ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
มิลินทปัญหา
ฉบับแปลในมหามกุฏราชวิทยาลัย
วรรคที่หก
8 ทวินนัง พุทธานัง โลเก นุปปัชชนปัญหา
พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน แม้พระพุทธพจน์นี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงภาสิตแล้วว่า
'ดูก่อนภิกษุทั้งหลายพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์
พึงเกิดขึ้นไม่ก่อนไม่หลัง พร้อมกันในโลกธาตุอันเดียว ด้วยเหตุใด
เหตุนั้นไม่ใช่เป็นที่ตั้งไม่ใช่โอกาส เหตุนั้นอันบุคคลย่อมไม่ได้"
พระผู้เป็นเจ้านาคเสน พระตถาคตทั้งหลายแม้ทั้งปวง แม้เมื่อทรงแสดง
ย่อมทรงแสดงธรรมทั้งหลาย มีในฝักฝ่ายแห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้สามสิบเจ็ด
ก็เมื่อตรัส ย่อมตรัสอริยสัจทั้งหลายสี่
ก็เมื่อให้ศึกษาย่อมให้ศึกษาในสิกขาทั้งหลายสาม ก็เมื่อพร่ำสอน
ย่อมพร่ำสอนเพื่อความปฏิบัติในความไม่ประมาท
พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ถ้าว่าเทศนาของพระตถาคตทั้งหลายแม้ทั้งปวงอย่างเดียวกัน
กถาก็อย่างเดียวกัน สิกขาก็อย่างเดียวกัน ความพร่ำสอนก็อย่างเดียวกัน
พระตถาคตทั้งหลายสองพระองค์ ย่อมไม่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน, เพราะเหตุไร
พระตถาคตสององค์จึงไม่เกิดในคราวเดียวกันเล่า โลกนี้มีแสงสว่างเกิดแล้ว
ด้วยความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าแม้องค์เดียวก่อน,
ถ้าว่าพระพุทธเจ้าที่สองพึงมี โลกนี้พึงมีแสงสว่างเกิดแล้วเกินประมาณ
ด้วยแสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายสอง, และพระตถาคตทั้งหลายสอง
เมื่อจะกล่าวสอน พึงกล่าวสอนง่าย เมื่อจะพร่ำสอน พึงพร่ำสอนง่าย
พระผู้เป็นเจ้าจงกล่าวเหตุในข้อนั้นแก่ข้าพเจ้า ๆ พึงสิ้นความสงสัยอย่างไรเล่า"
พระเถรเจ้าทูลว่า "ขอถวายพระพร หมื่นโลกธาตุนี้
ทรงพระพุทธเจ้าไว้ได้แต่พระองค์เดียว
ย่อมทรงคุณของพระตถาคตไว้ได้แต่พระองค์เดียว; ถ้าว่าพระพุทธเจ้าที่สอง
พึงเกิดขึ้น หมื่นโลกธาตุนี้ พึงทรงไว้มิได้ พึงเขยื้อน พึงหวั่นไหว พึงเอนไป
พึงทรุดลง พึงกวัดแกว่ง พึ่งเรี่ยราย พึงกระจัดกระจาย
พึงเข้าถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
เปรียบเหมือนเรือที่ข้ามได้แต่คนเดียว ครั้นเมื่อบุรุษคนเดียวขึ้นแล้วพอดี,
ถ้าว่าบุรุษที่สองพึงมาไซร้ เป็นผู้เช่นนั้นโดยอายุ และวรรณ และวัยและประมาณ
โดยอวัยวะใหญ่น้อยผอมและอ้วน, บุรุษนั้นพึงขึ้นสูเรือนั้น,
เรือนั้นจะพึงทรงกายของบุรุษทั้งสองไว้ได้หรือ"
ร "หาไม่
พระผู้เป็นเจ้า เรือนั้นพึงเขยื้อน พึงหวั่นไหว พึงเอียง พึงเพียบลง
พึงกวัดแกว่ง พึงเรี่ยราย พึงกระจัดกระจาย เข้าถึงความคงอยู่ไม่ได้
พึงจมลงในน้ำ"
ถ
"ขอถวายพระพร เรือนั้นพึงทรงบุรุษสองคนไว้ไม่ได้ จมลงในน้ำ ฉันใด,
หมื่นโลกธาตุนี้ ทรงไว้ได้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว
ทรงคุณของพระตถาคตไว้ได้แต่พระองค์เดียว ถ้าพระพุทธเจ้าที่สอง พึงเกิดขึ้น
หมื่นโลกธาตุนี้ พึงทรงไว้ไม่ได้
พึงเขยื้อนและหวั่นไหวและเอนและทรุดลงและกวัดแกว่ง และเรี่ยราย
และกระจัดกระจายไป พึงเข้าถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ฉันนั้น
อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษ พึงบริโภคโภชนะตามต้องการเพียงไร
บุรุษนั้นยังโภชนะที่ชอบใจให้เต็มยิ่งเพียงคอ
อิ่มแล้วชุ่มแล้วบริบูรณ์แล้วไม่มีระหว่าง เป็นผู้แข็งดังไม้เท้าก้มไม่ลง
พึงบริโภคโภชนะเท่านั้นอีกนั่นเทียว, บุรุษนั้นพึงมีสุขบ้างหรือหนอ"
ร "หาไม่
พระผู้เป็นเจ้า บุรุษนั้นพึงบริโภคคราวเดียวเทียวตาย"
ถ
"ขอถวายพระพร ข้อนี้ ฉันใด, หมื่นโลกธาตุนี้
ทรงพระพุทธเจ้าไว้ได้แต่พระองค์เดียว ทรงคุณของพระตถาคตไว้ได้แต่พระองค์เดียว,
ถ้าพระพุทธเจ้าที่สอง พึงเกิดขึ้น หมื่นโลกธาตุนี้ พึงทรงไว้ไม่ได้
พึงเขยื้อนหวั่นไหว เอนทรุดลง และกวัดแกว่งเรี่ยรายกระจัดกระจาย
เข้าถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเทียว"
ร
"พระผู้เป็นเจ้านาคเสน แผ่นดินย่อมเขยื้อนด้วยหนักธรรมเกินหรือหนอแล"
ถ
"ขอถวายพระพร เกวียนทั้งหลายสอง เต็มแล้วด้วยรัตนะเสมอขอบ,
บุคคลทั้งหลายขนรัตนะแต่เกวียนเล่มหนึ่ง บรรทุกในเกวียนเล่มหนึ่ง,
เกวียนนั้นพึงทรงรัตนะแห่งเกวียนทั้งหลาย แม้สองได้หรือไม่"
ร "หาไม่
พระผู้เป็นเจ้า แม้ดุมของเกวียนนั้นพึงแยก แม้กำทั้งหลายของเกวียนนั่นพึงทำลาย
แม้กงของเวียนนั้นพึงตกลง แม้เพลาของเกวียนนั้นพึงทำลาย"
ถ
"ขอถวายพระพร เกวียนย่อมทำลายด้วยหนักรัตนะเกินหรือหนอแล"
ร
"อย่างนั้นซิ พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร เกวียนย่อมทำลายด้วยหนักรัตนะเกินฉันใด,
แผ่นดินย่อมเขยื้อนด้วยหนักธรรมเกิน ฉันนั้นนั่นเทียว
เออก็เหตุนี้อันอาตมภาพสวดแล้ว เพื่อจะแสดงกำลังของพระพุทธเจ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์ ย่อมไม่เกิดขึ้นในขณะอันเดียวกัน
ด้วยเหตุใด บรมบพิตรจงฟังเหตุนั้นอย่างอื่นซึ่งมีรูปยิ่งยิ่งในข้อนั้น
ขอถวายพระพร ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสององค์ พึงเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน,
ความวิวาทพึงเกิดขึ้นแก่บริษัทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นว่า
'พระพุทธเจ้าของท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย' ดังนี้
บริษัททั้งหลายพึงเกิดเป็นสองฝ่าย เปรียบเหมือนความวิวาท
พึงเกิดขึ้นแก่บริษัทของมหาอมาตย์สองคนผู้มีกำลังว่า 'อมาตย์ของท่านทั้งหลาย
อมาตย์ของเราทั้งหลาย' ดังนี้ บริษัทย่อมเกิดเป็นสองฝ่าย ฉันใด;
ถ้าว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสองพระองค์ พึงเกิดขึ้นในขณะอันเดียวกัน
ความวิวาทพึงเกิดขึ้นแก่บริษัทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายนั้นว่า
'พระพุทธเจ้าของท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย' ดังนี้
บริษัททั้งหลายพึงเป็นสองฝ่ายเกิดขึ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์
ย่อมไม่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันด้วยเหตุใด ความเกิดวิวาทนี้เป็นเหตุนั้น
อันหนึ่งก่อน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์
ย่อมไม่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันด้วยเหตุใด บรมบพิตรจงทรงฟังเหตุนั้น
แม้อื่นอีกยิ่งขึ้นไป:
ถ้าว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์พึงเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน,
คำที่ว่า 'พระพุทธเจ้าผู้เลิศ' ดังนี้ นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐสุด' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐสุด' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
'พระพุทธเจ้าผู้วิเศษ' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า 'พระพุทธเจ้าเป็นสูงสุด'
นั้น' พึงเป็นคำผิด คำที่ว่า 'พระพุทธเจ้าผู้บวรนั้น' พึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
'พระพุทธเจ้าไม่มีใครเสมอ' ดังนี้ นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
'พระพุทธเจ้าเป็นผู้เสมอด้วยพระพุทธเจ้าไม่มีใครเสมอ' ดังนี้ นั้นพึงเป็นคำผิด
คำที่ว่า 'พระพุทธเจ้าไม่มีใครเปรียบ' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
'พระพุทธเจ้าไม่มีส่วนเปรียบ' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
'พระพุทธเจ้าไม่มีส่วนเปรียบ' นั้นพึงเป็นคำผิด คำที่ว่า
พระพุทธเจ้าไม่มีบุคคลเปรียบ' นั้นพึงเป็นคำผิด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสองพระองค์ ไม่เกิดขึ้นในขณะอันเดียวกันด้วยเหตุใด
บรมบพิตรจงรับเหตุนี้และว่าเป็นเหตุนั้นโดยเนื้อความก่อน
ก็แหละพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ย่อมเกิดขึ้นในโลกอันใด
ความที่พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกแล้วองค์เดียวนั้น
เป็นปกติโดยสภาวะของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว, เพราะเหตุไร
ความที่พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกแล้วองค์เดียวนั้น
เป็นปกติของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายผู้ตรัสรู้แล้ว
เพราะความที่คุณทั้งหลายของพระพุทธเจ้าผู้สัพพัญญูเป็นของใหญ่
ขอถวายพระพร สิ่งใดแม้อื่นเป็นของใหญ่ในโลก สิ่งนั้นเป็นของอสันเดียวเท่านั้น:
แผ่นดินเป็นของใหญ่ แผ่นดินนั่นแผ่นเดียวเท่านั้น;สาครเป็นของใหญ่
สาครนั้นย่อมเป็นสาครเดียวเท่านั้น; พญาเขาสิเนารุเป็นของใหญ่
พญาเขาสิเนรุนั้นลูกเดียวเท่านั้น; อากาศเป็นของใหญ่
อากาศนั้นอากาศเดียวเท่านั้น; ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่
ท้าวสักกะนั้นผู้เดียวเท่านั้น; มารผู้เป็นใหญ่
มารนั้นผู้เดียวเท่านั้น;มหาพรหมผู้เป็นใหญ่ มหาพรหมนั้นผู้เดียวเท่านั้น
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ใหญ่
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นองค์เดียวเท่านั้นในโลก
แผ่นดินเป็นต้นย่อมเกิดขึ้นในโลกใด โอกาสของแผ่นดินเป็นต้นอื่น
ในโลกนั้นย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวนั่นเทียว ย่อมเกิดขึ้นในโลก"
ร
"พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ปัญหาพระผู้เป็นเจ้าแก้ดีแล้ว
ด้วยเหตุทั้งหลายเครื่องอุปมา, แม้บุคลไม่ฉลาดได้ฟังข้อแก้ปัญหานั้น พึงชอบใจ,
จะป่วยกล่าวอะไรเล่า บุคคลผู้มีปัญญาใหญ่หลวง เช่นข้าพเจ้าจักไม่ชอบใจ; ดีละ
พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ข้อวิสัชนาปัญหาของพระผู้เป็นเจ้านั้นสมอย่างนั้น,
ข้าพเจ้ายอมรับรองอย่างนั้น"
วรรคที่ 1
วรรคที่ 2
วรรคที่ 3
วรรคที่ 4
วรรคที่ 5
วรรคที่ 6
ปฏิปทาโทสปัญหา
นิปปปัญจปัญหา
คิหิอรหัตตปัญหา
โลมกัสสปปัญหา
ฉันททันตโชติปาลอารัพภปัญหา
ฆฏีการปัญหา
ภควโต ราชปัญหา
ทวินนัง พุทธานัง โลเก นุปปัชชนปัญหา
คิหิปัพพชิตสัมมาปฏิปัตติปัญหา
วรรคที่ 7
วรรคที่ 8
วรรคที่ 9