วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>

พระอภัยมณี

เรื่อง พระอภัยมณี

ต่อจากคำกลอน

หน้า 4

ฝ่ายพระมังคลาล่าทัพไปตั้งอยู่ทางทิศใต้เมืองลังกา คอยรับทัพประเทศราชและสัมพันธมิตร ที่จะยกมาช่วยพอทัพเหล่านั้น ยกมาถึงพร้อมกัน พระมังคลาก็ยกทัพมาประชิดเมืองลังกาอีก ศรีสุวรรณก็ยกทัพออกรบจนทัพประเทศราชต้องล่าถอย พระมังคลาคิดจะกลับเมืองกำพลเพชร แต่นางกฤาณาเกรงว่าผู้คนในเมืองนั้น จะกระด้างกระเดื่องจึงให้ยกทัพไปทางทิศหรดี นางกฤษณาไปคลอดโอรสแฝดตามทางสามคนชื่อ เทวสินธ์ เทพจินดา และราเมศร์ แล้วนางกฤษณาไปกระโจนน้ำตาย พระมังคลาจึงพาลูกทั้งสามไปถึงเกาะกาหวี เป็นเมืองโบราณ ไม่มีผู้คน ถูกผีห่ากินหมด จึงอาศัยอยู่ที่เกาะนั้น

ทัพที่พลัดไปถึงเมืองกำพลเพชร พวกเสนาทราบข่าวจึงจัดเรือออกตามไปถึงเมืองสำปั่นหนา ท้าวรายาเจ้าเมืองรับช่วยเหลือจัดกำปั่นออกติดตามไปพบ จึงเชิญพระมังคลากลับไปครองเมืองกำพลเพชร พระมังคลาจึงให้โอรสทั้งสามครองเมืองกาหวี ระหว่างเดินทางมาถึงเมืองสำปันหนา ได้ไปเฝ้าท้าวรายา ท้าวรายาเชิญให้พระมังคลาพักอยู่ที่เมืองก่อน ระหว่างที่พักอยู่ได้ลอบรักกับนางดวงแข ธิดาท้าวรายาโดยที่ท้าวรายาไม่ทราบความ

ทางเมืองลังกา พระอภัยกับศรีสุวรรณจัดการอภิเษกพระกฤษณากับนางเทพเทพิน แล้วให้ไปอยู่เมืองรมจักร ส่วนวลายุดา วายุพัฒน์ และหัสกัน เมื่อเสร็จศึกแล้วจึงลากลับไปยังบ้านเมืองของตน

ฝ่ายพระมังคลา เมื่อนางดวงแขมีครรภ์ ท้าวรายาทราบความจึงจัดการอภิเษกพระมังคลาให้เป็นอุปราช นางดวงแขคลอดธิดาให้ชื่อว่า ระเด่นกินเรศ ต่อมาสังฆราชบาทหลวงกับพระมังคลาคิดจะไปแก้แค้นเมืองลังกาอีก จึงขอกองทัพเรือท้าวรายา สมทบกับกองทัพเมืองกำพลเพชร ยกไปตีเมืองใหม่ได้ ศรีสุวรรณ  และสุดสาคร ช่วยกันระดมกำลังตีทัพพระมังคลาแตกกลับไป
มีโจรสุหรั่งชื่อ มะหุต ยกกำลังไปตีด่านปากน้ำเมืองรมจักร พระกฤษณา กับสามพราหมณ์ คือ วิเชียร โมรา และสานน ช่วยกันป้องกันเมือง รบติดพันกันอยู่

ฝ่ายศรีสุวรรณ เสร็จศึกลังกาแล้ว จึงทูลลาพระอภัยกลับเมืองรมจักร พระอภัยให้นางนิลกัณฐี และตรีพลำ ไปด้วย เมื่อมาถึงปากน้ำเมืองรมจักร เห็นมีการรุกรบติดพันกันอยู่ จึงให้กองทัพตีขนาบเข้าไป พวกโจรสุหรั่งเห็นเหลือกำลัง จึงยอมสวามิภักดิ์ ศรีสุวรรรได้จัดการอภิเษกพระเทวัญ กับนางนิลกัณฐี และตรีพลำกับนางอัมพวัน

<< ย้อนกลับ || สารบัญ || หน้าถัดไป >> หน้า 5

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย