ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
รวมธรรมบรรยายของ หลวงพ่อชา สุภัทโท
ธรรมะเชิงอุปมาอุปมัย
รวบรวมคำอุปมาของ หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร)
3
เลื่อย
แต่เมื่อมันรู้เห็นหมดแล้วธรรมะก็ไม่ได้แบกเอาไปด้วยอย่างเลื่อยคันนี้
เขาจะเอาไปตัดไม้ เมื่อเขาตัดไม้หมดแล้ว อะไรก็หมดแล้ว
เลื่อยก็เอาวางไว้เลย ไม่ต้องไปใช้อีก เลื่อยก็คือธรรมะ
ธรรมะต้องเอาไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุมรรคผล
ถ้าหากว่ามันเสร็จแล้ว ธรรมะที่อยู่ก็วางไว้
เหมือนเลื่อยที่เขาตัดไม้ ท่อนนี้ก็ตัด ท่อนนี้ก็ตัด
ตัดเสร็จแล้วก็วางไว้ที่นี่ อย่างนั้น เลื่อยก็ต้องเป็นเลื่อย
ไม้ก็ต้องเป็นไม้ นี่เรียกว่าถึงหยุดแล้ว ถึงจุดของมันที่สำคัญแล้ว
สิ้นการตัดไม้ ไม่ต้องตัดไม้ ตัดพอแล้ว เอาเลื่อยวางไว้
กบกินเบ็ด
สัตว์ทั้งหลายเมื่อไปติดบ่วงเข้าแล้วลำบาก มันผูกไว้ดึงไว้
รอจนเจ้าของแร้วมา เหมือนกับนกไปติดแร้วเข้า
แร้วมันรัดถูกคอดิ้นไปไหนก็ไม่หลุด ดิ้นปัดไปปัดมาอย่างนั้นแหละ
มันผูกไว้คอยนายพรานเจ้าของแร้ว ครั้นเจ้าของมาเห็นก็จบเรื่อง
นั่นแหละพญามาร นกกลัวมาก สัตว์ทั้งหลายกลัวมาก เพราะหนีไปไหนไม่พ้น
บ่วงก็เช่นกัน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
เป็นบ่วงผูกเอาไว้ เมื่อเราติดในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
ธรรมารมณ์ก็เหมือนกับปลากินเบ็ด รอให้เจ้าของเบ็ดมา
ดิ้นไปไหนก็ไม่หลุด อันที่จริงแล้ว มันยิ่งกว่าปลากินเบ็ด
ต้องเปรียบได้กับกบกินเบ็ดเพราะกบกินเบ็ดนั้น มันกินลงไปถึงไส้ถึงพุง
แต่ปลากินเบ็ด ก็กินอยู่แค่ปาก
รูลึกหรือว่าแขนสั้น
คำสอนของพระ ตรง ง่าย แต่ยากกับคนที่จะปฏิบัติ
เพราะรู้ไม่ถึง เหมือนกับรู คนตั้งร้อยพันคนโทษว่ารูมันลึก
เพราะล้วงไปไม่ถึง ที่จะว่าแขนของตนสั้นไม่ค่อยมี
พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไม่ให้ทำบาปทั้งปวง
เราข้ามไปพากันทำบุญ แต่ไม่พากันละบาป ก็เท่ากับว่ารูมันลึก
ที่จะว่าแขนของตนสั้นนั้นไม่มี
โฮ่ง ๆ ๆ
อาตมาเคยเห็นหมาตัวหนึ่ง เอาข้าวให้มันกิน
มันกินแล้วกินไม่หมด มันก็นอนเฝ้าอยู่ตรงนั้น อิ่มจนกินไม่ได้แล้ว
ก็ยังนอนเฝ้าอยู่ตรงนั้นแหละ นอนซึม
ประเดี๋ยวก็ชำเลืองตาดูอาหารที่เหลือ
ถ้าหมาตัวอื่นจะมากินไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ก็ขู่
โอ้!...ไก่จะมากินก็โฮ่ง ๆ ๆ ท้องจะแตกอยู่แล้ว จะให้เขากินก็ไม่ได้
หวงไว้
มาดูคนเหมือนกัน ถ้าไม่รู้จักธัมมะธัมโม
ก็ไม่รู้จักผู้น้อยผู้ใหญ่ ถูกกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ
เข้าครอบงำจิตใจ แม้จะมีสมบัติมากมายก็หวงไว้ ไม่รู้จักเฉลี่ยเจือจาน
แม้แต่จะให้ทานแก่เด็กยากจนหรือคนชราที่ไม่มีจะกินก็ยาก
อาตมามาคิดดูว่า มันเหมือนสัตว์จริงหนอ
คนพวกนี้ไม่มีคุณสมบัติของมนุษย์เลย พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
มนุษย์เดรัจฉาโน มนุษย์เหมือนสัตว์เดรัจฉาน เป็นอย่างนั้น
เพราะขาดความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
สุนัขบนกองข้าวเปลือก
เปรียบกับสุนัขนอนอยู่บนกองข้าวเปลือก ท้องร้องจ๊อก จ๊อก
มันก็นอนอยู่ จิตวิตก จะไปกินที่ไหนหนอ ท้องมันหิว
ก็โจนออกไปจากกองข้าวเปลือก วิ่งไปหาเศษอาหาร
อาหารมีอยู่ แต่มันไม่รู้จัก เพราะไม่เห็นข้าว
มันกินข้าวเปลือกไม่ได้ความรู้มีอยู่ ไม่ปฏิบัติก็ไม่รู้เรื่อง
โง่ขนาดสุนัขมันนอนบนกองข้าวเปลือก น่าสงสาร
ข้าวสารมีอยู่แต่เปลือกมันปิด
เหมือนกับวิมุตติมีอยู่แต่สมมติมันปิด
» ตามดูจิต
» ธาตุ 4
» มรรค 8