ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

หอพระไตร

มิลินทปัญหา
ฉบับแปลในมหามกุฏราชวิทยาลัย


เมณฑกปัญหา

วรรคที่สอง

10 ภิกขุคณอเปกขภาวปัญหา

      พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน แม้พระพุทธพจน์นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงภาสิตแล้วว่า 'ความดำริอย่างนี้ว่า 'เราจะบริหารภิกษุสงฆ์หรือ หรือว่าภิกษุสงฆ์มีตัวเราเป็นที่พำนัก' ดังนี้ มิได้มีแด่พระตถาคตเลย' ดังนี้ ก็เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงคุณตามที่เป็นจริง ของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า เมตไตรย ได้ตรัสแล้วอย่างนี้ว่า 'พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า เมตไตรย นั้น จักบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่พันเดียว เหมือนเราผู้ตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่ร้อยเดียวอยู่ในกาลนี้ แม้ฉันนั้น' ดังนี้ ถ้าว่าพระผู้มีภาคได้ตรัสแล้วว่า 'ดูก่อนอานนท์ ความดำริอย่างนี้ว่า 'เราจะบริหารภิกษุสงฆ์หรือ หรือว่าภิกษุสงฆ์มีตัวเราเป็นที่พำนัก' ดังนี้ มิได้มีแด่พระตถาคตเลย' ดังนี้, ถ้าอย่างนั้น คำที่ว่า 'เราบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่ร้อยเดียว' ดังนี้ นั้นเป็นผิด ถ้าว่าพระตถาคตตรัสแล้ว่า 'เหมือนเราผู้ตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่ร้อยเดียวอยู่ในกาลนี้ แม้ฉันนั้น,' ถ้าอย่างนั้น คำที่ว่า 'ดูก่อนอานนท์ ความดำริว่า 'เราจะบริหารภิกษุสงฆ์หรือ หรือว่าภิกษุสงฆ์มีตัวเราเป็นที่พำนัก' ดังนี้ มิได้มีแด่พระตถาคตเลย' ดังนี้ แม้นั้นก็ผิด ปัญหาแม้นี้สองเงื่อน มาถึงพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ปัญหานั้นพระผู้เป็นเจ้า พึงแก้ไขให้แจ่มแจ้งเถิด"
      พระเถรเจ้าทูลว่า "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาค แม้ได้ทรงภาสิตพระพุทธพจน์นี้ว่า 'ดูก่อนอานนท์ ความดำริว่า 'เราจะบริหารภิกษุสงฆ์ดังนี้หรือ หรือว่าภิกษุสงฆ์มีตัวเราเป็นที่พำนัก'ดังนี้ อย่างนี้มิได้มีแด่พระตถาคตเลย' ดังนี้ เมื่อพระองค์ทรงแสดงคุณตามที่เป็นจริงของพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ทรงพระนามว่า เมตไตรย ได้ตรัสแล้วว่า 'พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า เมตไตรยนั้น จักบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่พันเดียว เหมือนเราบริหารภิกษุสงฆ์มิใช่ร้อยเดียวอยู่ในกาลนี้ แม้ฉันนั้น' ดังนี้ ก็ในปัญหานี้ เนื้อความหนึ่งเป็นสาวเสส มีส่วนเหลือเนื้อความหนึ่งเป็นนิรวเสสไม่มีส่วนเหลือ พระตถาคตเจ้ามิได้ทรงดำเนินตามบริษัท ส่วนบริษัทดำเนินโดยเสด็จพระตถาคตเจ้า แม้วาจาว่าเรา ว่าของเรา นี้เป็นแต่สมมติ พระโองการตินี้มิใช่ปรมัตถ์ ความรักของพระตถาคตเจ้าปราศจากไปแล้ว ความเยื่อใยปราศจากไปแล้ว และความถือว่าของเรา ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต, ก็แต่ว่าความอาศัยยึดเหนี่ยวย่อมมี อุปมาเหมือนแผ่นดินเป็นที่อาศัยตั้งอยู่ของสัตว์ทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในพื้น สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ เป็นผู้ตั้งอยู่ในแผ่นดินโดยแท้, แต่ว่า ความเพ่งว่า 'สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ ของเรา' ดังนี้ ย่อมไม่มีแก่แผ่นดินใหญ่ ฉันใด; พระตถาคตเจ้าเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ พึ่งพระตถาคตโดยแท้, ก็แต่ว่า ความเพ่งว่า 'สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ ของเรา' ย่อมไม่มีแด่พระตถาคตเลย ฉันนั้น
      อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนมหาเมฆใหญ่ เมื่อยังฝนให้ตกเฉพาะกาล ย่อมให้ความเจริญแก่หญ้า และต้นไม้ และสัตว์ของเลี้ยง และมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมตามเลี้ยงไว้ซึ่งสันตติ, ก็สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น เป็นผู้อาศัยฝนเป็นอยู่, ก็แต่ว่า ความเพ่งว่า 'สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ของเรา' ดังนี้ ย่อมไม่มีแก่มหาเมฆ ฉันใด; พระตถาคตยังกุศลธรรมให้เกิดแก่สัตว์ทั้งปวง ย่อมตามรักษาสัตว์ทั้งปวงไว้, ก็สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น เป็นผู้อาศัยพระศาสดาเป็นอยู่, แต่ว่า ความเพ่งว่า 'สัตว์ทั้งปวงเหล่านี้ ของเรา' ย่อมไม่มีแด่พระตถาคต ฉันนั้น; ซึ่งเป็นดังนั้นเพราะเหตุไร ซึ่งเป็นดังนั้นเพราะความที่ทิฏฐิไปตามซึ่งตนพระตถาคตละเสียได้แล้ว"
      ร "ดีละ พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ปัญหาพระผู้เป็นเจ้าคลี่คลายออกได้แล้วด้วยเหตุทั้งหลายต่าง ๆ, ปัญหาลึกพระผู้เป็นเจ้ามากระทำให้ตื้นได้แล้ว, ขอดพระผู้เป็นเจ้าทำลายได้แล้ว, ชัฏพระผู้เป็นเจ้ากระทำไม่ให้เป็นชัฏแล้ว, มืดกระทำให้เป็นแสงสว่างแล้ว, ปรัปปวาททั้งหลายพระผู้เป็นเจ้าหักเสียแล้ว, จักษุของชินบุตรทั้งหลายอันพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดขึ้นได้แล้ว"

 


วรรคที่ 1
วรรคที่ 2
ขุททานุขุททกปัญหา
ฐปนียาพยากรณปัญหา
มัจจุภายนปัญหา
มัจจุปาสามุตติกปัญหา
ภควโต ลาภันตรายปัญหา
สัพพสัตตหิตจรณปัญหา
เสฏฐธัมมปัญหา
ตถาคตอเภชชปริสปัญหา
อซานโตปาปกรณอปุญญปัญหา
ภิกขุคณอเปกขภาวปัญหา
วรรคที่ 3
วรรคที่ 4
วรรคที่ 5
วรรคที่ 6
วรรคที่ 7
วรรคที่ 8
วรรคที่ 9
 

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย