ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ ควบคุมการบำบัดโรคสัตว์ พ.ศ. 2505
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2505
เป็นปีที่ 17 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราช โองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการบำบัดโรคสัตว์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดย คำแนะนำและยินยอมของสภาร่างรัฐธรรมนูญในฐานะรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการบำบัด โรคสัตว์ พ.ศ. 2505
มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป *[รก.2505/105/1229/27 พฤศจิกายน 2505]
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ สัตว์ หมายความว่า ช้าง ม้า โค กระบือ ลา ล่อ แพะ แกะ สุกร สุนัข แมว กระต่าย ชะนี ลิง ค่าง สัตว์ปีกจำพวก นก ไก่ เป็ด ห่าน และสัตว์ชนิดอื่น ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง การบำบัดโรคสัตว์ หมายความว่า การกระทำใด ๆ อันกระทำ โดยตรงต่อร่างกายสัตว์ เพื่อตรวจหรือรักษาโรคและหมายความรวมตลอดถึง การป้องกันโรค การกำจัดโรค การตบแต่งทางศัลยกรรม การตอนหรือการ ผสมเทียมด้วย คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการควบคุมการบำบัด โรคสัตว์ พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่
(1) ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ในหน้าที่ราชการ หรือในกิจการ ของสภากาชาดไทย สถานศึกษาวิชาสัตวแพทยศาสตร์ของรัฐบาลหรือสถานศึกษา วิชาสัตวแพทยศาสตร์ที่รัฐบาลรับรอง
(2) คนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ในกิจการที่รัฐบาล ตกลงกับองค์การระหว่างประเทศหรือรัฐบาลต่างประเทศ หรือในกิจการอื่นใด ที่จะได้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งนายทะเบียนพนักงานเจ้าหน้าที่ และ ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ตลอดจน ยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้ บังคับได้
หมวด 1
คณะกรรมการควบคุมการบำบัดโรคสัตว์
______
มาตรา 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี และ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง รัฐมนตรีอาจแต่งตั้งเป็นกรรมการอีกได้
มาตรา 8 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) เป็นบุคคลล้มละลาย (4) เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ (5) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่คดี ความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
เมื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ รัฐมนตรีอาจ แต่งตั้งผู้อื่นเป็นกรรมการแทน กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งตามวรรคก่อนอยู่ในตำแหน่งตามวาระของ กรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา 9 การประชุมทุกคราวต้องมีกรรมการมาประชุมไม่ต่ำกว่า กึ่งจำนวนของกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็น ประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
มาตรา 10 ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อทำ กิจการหรือพิจารณาเรื่องใด ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งอำนาจและหน้าที่ของ คณะกรรมการได้ การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นำความในมาตรา 9 มาใช้บังคับ โดยอนุโลม
มาตรา 11 ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์และกำหนด เงื่อนไขไว้ในใบอนุญาต (2) สั่งพักใช้หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการบำบัด โรคสัตว์ (3) ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่มหาวิทยาลัยและสถานศึกษาอื่น ในวิชาสัตวแพทยศาสตร์
มาตรา 12 ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการขึ้นในกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตร มีนายทะเบียนคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรักษาทะเบียน ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ และในกิจการอื่นทั่วไป และให้มีเจ้าหน้าที่ตาม สมควร ให้นายทะเบียนเป็นเลขานุการคณะกรรมการด้วย
| หน้าถัดไป »