วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน อุศเรนตีเมืองผลึก
หน้า 7
นางละเวงวัณฬาทราบว่าพระพี่กับพระบิดาสิ้นพระชนม์ ก็ตกใจจนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ชักตรีที่เหน็บในมือเสื้อจะแทงตัวตาย บรรดาพี่เลี้ยงแย่งเอาไว้ได้ แล้วทูลนางให้ขึ้นครองเมือง
แล้วชวนกันอัญชลีนีฤมล
อย่าสิ้นชนม์เชิญบำรุงกรุงลังกา
อันเยี่ยงอย่างปางก่อนบวรนาถ
เสวยราชย์เรียงกันตามชันษา
บัดนี้สิ้นปิ่นกษัตริย์ขัตติยา
พระธิดาจงเป็นใหญ่ได้เอ็นดู
จะได้คิดปิดอุมงค์ปลงพระศพ
เป็นเคารพรับตราพระราหู
แล้วจึงคิดกิจการผลาญศัตรู
ที่เป็นคู่เคืองแค้นแทนบิดร ฯ
ฝ่ายโฉมยงองค์ละเวงวัณฬาน้อย
ให้เศร้าสร้อยโศกทรวงดวงสมร
จึงตรัสตอบขอบคำที่ร่ำวอน
การนครควรคู่กับผู้ชาย
เราเป็นหญิงยิ่งเป็นเจ้าชาวสิงหล
ทุกตำบลจะบังอาจประมาทหมาย
จงจัดกันบรรดาเสนานาย
ช่วยสืบสายสมบัติกษัตรา
บรรดาพวกเสนาน้อยใหญ่ก็ช่วยกันทูลทัดทานด้วยเหตุผลต่าง ๆ
อันคนอื่นพื้นไพร่ใช่กษัตริย์
สุดจะจัดขึ้นเป็นปิ่นบดินทร์สูร
แม่เป็นหญิงจริงอยู่แต่ตระกูล
สืบประยูรปกเกล้าชาวลังกา
ฯลฯ
ประการหนึ่งซึ่งตราพระราหู
เป็นของคู่ขัตติยาเทวาถวาย
เป็นตราแก้วแววเวียนวิเชียรพราย
แต่เช้าสายสีรุ้งดูรุ่งเรือง
ครั้นแดดแข็งแสงขาวดูพราวพร้อย
ครั้นบ่ายคล้อยเคลือบสีมณีเหลือง
ครั้นค่ำช่วงดวงแดงแสงประเทือง
อร่ามเรืองรัศมีเหมือนสีไฟ
แม้นเดินหนฝนตกไม่ถูกต้อง
เอาไว้ห้องหับแห่งตำแหน่งไหน
ไม่หนาวร้อนอ่อนอุ่นละมุนละไม
ถ้าชิงชัยแคล้วคลาดซึ่งสาตรา
แต่ครั้งนี้ท้าวมิได้เอาไปศึก
เพราะท้าวนึกห่วงพระแม่แน่นักหนา
ด้วยเป็นหญิงทิ้งไว้จึงให้ตรา
ไว้รักษาสารพันอันตราย
จึงธนูผู้หญิงมันยิงถูก
ควรพระลูกทดแทนให้แค้นหาย
หญิงผลึกศึกกล้าเสียกว่าชาย
เชิญพระแม่แก้อายอย่าวายวาง ฯ


