ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
บทพิจารณาตนเองในไตรลักษณ์
สัพเพ สังขารา อะนิจจา,
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง,
รูปสังขารคือร่างกาย นามสังขารคือใจปรุงแต่ง ทั้งรูป-นามทั้งหลายก็ไม่เที่ยง,
เกิดขึ้นแล้วย่อมแปรปรวนเปลี่ยนไป,
สัพเพ สังขารา ทุกขา,
สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์, รูปสังขารคือร่างกาย นามสังขารคือใจปรุงแต่ง
ทั้งกาย-ใจก็เป็นตัวทุกข์, เพราะทนอยู่สภาพเดิมได้ยาก ต้องเสื่อมสิ้นไป
สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ,
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง สิ่งทั้งหลาย ทั้งรูปทั้งนาม ทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นอนัตตา,
ที่เป็นสังขารและมิใช่สังขาร เป็นธาตุสี่และไม่เป็นธาตุสี่ ก็มิใช่เป็นตน
มิใช่เป็นของๆ ตน, ไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
บังคับไม่ได้ เสื่อมสิ้นไปสูญไปในที่สุด เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมันเอง.
อะธุวัง ชีวิตัง, ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน เป็นของไม่แน่
ธุวัง มะระณัง,
ความตายเป็นของยั่งยืน ต้องตายแน่ๆ
อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง,
อันเราจะพึงตายแน่แท้
มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง,
เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุดรอบ
ชีวิตัง เม อะนิยะตัง, ชีวิตของเรา
เป็นของไม่แน่
มะระณัง เม นิยะตัง, ความตายเป็นของเราแน่
วะตะ อะยัง กาโย,
ควรแล้วที่จะสังเวชในร่างกายของเรานี้
อะจิรัง, ไม่คงทน ไม่คงที่ ไม่เหมือนเดิม
อะเปตะวิญญาโณ ปราศจากวิญญาณ
ฉุฑโฑ, อันเขาทิ้งไปเสียแล้ว
อะธิเสสะติ,
จักนอนทับ ล้มลง
ปะฐะวิง, ซึ่งแผ่นดิน
กะลิงคะลัง อิวะ,
ประดุจดังว่าท่อนไม้ท่อนฟืน
นิรัตถัง, หาประโยชน์แก่ตนมิได้-แล.
» ขันติกถา