ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

หอพระไตร

โอวาทสี่ของเหลี่ยวฝาน
โดย :: เจือจันทน์ อัชพรรณ (มิสโจ)

ข้อที่หนึ่ง การสร้างอนาคต

6

        พ่อก็ได้แต่รับฟัง ในคืนวันนั้น จะว่าบังเอิญหรือไม่หนอ พ่อฝันเห็นเทวดาองค์หนึ่ง พ่อจึงปรับทุกข์กับท่าน ถึงเรื่องที่แม่เจ้าวิตกกังวล ท่านบอกกับพ่อว่า พ่อนั้นไม่รู้ตัวเลย พ่อได้ทำความดีครบหนึ่งหมื่นครั้งแล้ว เพียงแต่ลดภาษีข้าว ให้แก่ราษฎรทั้งหมด ที่อยู่ในความปกครองของพ่อโดยทั่วหน้ากัน การบรรเทาภาระอันหนักของราษฎร เป็นกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ เพราะทำให้ราษฎรเป็นสุขขึ้น พ่อตื่นขึ้นมาก็นึกขึ้นได้ว่า พ่อได้ทำไปเช่นนั้นจริงๆ เพราะสงสารราษฎรที่ต้องเสียภาษีหนักเกินไป ทำไมเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งพ่อเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ล่วงรู้ถึงเทวดาฟ้าดินได้ และก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำเพียงแค่นี้น่ะหรือ ก็เป็นความดีได้ถึงหนึ่งหมื่นครั้ง บังเอิญ ท่านฝานอวี๋ย์เถระ มาจากภูเขาอู่ถายซาน พ่อจึงกราบถามท่านเพื่อให้หายสงสัย
        ท่านตอบว่า กุศลกรรมใดก็ตาม ถ้าทำด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ ไม่หวังตอบแทนเป็นส่วนตัวแล้วไซร้ แม้กระทำครั้งเดียว ก็เท่ากับกระทำหมื่นครั้งได้ทีเดียว การที่พ่อเห็นความทุกข์ยากของราษฎร หาทางแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบา ความสุขที่ราษฎรทั้งอำเภอได้รับ ย่อมเป็นกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ พ่อจึงเอาเงินเดือนของพ่อเดือนนั้น ถวายแก่ท่านฝานอวี๋ย์เถระ เพื่อให้ทำอาหารมังสวิรัติ ถวายพระภิกษุในวัดของท่าน ซึ่งมีประมาณหนึ่งหมื่นรูป และอุทิศกุศลกรรมทั้งมวลไปตามที่อธิษฐานเอาไว้
        ท่านผู้เฒ่าข่งเคยพยากรณ์พ่อไว้ว่า พ่อจะมีอายุอยู่ได้ ๕๓ ปีเท่านั้น พ่อก็มิได้อธิษฐาน ให้ตนเองมีอายุยืนยาวแต่อย่างใด แต่ปีนั้นพ่อก็ไม่เป็นไร อยู่มาจนบัดนี้ พ่อมีอายุได้ ๖๙ ปี แล้ว โบราณท่านกล่าวไว้ว่า ฟ้าดินนั้น สุดที่จะหยั่งรู้ได้ ชะตาชีวิตจึงเอาแน่ไม่ได้ ชีวิตของใคร คนนั้น ก็ต้องสร้างอนาคตเอาเอง จะให้คนอื่นสร้างให้หาได้ไม่ คำพูดนี้เป็นความจริง ที่พ่อพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง พ่อจึงเชื่อมั่น ด้วยความประจักษ์แจ้งแก่ใจของพ่อเองว่า ความสุขความทุกข์ ล้วนแต่เกิดจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น ทำดีก็ดี ทำชั่วก็ชั่ว เป็นคำที่ท่านนักปราชญ์โบราณกล่าวกันต่อๆ มาจนถึงบัดนี้ ถ้าใครยังเชื่อว่า สุขทุกข์เป็นสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้วอย่างแน่นอน แก้ไขไม่ได้แล้วไซร้ แม้ผู้นั้นจะแสนฉลาดปราดเปรื่องอย่างไร เขาก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ หาความก้าวหน้ามิได้เลย


        สำหรับตัวของลูกนั้น พ่อก็ยังไม่ทราบว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ขอให้ลูกจำไว้ว่า แม้ลูกจะมีบุญวาสนาชะตาสูงก็อย่ายึดมั่นว่า จะเป็นเช่นนั้นเสมอไป อาจจะมีวันที่ตกต่ำลงได้ ถ้าลูกไม่รู้จักการระวังตัว ยามใดที่ลูกรู้สึกชีวิต มีแต่ความราบรื่น ปลอดโปร่งสะดวกสบายไปทุกสิ่ง ลูกก็อย่ายึดมั่น ว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป อาจจะมีวันที่ต้องประสบความยุ่งยากเดือดร้อน ถ้าลูกไม่ตั้งตนอยู่ในศีลในธรรมอยู่เสมอ ยามใดที่ลูกมีความเหลือเฟือ เงินทองไหลมาเทมา มีความสมบูรณ์พูนสุขทุกประการ ก็อย่ายึดมั่นว่า จะเป็นเช่นนั้นเสมอไป อาจจะมีสักวันหนึ่ง ที่ลูกจะต้องตกระกำลำบาก ระหกระเหิน แม้จะหาที่ค้างกายสักคืน ก็ทั้งยาก หากลูกไม่รู้จักใช้เงิน ให้เป็นประโยชน์ในทางที่ถูกที่ควร ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น ยามใดที่มีคนนิยมชมชอบ เคารพนบนอบต่อลูก ลูกก็จะต้องยิ่งทำตน ให้เป็นที่น่าเคารพยิ่งๆ ขึ้น ถ่อมเนื้อถ่อมตัวด้วยความจริงใจ ใช่เสแสร้งแกล้งทำ ปากอย่างใจอย่าง อวดดีวางอำนาจ ยามใดที่ลูกได้รับยศถาบรรดาศักดิ์อันสูงส่ง ลูกก็อย่ายึดมั่นในโลกธรรมนั้นว่า จะแน่นอนเสมอไป ต้องเตือนสติตนเองอยู่เสมอว่า สักวันหนึ่ง ยศศักดิ์ชื่อเสียง เงินทองและความสุขทั้งมวลอาจจะพังพินาศไปในพริบตาเดียวก็ได้ ถ้าลูกไม่หมั่นประกอบความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป แม้ลูกจะมีความรู้ความสามารถเพียงใด ก็จงอย่าทะนงตนว่าใครก็สู้ไม่ได้ ลูกจะต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อให้ความรู้นั้นแตกฉานยิ่งขึ้น ถ้าลูกทำได้เช่นนี้ ลูกก็จะเป็น ผู้ที่มีคุณธรรมอันสูงส่ง และคงความสูงส่งนั้นไว้ได้ ไม่มีวันที่จะตกต่ำ นอกจากวิบากแห่งกรรมเก่า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าในชาติปางก่อนๆ นั้น ลูกได้เคยทำอกุศลกรรมอะไรไว้บ้าง วิบากแห่งอกุศลกรรมนั้น ย่อมให้ผลเมื่อถึงเวลาเสมอ แต่ถ้าลูกมีความดีมากจริงๆ แล้ว อกุศลกรรมบางอย่าง จะกลายเป็นอโหสิกรรมไป คือกรรมตามไม่ทัน
        ลูกต้องเคารพบูชาบรรพชน สรรเสริญคุณงามความดีของบรรพชน ให้แผ่ไพศาล ลูกจะต้องปกปิดความผิดพลาดของพ่อแม่ไว้ อย่าให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลได้ ชาติบ้านเมือง เป็นสิ่งที่จะต้องเทิดทูนรักษาไว้ด้วยชีวิต ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ไม่เสื่อมคลาย ลูกจะต้องสร้างครอบครัวให้มีความสุข ความอบอุ่นใจตลอดจนคนรับใช้ ลูกจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ที่ยากไร้ให้ได้ทันท่วงที ลูกจะต้องมีจิตสำรวมระวังอินทรีย์อยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันความผิดพลาด ที่จะเกิดขึ้นทั้งทางกายวาจาและใจ
        ลูกจะต้องสำรวจตรวจข้อบกพร่องในตัวของลูกเองทุกๆ วันอย่าได้ขาด และจะต้องแก้ไขความผิดพลาดให้ทันท่วงทีทุกๆ วันเช่นกัน วันใด ที่ลูกมองไม่เห็นความผิดพลาดของลูก ก็แสดงว่าการปฏิบัติธรรมของลูก ไม่ได้ก้าวหน้าไปเลย และกำลังถอยหลังแล้ว เพราะฉะนั้น ลูกจะต้องหาความผิดพลาดของตนเองให้พบ และแก้ไขให้ได้ทันท่วงที มิฉะนั้นแล้ว ลูกจะก้าวหน้าต่อไปไม่ได้ เป็นการเสียชาติเกิด
        คำสั่งสอนของท่านอวิ๋นกุเถระนั้น ช่างลึกล้ำตรงตามสภาวะธรรม และเป็นความจริงทุกประการ ซึ่งลูกจะต้องนำมาครุ่นคิดวิเคราะห์วิจัยหาเหตุผล เพื่อให้ประจักษ์แจ้งแก่ใจของลูกเอง และยึดถือนำมาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่าน อย่างเคร่งครัด ให้เกิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาให้ได้ จึงจะไม่เสียแรง ที่เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง มิได้ปล่อยเวลาอันมีค่าให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์เลย

<< ย้อนกลับ

ประวัติท่านเหลี่ยวฝาน
ข้อที่หนึ่ง การสร้างอนาคต
ข้อที่สอง วิธีแก้ไขความผิดพลาด
ข้อที่สาม วิธีสร้างความดี
ข้อที่สี่ ความถ่อมตน

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย