ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
อินทรียสังวร
หัดทำสติให้มีประจำใจรักษาใจ คอยระลึกรู้คอยเตือนใจอยู่เสมอดั่งนี้
นี่แหละเรียกตัว อินทรียสังวร คือความสำรวมอินทรีย์ อินทรีย์แปลว่าสิ่งที่เป็นใหญ่
ในที่นี้หมายถึงตาหูจมูกลิ้นกายและมนะคือใจ เพราะว่าตาเป็นใหญ่ในการเห็นรูป
หูเป็นใหญ่ในการฟังเสียง ลิ้นเป็นใหญ่ในการลิ้มรส จมูกเป็นใหญ่ในการดมกลิ่น
ลิ้นเป็นใหญ่ในการลิ้มรส กายเป็นใหญ่ในการถูกต้อง
และมโนเป็นใหญ่ในการรู้เรื่องคิดเรื่อง
และนอกจากนี้หากไม่มีสติคอยรักษาอยู่ดังกล่าว ตา หู จมูก ลิ้น กาย
และมนะคือใจ ยังมาเป็นใหญ่ครอบงำจิตใจอีกด้วย
ทำให้จิตใจนี้ต้องปฏิบัติไปตามอำนาจของกิเลส เช่นว่าอยากดูอะไรทางตา ก็ต้องไปดู
อยากได้ยินอะไรทางหูก็ต้องไปให้ได้ยินได้ฟังเหล่านี้เป็นต้น
ก็ยิ่งเป็นใหญ่ครอบงำจิต
คนเราจึงต้องปฏิบัติเอาอกเอาใจตาหูจมูกลิ้นกายและมนะคือใจอยู่ตลอดเวลา
ก็ล้วนแต่หาเรื่องต่างๆ มาป้อนให้ตาหูจมูกลิ้นกายและมนะคือใจทั้งนั้น
และเมื่อดูลึกซึ้งเข้าไปอีกแล้ว ก็คือป้อนให้แก่ตัวกิเลสนี้เอง ซึ่งตั้งอยู่ในจิตใจ
เพราะเหตุที่รับอารมณ์ทั้งหลายทางตาหูเป็นต้นนั้นเข้ามาปรุงจิตใจให้เป็นกิเลส
แล้วก็ต้องไปปฏิบัติเอาอกเอาใจกิเลส มาป้อนกิเลส ตามที่กิเลสต้องการ
ให้มีสติพร้อมทั้งปัญญารับรู้ดั่งนี้อยู่เสมอ
ในเวลาที่เห็นอะไรได้ยินอะไรทุกอย่างก็เป็นอินทรียสังวร
ซึ่งเป็นศีลที่อยู่ในระหว่างของตัวศีลภายนอกเองกับศีลที่เป็นตัวศีลภายใน
ตลอดจนถึงสมาธิ
และนอกจากนี้ก็ต้องตั้งสติไว้ในทางที่ดีที่ชอบ อันเรียกว่าสัมมาสติ
ในมหาสติปัฏฐานสูตร หรือในสติปัฏฐานที่ตรัสสอนให้ตั้งสติทำสติให้ปรากฏ
ตรัสสอนให้หัดทำสติตั้งอยู่ ในกาย ในเวทนา ในจิต ในธรรม 4 ประการเป็นหัวข้อใหญ่
และได้ตรัสสอนจำแนกออกไป ในข้อกายนั้นก็ตั้งต้นแต่ให้กำหนดลมหายใจเข้าออก
จิตที่เคยคิดไปในเรื่องต่างๆ ภายนอกต่างๆ นั้น
ก็ให้นำกลับเข้ามาหัดคิดกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของตนเอง กล่าวสั้นๆ ในวันนี้ว่า
หายใจเข้าก็ให้รู้ หายใจออกก็ให้รู้ ตั้งต้นแต่ตรัสสอนให้เข้าไปสู่ป่า
เข้าไปสู่โคนไม้ เข้าไปสู่เรือนว่าง คือเข้าไปสู่ที่สงบ
ดั่งในที่นี้แม้จะอยู่ด้วยกันมาก ก็กล่าวได้ว่าเป็นเรือนว่างได้
เพราะว่าต่างคนต่างตั้งอยู่ในความสงบ ไม่แสดงความไม่สงบทางกายทางวาจา
เพราะฉะนั้นก็ชื่อว่าเรือนว่างได้ คือเข้าไปสู่ที่สงบนั้นเอง
และตรัสสอนให้นั่งขัดบัลลังก์คือขัดสมาธิหรือขัดสะหมาด
ที่นิยมปฏิบัติกันก็ใช้ขัดสะหมาด เท้าขวาทับเท้าซ้าย และตั้งกายตรง
มือทั้งสองวางให้นิ้วหัวแม่มือชนกัน มือขวาทับ มือซ้าย หรือจะวางให้นิ้ว
เพียงให้นิ้วชนกันก็ได้ หรือจะวางให้ห่างกันก็ได้ ไม่ได้มีกำหนดไว้
ดำรงสติจำเพาะหน้า กำหนดเข้ามาที่ลมหายใจเข้าออก
ที่ปลายจมูกหรือที่ริมฝีปากเบื้องบนอันเป็นจุดที่ลมกระทบ หายใจเข้าก็ให้รู้
หายใจออกก็ให้รู้
และหากว่าจะใช้วิธีนับ หายใจเข้านับหนึ่ง หายใจออกนับหนึ่ง
เรื่อยไปจนถึงสิบแล้วก็ตั้งต้นใหม่ดั่งนี้ก็ได้ หรือจะไม่ใช้วิธีนับ ใช้วิธีพุทโธ
หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ ก็ได้ เป็นการช่วยทำให้จิตรวมเข้ามาตั้งอยู่ได้
เพราะฉะนั้นในวันแรกนี้จะหัดทำสติเพียงเท่านี้ก่อนก็ได้
จิตตภาวนา 2 กรรมฐาน 2
คันถธุระ วิปัสสนาธุระ
ศีลเป็นที่ตั้งของกุศลธรรมทั้งหลาย
สิกขา
สติ จิตตภาวนาข้อแรก
อินทรียสังวร