วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน นางเสวคนธ์ได้เมืองวาหุโลม
หน้า 4
บรรดาพวกไพร่พลได้ฟังต่างก็พากันมานอบนบนับถือพระฤๅษี ฝ่ายเจ้าพาราวาหุโลมเที่ยวขับเสืออยู่องค์เดียว จนรุ่งเช้าไปพบกับพระกาล ไม่มีทหารเหลืออยู่เลย จึงถามพระกาลว่า จะคิดอ่านทำประการใด พระกาลทูลว่าให้พระองค์ตีหักออกไป ถึงกรุงแล้วเตรียมทัพกลับมารบ
จะขับเคี่ยวเดี๋ยวนี้แม้มิถอย
เหมือนน้ำน้อยดับไฟไม่สงบ
ด้วยข้าศึกฝึกฝนพลสมทบ
จึงรุมรบครั้งนี้ได้มีชัย ฯ
พระได้ฟังก็เห็นชอบแล้วขอหยุดพักอยู่ใต้พุ่มไม้ ส่วนพระกาลคอยเฝ้าระวังรักษาอยู่
ฝ่ายพระอัคคีครั้นรุ่งเช้า เห็นไพร่พลพร้อมอยู่ แต่ไพร่พลของท้าวราหุโลมนั้นตายอยู่เกลื่อนกลาด ตรีเมฆกับพระราหูพร้อมทั้งนายด่านชานชลามาทูลว่า จะใส่ปีกบินหนีไปเมืองแล้วคิดมารบใหม่ จึงให้กองตระเวณไปสกัดตามทางระหว่างภูเขา เมื่อเหนื่อยก็จะลงพักในป่า ให้ไล่ต้อนตามจับมา
ฝ่ายท้าวเจ้าวาหุโลมจะหักทัพกับพระกาล จึงใส่ปีกกับสองกร แล้วแต่งองค์ขึ้นทรงพยัคฆ์ นำพระกาลออกฝ่าวงล้อมจนอาวุธหลุดจากหัตถ์ แล้วจึงกระพือปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกไพร่พลก็พากันติดตามไป ฝ่ายพระกาลรบจนหมดกำลังเป็นลมล้มลง ตรีเมฆจึงให้ไพร่พลผูกมัดมา
ฝ่ายท้าวเจ้าเมืองบินหนีไปถึงเนินผา ให้เหนื่อยอ่อนจึงร่อนลงริมป่า พวกทัพซุ่มก็รุมจับไว้ได้ มัดแล้วนำตัวเข้าไปยังที่อยู่ของพระมุนี พระนักสิทธิ์พิศดูแล้ว เห็นท่วงทีท้าวเจ้าพารานับถือตัว ไม่กลัวตายแต่ก็สงสาร จึงให้แก้มัดเชิญให้นั่งแท่นแผ่นศิลา แล้วอภิปรายปราศรัยเป็นไมตรี บอกว่าตนสร้างพรตเพราะว่า ถือเป็นฤๅษีไม่นิยมสมบัติในแผ่นดิน ที่มานี้นึกจะใคร่ให้ได้บุญ แต่เป็นเพราะเคราะห์กรรมต้องทำศึก ที่จับได้มานี้จะไม่ฆ่า และจะทำคุณคืนไพร่พลให้
จะปล่อยให้ไปสำราญผ่านสมบัติ
รักษาสัตย์สืบสร้างทางกุศล
ถือศีลธรรมกรุณาประชาชน
จะได้พ้นภัยพาลสำราญใจ ฯ
ท้าวทมิฬได้ยินคำค่อยหายโกรธ จึงตรัสตอบว่าขอบใจ แต่ตนกลัวตาย ด้วยเสียทัพไปให้คิดอดสู ขอให้ฆ่าตนเสีย พระอัคคีมีจิตสังเวชจึงตรัสเทศนาว่า ธรรมดาสามัญคำโบราณว่าไว้
อันต่อตีมีแต่แพ้ชนะ
มิใช่จะเสียชาติวาสนา
เราจับได้ไม่สังหารผลาญชีวา
ท่านจะมาชิงตายเสียดายนัก
ฯลฯ
ท้าวทมิฬจึงตรัสตอบตามวิสัย น้ำใจหาญ ว่าเป็นชายชาญตามจามรี
สงวนศักดิ์รักยศสู้ปลดปลิด
รักชีวิตเหมือนไม่รักยศศักดิ์ศรี
ซึ่งร่ำปลอบขอบคุณพระมุนี เ
ราจะมีหนังสือให้ถือไป
ฯลฯ
ให้วาโหม ผู้เป็นพระลูกยาเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วให้พระกาลถือหนังสือไปแจ้งการให้ทราบ จากนั้นก็เอามีดกรีดศอเชือดคอตาย พระอัคคีมีจิตสงสารจึงให้ทำมณฑปศพท้าวเจ้าเมือง
ให้พระกาลด่านในไพร่ทั้งหลาย
ที่เหลือตายหลายหมื่นคืนไปหมด
ต่างรับสั่งพรั่งพร้อมน้อมประณต
จากบรรพตหมายมุ่งไปกรุงไกร ฯ
พระกาลเดินทางสองวันครึ่งก็ถึงเมืองวาหุโลม เข้าไปเฝ้าวาโหม ผู้เป็นหน่อท้าวเจ้าพารา ทูลเรื่องราวให้ทราบ วาโหมอ่านสารที่สไบ ที่พระบิดาเขียนมามีความว่า พระบิดาไปรบแล้วแพ้พระฤๅษีไม่ได้คิดฆ่า แต่จะต้องตายด้วยขายพระพักตร์ ขอให้ลูกยาขึ้นครองเมือง
อย่ารบพุ่งมุ่งร้ายเมื่อภายหลัง
จงเชื่อฟังนับถือพระฤๅษี
อุปถัมภ์ทำบุญกับมุนี
เอาเป็นที่พึ่งพาข้างหน้าไป
ฯลฯ


