ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

หอพระไตร

โอวาทสี่ของเหลี่ยวฝาน
โดย :: เจือจันทน์ อัชพรรณ (มิสโจ)

ข้อที่สี่ ความถ่อมตน

       โอวาททั้งสามข้อที่กล่าวจบไปแล้วนั้น ล้วนแต่สอนให้ทำความดี ส่วนโอวาทข้อสุดท้ายนี้ ท่านสอนให้รู้จักวางตน ในการคบหาสมาคมกับบุคคลทั่วไป โดยให้ยึดคุณธรรมข้อนี้ไว้ คือการถ่อมคน ไม่อวดดีว่าคนเองวิเศษกว่าผู้อื่น จะได้ไม่มีเรื่องกับใคร ไม่กล้าทำความชั่ว สำนึกอยู่เสมอว่า ตนเองยังทำความดีไม่เพียงพอ แล้วจะมีความก้าวหน้าในการฝึกตน และไม่เพียงแต่ จะหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา แต่ยังต้องรู้จักฝึกตน ให้เข้ากับคนในสังคมได้ จะได้ไม่มีศัตรูทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่มีอุปสรรคในการสั่งสมคุณธรรมความดีงาม
        คัมภีร์เอ็กเก็งได้กล่าวไว้ว่า ผู้ใดยกตนข่มท่าน อวดวิเศษกว่าผู้อื่น ย่อมต้องประสบความเสียหาย ผู้ใดอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่จองหองลำพองตน ย่อมต้องประสบความสุขความเจริญ
        แม้แต่แผ่นดินก็หนีกฎนี้ไม่พ้น ดูแต่ขุนเขาที่สูงตระหง่าน ยืนทะมึนเย้ยฟ้าท้าดิน ก็ยังต้องพังทลายอยูเนืองๆ ส่วนแอ่งน้ำที่ต่ำต้อยนั้น กลับมีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ปีศาจก็ชอบให้ร้ายคนทระนง และอภิบาลคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน วิชาโป๊ยก่วยนั้น ได้แบ่งออกเป็น ๖๔ หน่วย หน่วยอื่นๆ ล้วนสอนให้เห็นผลดี และผลชั่วในพฤติกรรมของมนุษย์ แต่หน่วยแห่งการอ่อนน้อมถ่อมตนนี้ ไม่มีผลชั่วเลย มีแต่ผลดีทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่าฟ้าดินเทพยดาผีปีศาจและมนุษย์ ล้วนนิยมชมชอบความอ่อนน้อมถ่อมตนกันทั้งสิ้น
        ในคัมภีร์อื่นๆ ก็กล่าวเหมือนกันว่า ทะนงตนย่อมนำมาซึ่งความวิบัติ ถ่อมตนย่อมนำมาซึ่งความเจริญ พ่อได้ไปร่วมสอบไล่กับนักศึกษาอื่นๆ ตั้งหลายครั้ง ทุกครั้ง พ่อสังเกตเห็นนักศึกษาที่ยากจนบางคน บนใบหน้ามักทอประกายแห่งความถ่อมตน จนบางครั้ง พ่อคิดอยากจะเอามือทั้งสองของพ่อ ไปประคองประกายแห่งความถ่อมตนนั้น มาประดับบนใบหน้าของพ่อเสียบ้าง และไม่ต้องสงสัยเลย พวกเขาเหล่านี้สอบไล่ได้ทุกทีไป


        เมื่อตอนที่พ่อเข้ามาสอบในเมืองหลวง มีเพื่อนนักศึกษาร่วมเดินทางมาด้วย รวมทั้งหมดสิบคนด้วยกัน พ่อสังเกตดูเห็นมีคนที่อายุน้อยที่สุด มีชื่อว่าปิง เป็นคนเดียวที่มีความสงบเสงี่ยมเจียมตน มีความถ่อมตนอยู่เป็นนิจ พ่อจึงบอกกับเพื่อนว่า คนๆ นี้ต้องสอบไล่ได้แน่นอน เพื่อนถามว่า ทำไมพ่อจึงรู้ล่วงหน้าได้เล่า พ่อบอกเขาว่า ความถ่อมตนย่อมนำมาซึ่งความเจริญ ในหมู่พวกเราทั้งสิบคนนี้ มีใครบ้างที่ซื่อและจริงใจเหมือนเขา คอยเอาใจเพื่อนฝูง ไม่เคยเอาเปรียบใครเลย แม้ใครจะหยอกล้อก็ไม่โกรธตอบ ใครนินทาว่าร้าย ก็ไม่โต้เถียงสำรวมระวัง ไม่ยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ เหมือนคนอื่นคนเช่นนี้ แม้แต่ผีสางเทวดาฟ้าดิน ก็ยังต้องให้ความคุ้มครอง และช่วยเหลือ เมื่อผลการสอบไล่ครั้งนั้นปรากฏออกมา ก็เป็นจริง ดังที่พ่อคาดไว้ทุกประการ
        เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๒๐ พ่ออยู่ในเมืองหลวง พักกับเพื่อนชื่อไคจือ แซ่เผิง พ่อสังเกตดูรู้สึกเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเด็กๆ เขาขี้เล่นซุกซน และเจ้าอารมณ์ แต่บัดนี้ ดูเขามีสติควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก เขามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นคนดีมาก ฉลาด ซื่อตรง ชอบช่วยเหลือเพื่อน คุณธรรมสามประการนี้ สมแล้วที่จักขนานนามเขาว่ากัลยาณมิตร เขามักจะติเตียนไคจือต่อหน้า ไคจือไม่เคยโกรธ หรือโต้ตอบเขาเลย รับฟังอย่างอารมณ์ดีเสมอ พ่อจึงบอกเขาว่า นิสัยอันดีงามของเขานี้ ย่อมเป็นปัจจัย นำเขาไปสู่ความมีบุญวาสนา ส่วนคนที่ต้องประสบเคราะห์กรรม ก็เป็นเพราะเขาสร้างนิสัยไม่ดีงาม เป็นเหตุปัจจัยนำเขาไปสู่ความหายนะเช่นกัน สำหรับเพื่อนนั้น แม้ฟ้าดินก็ต้องประทานความช่วยเหลือ ปีนี้ เพื่อนจะต้องสอบไล่ได้อย่างแน่นอน ต่อมา ก็เป็นจริงดังที่พ่อพูดกับเขาไว้
        มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งแซ่จ้าว สอบไล่ได้ในภูมิลำเนาของตนเมื่ออายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี แต่ต่อจากนั้นไปจะสอบกี่ครั้ง ก็ไม่เคยสอบไล่ได้อีกเลย ต่อมา ได้ติดตามท่านบิดา ที่ต้องย้ายไปรับราชการที่อำเภออื่น ในอำเภอนั้น มีบัณฑิตที่มีความรู้สูงอยู่ท่านหนึ่ง แซ่เฉีย เด็กหนุ่มได้ทราบข่าว ก็รีบนำบทประพันธ์ของตนไปหา เพื่อขอคำแนะนำ โดยไม่คาดฝัน ท่านบัณฑิตจับพู่กันได้ ก็ตวัดข้อความในบทประพันธ์นั้นทิ้งเกือบหมด ถ้าเป็นบางคนก็จะโกรธมาก แต่เด็กหนุ่มคนนี้นอกจากจะไม่โกรธแล้ว ยังขอบพระคุณท่านบัณฑิต รีบแก้ไขบทความแล้วนำมาให้ท่านแก้ไขให้อีก ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง พอรุ่งขึ้นอีกปีหนึ่ง เด็กหนุ่มนี้ก็สอบไล่ได้

 | หน้าถัดไป >>

ประวัติท่านเหลี่ยวฝาน
ข้อที่หนึ่ง การสร้างอนาคต
ข้อที่สอง วิธีแก้ไขความผิดพลาด
ข้อที่สาม วิธีสร้างความดี
ข้อที่สี่ ความถ่อมตน

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย