ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
มิลินทปัญหา
ฉบับแปลในมหามกุฏราชวิทยาลัย
วรรคที่เก้า
5 นิพพานปัญหา
พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสนผู้เจริญ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวคำว่า
"นิพพาน นิพพาน" ดังนี้ อันใด ก็พระผู้เป็นเจ้าอาจแสดงรูปสัณฐาน
วัยหรือประมาณแห่งนิพพานนั้น โดยอุปมา โดยเหตุ โดยปัจจัย หรือโดยนัยได้หรือ"
พระเถรเจ้าทูลว่า "ขอถวายพระพร นิพพานเป็นธรรมชาติไม่มีส่วนเปรียบ เพราะฉะนั้น
อาตมภาพไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานโดยอุปมาเป็นต้นถวายได้"
ร
"ข้าพเจ้าไม่เคารพรับข้อซึ่งรูปเป็นต้นแห่งนิพพาน
อันมีอยู่เป็นธรรมดาแต่หาปรากฏโดยอุปมาเป็นต้น หาได้ไม่,
ขอพระผู้เป็นเจ้าอุปมาให้ข้าพเจ้าทราบโดยเหตุ"
ถ
"ข้อซึ่งทรงพระปรารภนั้น จงยกไว้
อาตมภาพจะให้บรมบพิตรทรงทราบโดยเหตุการณ์บัดนี้ มหาสมุทรมีอยู่หรือ
ขอถวายพระพร"
ร
"มหาสมุทรนั้นมีอยู่"
ถ
"ถ้าว่าใคร ๆ ทูลถามบรมบพิตรอย่างนี้ว่า 'น้ำในมหาสมุทรเท่าไร,
และสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยมหาสมุทรเท่าไร' ฉะนี้;
บรมบพิตรเป็นผู้อันเขาทูลถามอย่างนี้ จะทรงพยากรณ์แก่เขาว่ากะไร"
ร
"ถ้าว่าใคร ๆ ถามข้าพเจ้าอย่างนี้ไซร้, ข้าพเจ้าจะต้องตอบเขาว่า
'ท่านมาถามเราผู้ไม่ควรถามล การถามนั้นอันใคร ๆ ไม่พึงถาม,
เหตุว่าปัญหานั้นต้องยกเว้น, มหาสมุทรอันนักปราชญ์ผู้ปรากฏในโลกไม่แก้ไขแล้ว,
เพราะฉะนั้น
เราก็ไม่สามารถจะกำหนดนับน้ำในมหาสมุทรและสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในนั้นได้'
ข้าพเจ้าต้องตอบเขาอย่างนี้"
ถ
"เพราะเหตุไรเล่า ขอถวายพระพร บรมบพิตรต้องตรัสตอบเขาอย่างนี้
ในเรื่องมหาสมุทรอันมีอยู่เป็นธรรมดา
บรมบพิตรควรทรงคำนวณนับแล้วรับสั่งกะเขาว่า 'น้ำในมหาสมุทรเท่านี้
และสัตว์ทั้งหลายเท่านี้ อาศัยอยู่ในมหาสมุทร' ฉะนี้ ไม่ใช่หรือ"
ร
"ไม่อาจบอกได้ซิ, เพราะว่าปัญหานั้นไม่ใช่วิสัย"
ถ
"ขอถวายพระพร ใคร ๆ ไม่อาจกำหนดนับน้ำในมหาสมุทรซึ่งมีอยู่เป็นธรรมดา
และสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในนั้นได้ ฉันใด, ใคร ๆ
ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานอันมีอยู่เป็นธรรมดา โดยอุปมาเป็นต้นได้
ฉันนั้นแล ขอถวายพระพร ท่านผู้มีฤทธิ์ถึงซึ่งความเป็นผู้มีอำนาจในจิต
พึงคำนวณนับน้ำในมหาสมุทร และสัตว์ทั้งหลายอันอาศัยอยู่ในนั้นได้,
ก็แต่ท่านไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานโดยอุปมาเป็นต้นได้เลย
ขอบรมบพิตรทรงสดับเหตุซึ่งว่า 'ใคร ๆ
ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานอันมีอยู่เป็นธรรมดา
โดยอุปมาเป็นต้น'แม้อื่นอีกให้ยิ่งขึ้นไป เทวดาทั้งหลายชื่ออรูปกายิกา
มีอยู่หรือ ขอถวายพระพร"
ร
"เทพดาทั้งหลายชื่ออรูปกายิกา มีอยู่ซิ"
ถ
"ก็บรมบพิตรอาจทรงแสดงรูปเป็นต้น แห่งอรูปกายิกาเทพดาทั้งหลายเหล่านั้น
โดยอุปมาเป็นต้นได้หรือ ขอถวายพระพา"
ร
"ไม่อาจเลย พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ถ้าอย่างนั้น อรูปกายิกาเทพดาทั้งหลาย ไม่มีหรือ ขอถวายพระพร"
ร
"อรูปกายิกาเทพดาทั้งหลายมีอยู่ พระผู้เป็นเจ้า, ก็แต่ใคร ๆ
ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้น แห่งอรูปกายิกาเทพดาเหล่านั้น โดยอุปมาเป็นต้นได้"
ถ
"ขอถวายพระพร ใคร ๆ
ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งอรูปกายิกาเทพดาทั้งหลายอันเป็นสัตว์มีอยู่โดยอุปมาเป็นต้นได้
ฉันใด, ใคร ๆ ก็ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานอันมีอยู่เป็นธรรมดา
โดยอุปมาเป็นต้นได้ ฉันนั้นแล"
ร
"พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ผู้เจริญ นิพพาเป็นเอกันตสุขจริง ก็แต่ใคร ๆ
ไม่อาจแสดงรูปเป็นต้นแห่งนิพพานโดยอุปมาเป็นต้นได้ ถึงกระนั้น
การแสดงคุณแห่งนิพพานเทียบเข้าด้วยเหตุทั้งหลายอื่นคงมีอยู่หรือแสดงเหตุอะไร ๆ
สักว่าชี้อุปมาก็คงมีอยู่"
ถ
"ขอถวายพระพร การแสดงคุณแห่งนิพพานเทียบเข้าด้วยเหตุทั้งหลายอื่นโดยธรรมดาของตน
ย่อมไม่มี, ก็แต่อาจแสดงเหตุอะไร ๆ สักว่าชี้อุปมาโดยคุณได้"
ร "ดีแล้ว
พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ผู้เจริญ
ข้าพเจ้าจะได้เหตุสักว่าความชี้แจงแม้แต่โดยเอกเทศ ด้วยประการใด
ขอพระผู้เป็นเจ้าแสดงโดยพลัน ด้วยประการนั้น,
และขอพระผู้เป็นเจ้าดับความกระวนกระวายหัวใจของข้าพเจ้า,
และขอได้แนะนำข้าพเจ้าด้วยลมกล่าว คือ ถ้อยคำอันเยือกเย็นและไพเราะ"
ถ
"ขอถวายพระพร คุณหนึ่งประการ แห่งดอกบัว,
คุณสองประการ แห่งน้ำ,
คุณสามประการ แห่งยา,
คุณสี่ประการ แห่งมหาสมุทร,
คุณห้าประการ แห่งโภชนะ,
คุณสิบประการ แห่งอากาศ,
คุณสามประการ แห่งแก้วมณี,
คุณสามประการ แห่งจันทน์แดง,
คุณสามประการ แห่งสัปปิอย่างใส,
คุณห้าประการแห่งยอดภูเขา แต่ล้วนเป็นคุณควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ผู้เจริญ
คุณประการหนึ่งแห่งดอกบัวควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉน"
ถ
"ขอถวายพระพร ดอกบัวอันน้ำไม่ซึมติดอยู่ได้ ฉันใด
พระนิพพานอันกิเลสทั้งปวงก็ไม่ซึมติดอยู่ได้ ฉันนั้นแล
คุณประการหนึ่งแห่งดอกบัว ควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"คุณสองประการแห่งน้ำ ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่าพระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร น้ำเป็นของเย็นเป็นของดับความกระวนกระวายเสีย ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของเย็น เป็นของดับความกระวนกระจาย คือ กิเลสเสีย ฉันนั้น,
นี้เป็นคุณที่หนึ่ง
น้ำเป็นของบำบัดเสียซึ่งความอยากน้ำ ของหมู่มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
ผู้เหน็ดเหนื่อย สะดุ้งกลัว อยากน้ำ และเร่าร้อนเพราะฤดูร้อนฉันใด,
นิพพานก็เป็นของบำบัดเสียซึ่งความกระหาย กล่าวคือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ฉันนั้น, นี้เป็นคุณที่สอง เหล่านี้แลคุณสองประการแห่งน้ำ ควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"คุณสามประการแห่งยา ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร ยาเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ทั้งหลาย
ผู้อันพิษแห่งงูเป็นต้นเบียดเบียนแล้ว ฉันใด,
นิพพานก็เป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ทั้งหลาย ผู้อันพิษกล่าวคือ กิเลสเบียดเบียนแล้ว
ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
ยาเป็นของกระทำที่สุดแห่งโรค ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของกระทำที่สุดแห่งทุกข์ทั้งปวง ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สอง
ยาเป็นของไม่ตาย ฉันใด, นิพพานก็เป็นของไม่ตาย ฉันนั้น นี้เป็นคุณที่สาม
เหล่านี้แล เป็นคุณสามประการแห่งยาควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"คุณสี่ประการแห่งมหาสมุทร ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร มหาสมุทรเป็นของสูญว่างจากทรากศพทั้งปวง ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของสูญว่างจากทรากศพ กล่าวคือ กิเลสทั้งปวง ฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
มหาสมุทรเป็นของใหญ่แลไม่เห็นฝั่งนี้และฝั่งโน้น,
ย่อมไม่เต็มด้วยน้ำที่ไหลมาทั้งปวง ฉันใด, นิพพานก็เป็นของใหญ่
ไม่มีฝั่งนี้และฝั่งโน้น, ย่อมไม่เต็มด้วยสัตว์ทั้งปวง ฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่สอง
มหาสมุทรเป็นที่อยู่แห่งภูตใหญ่ทั้งหลาย ฉันใด,
นิพพานก็เป็นที่อยู่แห่งภูตใหญ่ทั้งหลายขีณาสพ ไม่มีมลทิน
ถึงซึ่งกำลังและเป็นผู้มีความเป็นผู้สามารถ คือ พระอรหันต์ทั้งหลายมาก ฉันนั่น,
นี่เป็นคุณที่สาม
มหาสมุทรเบิกบานแล้วด้วยดอกไม้ กล่าวคือ คลื่นละลอกไพบูลมีอย่างต่าง ๆ
อันนับไม่ได้ ฉันใด, นิพพานก็เบิกบานแล้วด้วยดอกไม้กล่าว คือ วิชชาและวิมุตติ
อันบริสุทธิ์ไพบูลมีประการต่าง ๆ อันนับไม่ได้ ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สี่
เหล่านี้แล เป็นคุณสี่ประการแห่งมหาสมุทรควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"คุณห้าประการแห่งโภชนะ ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร โภชนะเป็นของทรงอายุแห่งสัตว์ทั้งปวงไว้ ฉันใด,
นิพพานอันบุคลกระทำให้แจ้งแล้ว ก็เป็นของทรงอายุไว้
เพราะความที่ชราและมรณะหายไป ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
โภชนะเป็นของยังกำลังแห่งสัตว์ทั้งปวงให้เจริญ ฉันใด,
นิพพานอันบุคคลกระทำให้แจ้งแล้ว
ก็เป็นของยังกำลังฤทธิ์แห่งสัตว์ทั้งปวงให้เจริญ ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สอง
โภชนะเป็นเครื่องเกิดพรรณแห่งสัตว์ทั้งปวง ฉันใด,
นิพพานอันบุคคลกระทำให้แจ้งแล้ว ก็เป็นเครื่องเกิดพรรณ คือ
คุณความดีแห่งสัตว์ทั้งปวง ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สาม
โภชนะเป็นของระงับความกระวนกระวายแห่งสัตว์ทั้งปวงเสีย ฉันใด,
นิพพานอันบุคคลกระทำให้แจ้งแล้ว ก็เป็นของระงับความกระวนกระวาย คือ
กิเลสแห่งสัตว์ทั้งปวงเสียฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สี่
โภชนะเป็นของบรรเทาความเป็นผู้มีกำลังชั่วด้วยสามารถความหิวแห่งสัตว์ทั้งปวงเสีย
ฉันใด,
นิพพานอันบุคคลกระทำให้แจ้งแล้วก็เป็นของบรรเทาความเป็นผู้มีกำลังชั่วด้วยสามารถความหิว
กล่าวคือ ความทุกข์ทั้งปวง ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่ห้า เหล่านี้แล
คุณห้าประการแห่งโภชนะ ควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"คุณสิบประการแห่งอากาศ ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร อากาศย่อมไม่รู้เกิดหนึ่ง ย่อมไม่รู้แก่หนึ่ง ย่อมไม่รู้ตายหนึ่ง
ย่อมไม่จุติหนึ่ง ย่อมไม่เกิดอีกหนึ่ง, ยากที่อะไร ๆ
จะข่มเหงได้และอันโจรลักนำไปไม่ได้หนึ่ง ไม่อาศัยอะไร ๆ หนึ่ง
เป็นที่ไปแห่งนกหนึ่ง ไม่มีเครื่องกางกั้นหนึ่ง หาที่สุดมิได้หนึ่งฉันใด,
นิพพานก็ย่อมไม่รู้เกิดหนึ่ง ย่อมไม่รู้แก่หนึ่ง ย่อมไม่รู้ตายหนึ่ง
ย่อมไม่จุติหนึ่ง ย่อมไม่เกิดอีกหนึ่ง, ยากที่อะไร ๆ จะข่มเหงได้
และโจรลักนำไปไม่ได้หนึ่ง ไม่อาศัยอะไร ๆ หนึ่ง เป็นที่ไปแห่งพระอริยเจ้าหนึ่ง
ไม่มีเครื่องกางกั้นหนึ่ง หาที่สุดมิได้หนึ่ง ฉันนั้น เหล่านี้แล
คุณสิบประการแห่งอากาศ ควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"ก็คุณสามประการแห่งแก้วมณี ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ"ขอถวายพระพร แก้วมณีเป็นของให้ผลที่ใคร ๆ อยากได้ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของให้ผลที่ใคร ๆ อยากได้ ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
แก้วมณีกระทำความร่าเริง ฉันใด, นิพพานก็กระทำความร่าเริงฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่สอง
แก้วมณีกระทำประโยชน์ให้รุ่งเรืองขึ้น ฉันใด,
นิพพานก็กระทำประโยชน์ให้รุ่งเรืองขึ้น ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สาม เหล่านี้แล
คุณสามประการแห่งแก้วมณี ควรเทียบด้วยนิพพาน"
ร
"คุณสามประการแห่งแก่นจันทน์แดง ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร แก่นจันทน์แดงเป็นของที่หาได้ด้วยยากฉันใด,
นิพพานก็เป็นของที่หาได้ด้วยยาก ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
แก่นจันทน์แดงเป็นสิ่งที่ไม่มีของหอมอื่นจะเสมอ ฉันใด,
นิพพานก็เป็นธรรมชาติไม่มีของหอมอื่นเสมอ ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สอง
แก่นจันทน์แดงเป็นของอันบุคคลผู้ดีสรรเสริญ ฉันใด,
นิพพานก็เป็นธรรมชาติอันพระอริยบุคคลสรรเสริญ ฉันนั้น นี่เป็นคุณที่สาม นี้แล
คุณสามประการแห่งแก่นจันทน์แดง ควรเทียบกับนิพพาน"
ร"ก็คุณสามประการแห่งสัปปิอย่างใด ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า
พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร สัปปิอย่างใส เป็นของถึงพร้อมด้วยสีฉันใด,
นิพพานก็เป็นของถึงพร้อมด้วยสีกล่าว คือ คุณความดี ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
สัปปิอย่างใส เป็นของถึงพร้อมด้วยกลิ่น ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของถึงพร้อมด้วยกลิ่นกล่าวคือศีล ฉันนั้น, เป็นคุณที่สอง
สัปปิอย่างใส เป็นของถึงพร้อมด้วยรส ฉันใด, นิพพานก็เป็นของถึงพร้อมด้วยรส
ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สาม เหล่านี้แล เป็นคุณสามประการแห่งสัปปิอย่างใส
ควรเทียบกับนิพพาน"
ร
"ก็คุณห้าประการแห่งยอดภูเขา ควรเทียบกับนิพพานเป็นไฉนเล่า พระผู้เป็นเจ้า"
ถ
"ขอถวายพระพร ยอดภูเขาเป็นของสูง ฉันใด, นิพพานก็เป็นของสูง ฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่หนึ่ง
ยอดภูเขาเป็นของไม่หวั่นไหว ฉันใด, นิพพานก็เป็นของหวั่นไหว ฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่สอง
ยอดภูเขาเป็นของยากที่จะขึ้นไปได้ ฉันใด,
นิพพานก็เป็นของยากที่กิเลสทั้งปวงจะขึ้นไปได้ ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สาม
ยอดภูเขาเป็นที่ไม่งอกขึ้นแห่งพืชทั้งปวง ฉันใด,
นิพพานก็เป็นที่ไม่งอกขึ้นแห่งกิเลสทั้งปวง ฉันนั้น, นี่เป็นคุณที่สี่
ยอดภูเขา
เป็นของพ้นพิเศษแล้วจากความเป็นที่ยินดียินร้ายฉันใด,
นิพพานก็เป็นของพ้นวิเศษแล้วจากความยินดีและความยินร้ายฉันนั้น,
นี่เป็นคุณที่ห้า เหล่านี้แลคุณห้าประการแห่งยอดเขาควรเทียบกับนิพพาน"
ร "ดีแล้ว
พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ข้อวิสัชนาปัญหาของพระผู้เป็นเจ้านั้นสมอย่างนั้น,
ข้าพเจ้ายอมรับรองอย่างนั้น"
วรรคที่ 1
วรรคที่ 2
วรรคที่ 3
วรรคที่ 4
วรรคที่ 5
วรรคที่ 6
วรรคที่ 7
วรรคที่ 8
วรรคที่ 9
กาลากาลมรณปัญหา
ปรินิพพุตเจติยปาฏิหาริยปัญหา
เอกัจจาเนกัจจานํ ธัมมาภิสมยปัญหา
นิพพานอทุกขมิสสภาวปัญหา
นิพพานปัญหา
นิพพานสัจฉิกรณปัญหา
นิพพานปัฏฐานปัญหา
อนุมานปัญหา
ธุตังคปัญหา