 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.80 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 3.98 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.57 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 8620 บาท
19 เมษายน 2556
ปิดตลาด
IEC
ปิดที่ 0.05 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.88 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.80 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.10 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.58 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 5,525 บาท
22 เมษายน 2556
ปิดตลาด
IEC
ปิดที่ 0.04 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.88 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.82 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.12 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.58 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 5,011 บาท
23 เมษายน 2556
ปิดตลาด
IEC
ปิดที่ 0.05 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.86 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.80 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.02 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.58 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 7,565.00 บาท
24 เมษายน 2556
ปิดตลาด
IEC
ปิดที่ 0.05 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.86 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.78 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.12 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.59 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 5,330.00 บาท
25 เมษายน 2556
(เพิ่มทุน 20,000 บาท)
โอนเงินเก็บเข้าพอร์ต 20,000 บาท วันนี้ตลาดหุ้นเริ่มเข้าสู่ขาขึ้น เคาะเข้าคิวรอช้อนหุ้น N-PARK ไว้ที่ราคา 0.17 บาท/20,000 หุ้น กับ LHBANK ที่ราคา 1.40 บาท/10,000 หุ้น จนตลาดปิดก็ไม่มีใครกล้าเสนอขาย
ปิดตลาด (เงินลงทุนเพิ่มเป็น 180,000 บาท ณ วันนี้)
IEC
ปิดที่ 0.04 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.86 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.80 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.30 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.58 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 1,271.00 บาท
26 เมษายน 2556
(เพิ่มทุน 10,000 บาท)
วันนี้กระทำเรื่องไว้มากมายราวกับว่าเป็นนักธุรกิจร้อยล้านพันล้าน เข้าข่ายเป็น "แมงเม่า" เข้าไปทุกที
หลังโอนเงินเข้าพอร์ตไปอีก 10,000 บาท รวมกับเมื่อวานอีก 20,000 บาท เป็น 30,000 บาท รวมเป็นเงินลงทุนสิ้น 190,000 บาทเข้าไปแล้ว
เคาะขายหุ้น IEC โดยไม่ต้องรอเข้าคิวทันทีเมื่อตลาดเปิด ที่ราคา 0.04 บาท/14,600 หุ้น ซื้อเข้ามาที่ราคา 0.05 บาท ยอมผิดหลักการอันเข้มงวดขาดทุนไป 148.22 บาท เพราะคิดว่าจะไม่คบค้าสมาคมด้วยอีกแล้วกับหุ้นตัวนี้ รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมส์กับผียังไงก็ไม่รู้
เห็นหุ้น KC กำลังขึ้นพรวดๆ จาก 1.30 บาท/หุ้น มาถึง 1.40 บาท/หุ้น ในเวลาไม่ถึง 10 นาที รีบกระโดดเข้ากองไฟไปช้อนรับไปทันทีที่ราคา 1.40 บาท/20,000 หุ้น ซื้อเสร็จก็ไปก็ไปเคาะเข้าคิวรอขายไว้ที่ 1.50 บาท/หุ้น หวังทำกำไรระยะสั้นถึงสั้นที่สุดประมาณว่าอยากลองเล่นกับไฟ จากนั้นราคาหุ้น KC ก็ร่วงลงมาทันทีแบบต่อเนื่องมาอยู่แถวๆ 1.32-1.35 บาท/หุ้น ไม่เคยขึ้นไปถึง 1.40 บาท/หุ้นอีกเลย สิ่งที่เรียกขานกันว่าเป็นแมงเม่าบัดนี้เข้าใจถ่องแท้และลึกซึ้ง....
จากนั้นเคาะขายหุ้น SSI แบบยอมขาดทุนไปอีกที่ราคา 0.58 บาท/13,500 หุ้น /ขาดทุนไปอีก 161.68 บาท ซื้อเข้าที่ราคา 0.59 บาท/หุ้น ผิดหลักการอันเข้มงวดไปอีกหนึ่งรายการ เพราะตั้งแต่ซื้อไว้ราคาไม่เคลื่อนไหวไปไหนเลย
เคาะขายหุ้น SIAM เท่าทุนไปอีกที่ 2.80 บาท/ 10,000 หุ้น ด้วยเหตุผลเดียวกับ SSI และไม่ค่อยมีการซื้อขายเกิดขึ้น ขาดทุนค่าธรรมเนียมไปอีก 94.54 บาท แต่เชื่อหรือไม่ว่าหลังจากขายไปแล้วไม่ถึง 10 นาที ราคาหุ้นเกิดมีการขยับขึ้นไปถึง 3.10 บาท/หุ้นที่เดียว จากนั้นก็ลงมาอยู่ที่แถวๆ 3.02-3.04 บาท/หุ้น ซะงั้น....
หุ้นอสังหาฯ กำลังมาแรงช่วง 2-3 วันนี้ SIRI ที่เคยซื้อไว้ 4.33 บาท/23,000 หุ้น และราคาลงมาอย่างต่อเนื่องจนต่ำกว่า 4.00 บาทมาแล้ว วันนี้ได้เวลาเคาะขายที่ 4.40 บาท/23,000 หุ้น ทำกำไรมาเล็กน้อย 1501.35 บาท บวกลบกับที่ขายตัวอื่นขาดทุนไปก่อนหน้าก็ยังนับว่ามีกำไรเหลืออยู่ 1096.91 บาท พอให้ได้ทำใจไม่ถึงกับต้องเวทนาตัวเอง
มียอดเงินเป็นแต่ตัวเลขเข้าพอร์ตมาอีกแสนกว่า จะปล่อยไว้เฉยๆย่อมไม่ดี ณ บัดนั้น ไปเคาะซื้อหุ้น IRPC มาสะสมเพิ่มอีกที่ราคาเดิม 3.88 บาท/35,800 หุ้น เนื่องจากเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผลปีละ 2 ครั้งมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ปตท. ถือหุ้นใหญ่ ทรัพย์สินเป็นแสนล้านบาท คิดว่าอนาคตสัก 5- 10 ปี มูลค่าหุ้นน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว รวมเป็นตอนนี้ถือหุ้น IRPC ไว้ทั้งสิ้น 45,800 หุ้นถ้วนๆ ที่ราคาหุ้นละ 3.89 บาท รวมค่าธรรมเนียม และจะยังซื้อเพิ่มอีกเรื่อยๆที่ราคาเดิม หรือตอนช่วงที่ราคาตก (ถ้ามีเงิน) หุ้นจะเขียวจะแดงไม่มีผลในเชิงจิตวิทยาแต่อย่างไร สำหรับ IRPC มีไว้แล้วรู้สึกอุ่นใจ...
และทุกอย่างก็เป็นได้แค่ความคิดและหลักการที่ไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้จริงในที่สุด เมื่อหุ้น KC ที่ซื้อไว้ช่วงเช้า 1.40 บาท/20,000 หุ้น คิดว่าจะทำกำไรระยะสั้นร่วงลงมาถึงที่ 1.25-1.26 บาท/หุ้น ทำให้อยู่ไม่เป็นสุขเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องถือหุ้น KC ไว้นานเกิน 1 วันอยู่ก่อนแล้ว คิดแก้สมการไปตามประสา เคาะขายเท่าทุน IRPC ไปที่ 3.88 บาท/45,800 หุ้น โดยหวังว่าจะเอาไปช้อน KC ที่ราคา 1.25-1.26 บาท/หุ้น เพื่อช่วยเฉลี่ยราคาของเดิมที่ซื้อไว้แค่ 1.40 บาท/20,000 หุ้น จากนั้นจะได้ขาย KC ออกแบบขาดทุนนิดหน่อย ไม่ก็อาจกำไรนิดหน่อย ถือเป็นการล้างพอร์ตไปเลย ที่เหลือค่อยว่ากัน
ทำได้แค่เพียงขาย IRPC ไปที่ 3.88 บาท/45,800 หุ้น มัวแต่กดเครื่องคิดเลขคำนวนจำนวนหุ้นที่จะซื้อ ตลาดก็ปิด เป็นอันว่าวันนี้ได้สร้างวีรกรรมไว้อย่างใหญ่หลวง ขาดทุนไปอีก 600.09 บาท จากกำไรเมื่อช่วงเช้า 1096.91 บาท เหลืออยู่แค่ 496.28 บาท กลายเป็นแมงเม่าเต็มตัวไปแล้ว... (ขอแอบเซ็งเงียบๆคนเดียว)
ปิดตลาด แบบศพไม่ค่อยจะสวยเลย (เงินลงทุนเพิ่มเป็น 190,000 บาท ณ วันนี้)
IEC
ปิดที่ 0.04 บาท/หุ้น
IRPC ปิดที่ 3.88 บาท/หุ้น
SIAM ปิดที่ 2.90 บาท/หุ้น
SIRI ปิดที่ 4.34 บาท/หุ้น
SSI ปิดที่ 0.59 บาท/หุ้น
หุ้นที่เหลือติดพอร์ตอยู่เพียงหนึ่งเดียว KC ปิดที่ 1.26 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร - 2,800.00 บาท
2 เมษายน 2556
ความเดิมตอนที่แล้ว คือทำหลุดๆ รั่วๆ ขายหุ้นไปแทบจะล้างพอร์ตจนยากแก่การเยียวยา ถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญในชีวิตการเล่นหุ้น แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามวิถีทางที่ได้ออกแบบไว้แล้ว ก็ต้องก้าวไปตามยถากรรม...
ตัดสินใจเก็บหุ้น KC ไว้เป็นอนุสติ จะไม่มีการแก้สมการใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่านานแค่ไหนราคาหุ้นขึ้นพอเท่าทุนหรือมีกำไรเล็กน้อยคงได้ขายทิ้ง...
เปิดตลาดช่วงเช้า หุ้น IRPC จากที่เคยซื้อขายอยู่ที่ 3.88 บาท/หุ้น ไม่เคยขยับไปไหน ขึ้นมาเขกกะโหลกเล่นถึง 4 บาทกว่า ส่วน KC ก็ยังอยู่ที่เดิม...
วันนี้ซื้อของแพงแก้เคล็ดขัดยอกเข้ามา 4 รายการดังนี้
BMCL
หวานใจคนเดิม ที่ราคา 1.43 บาท/20,600 หุ้น
LHBANK
ที่ราคา 1.45 บาท/20,000 หุ้น
TMB
ที่ราคา 2.74 บาท/20,000 หุ้น
LEE
ที่ราคา 3.21 บาท/20,000 หุ้น (รวมค่าธรรมเนียม)
3 รายการหลังเป็นหุ้นมีปันผลต่อเนื่องทุกปี ของใหม่ที่ซื้อเข้าวันนี้คงต้องทำตามหลักการแบบเคร่งครัดเสียที ไหนๆเงินก็หมดพอร์ตแล้ว ส่วน KC ก็ตามนั้น สังหรณ์ใจว่าคงได้ถือยาวโดยไม่ตั้งใจเพราะก่อนหน้านี้ราคาอยู่แถวๆ 1.00-1.01 บาท/หุ้น เกรงว่าจะเป็นหุ้นที่ปั่นลากขึ้นมา ล่อแมงเม่า....
อารมณ์ตลาดยากจะเข้าถึง หันมาควบคุบอารมณ์ตัวเองไม่ให้อ่อนไหวไปกับตลาดย่อมดีกว่า ทั้งหมดถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ สำหรับมือใหม่ ถึงวันนี้ก็ถือว่าได้ลิ้มลองมาแล้วครบทุกรสชาติ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง แถมงี่เง่าเอาแต่ใจ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
LHBANK - บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชมเว็บไซต์ >>TMB - ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ชมเว็บไซต์ ชมเว็บไซต์ >>
LEE - บริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ชมเว็บไซต์ >>
BMCL- บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ชมเว็บไซต์ >>
KC - บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ชมเว็บไซต์ >>
เกินที่จะคาดเดาได้จริงๆ สภาวะอารมณ์ตลาดหุ้น ช่างสุดแสนที่จะผันผวน BMCL ที่ไม่ได้คาดหมายอะไรเลยในระยะสั้นๆ ยังสามารถขึ้นได้อีก ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 1.53 บาท/หุ้น และปิดอยู่ที่ราคานั้น ขึ้นพรวดพราดน่ากลัวมาก เฝ้ามองเป็นระยะๆ ด้วยความนิ่งอย่างที่สุด เพราะไม่นานเกินรอมันก็คงจะร่วงลง อาจพรุ่งนี้ก็ไม่แน่....
ปิดตลาด ขาดทุนแบบเป็นที่น่าพอใจ
BMCL
ปิดที่ 1.53 บาท/หุ้น
KC ปิดที่ 1.27 บาท/หุ้น
LEE ปิดที่ 3.18 บาท/หุ้น
LHBANK ปิดที่ 1.45 บาท/หุ้น
TMB ปิดที่ 2.74 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร -1,140.00 บาท
29 เมษายน 2556
ปิดตลาด
BMCL
ปิดที่ 1.47 บาท/หุ้น
KC ปิดที่ 1.23 บาท/หุ้น
LEE ปิดที่ 3.18 บาท/หุ้น
LHBANK ปิดที่ 1.46 บาท/หุ้น
TMB ปิดที่ 2.74 บาท/หุ้น
สรุป ขาดทุน/กำไร -2,976.00 บาท
» แสดงผลประกอบการ ณ ปัจจุบัน
พอร์ตน้อยๆ
|| ติดตามบันทึกการเล่นสด เดือนพฤษภาคม 2556 >>>